หากพูดถึงรถในรูปแบบ Roadster หนึ่งในรุ่นที่กล่าวขานมากที่สุด ก็คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกเสียจากสปอร์ตโร๊ดสเตอร์ที่ได้รับความนิยม และมียอดจำหน่ายสะสมสูงที่สุดในโลกอย่าง Mazda MX-5 ด้วยความที่เป็นรถที่ขับได้สนุก และมีค่าตัวที่ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า สปอร์ตโร๊ดสเตอร์มินิไซส์ Mazda MX-5 สามารถทำในสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ เช่น การขับขี่ในรูปแบบ Off Road ที่มันดูจะห่างไกลกับสไตล์ของตัวรถไฟหลายขุมเลยทีเดียว แต่…ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละ ในเมื่อภาพที่เราเห็นอยู่นี้…มันคือ สิ่งที่ฟ้องทุกสิ่งจริงๆ
Mazda MX-5 โฉม NA เวอร์ชั่นออฟโร๊ด…มาไกลจนแทบจำของเดิมไม่ได้จริงๆ
จะว่าไป Mazda MX-5 ที่ถูกแต่งแต้มในสไตล์ Off Road นั้น อาจไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่เสียทีเดียว แค่เป็นสิ่งที่เราๆ ท่านๆ อาจไม่ค่อยได้เห็น โดยก่อนหน้านี้ ช่วงปลายปี 2020 มีการเผยคลิปการสร้างรถ Mazda MX-5 ที่ถูกอัพเกรดลุคไปในสไตล์สายลุยเต็มรูปแบบ จัดขุมพลังใหม่ ใส่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไป โดยยกเอาเครื่องเคียงจากรถตระกูล Impreza ที่โด่งดักในวงการทางฝุ่นมาใช้ เครื่องยนต์มาในรหัส EJ205 แบบ Boxer พิกัด 2.0 ลิตร โดยยกเอาชุดช่วงล่างและระบบส่งกำลังมาด้วยอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนจะอัพชุดเทอร์โบใหม่ จัดการเรื่องระบบระบายความร้อน รวมถึงระบบการจ่ายเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น กำลังที่ทำได้ของ Mazda MX-5 คันนี้ คือ 360 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 488 นิวตัน-เมตร
โดยคลิปดังกล่าวเป็นผลงานการสร้างของ Gingium ที่นำเอา Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นแรก หรือรถในรหัส NA มาจัดทรงใหม่ในแบบฉบับความเป็นสายลุยภายในเวลา 8 เดือนเศษๆ โดยในคลิป 10 นาที ที่เห็นอยู่นี้…มีขั้นตอนการทำอย่างแบบครบๆ ดูแล้วสามารถเข้าใจได้ง่าย แต่สำหรับใครที่ใจไม่ถึงพอที่จะดูภาพการตัด การเฉือนชิ้นส่วนที่เกินจำเป็นของ Mazda MX-5 คันนี้ อาจต้องทำใจก่อนเข้าชมสักหน่อย แต่ที่แน่ๆ เป็น 10 นาที ที่คุ้มค่ากับการรับชมอย่างแน่นอน
เดิมๆ ก็ไปได้…Joel Gat ไม่ได้กล่าว แต่เขาทำให้เราได้เห็นในการพิชิต Imogene Pass
ส่วนอีกคันที่เราจะได้เห็นกันนั้น เป็น Mazda MX-5 ที่ถูกสร้างสรรค์ผลงานโดย Joel Gat โดย MX-5 โฉม ND คันที่เราเห็นอยู่นี้ก็คือ เมื่อเทียบกับคันแรก ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลายจนแทบจำของเดิมไม่ได้ แต่ในคันนี้ เน้นการตกแต่งสไตล์ออฟโร๊ดที่ดูเรียบง่าย มินิมอลสุดๆ เดิมขนาดที่แม้แต่ชุดช่วงล่าง ยังคงใช้ชุดช่วงล่างสแตนดาร์ดจากโรงงาน มีแค่การถอดชุดสเกิร์ตข้าง พร้อมตัดขอบซุ้มล้อออก ทุบผนังซุ้มล้อด้านใน เพื่อที่จะยัดชุดล้อจาก Sparco และชุดยาง All Terrain ขนาด 27 นิ้ว จาก Falken เท่านั้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนเพียงเท่านี้ ก็ดีพอที่จะพิชิดเส้นทาง Imogene Pass ใน Colorado ได้สำเร็จ
ทาง Joel Gat ให้ข้อมูลว่า “เขาใช้รถ Mazda MX-5 คันนี้ ใน 90% ของการเดินทางในชีวิต ซึ่งเขาอยากจะเติมเต็มในอีก 10% ที่เหลือ เพื่อให้สามารถใช้ Mazda MX-5 คันเก่งของเขาได้อย่างสมบูรณ์ 100% ภาพลักษณ์ที่ได้เห็นจึงเกิดขึ้น” แม้ว่าจะขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหลัง แต่หากเน้นและเข้าใจถึงข้อจำกัดของตัวรถเป็นอย่างดี ก็สามารถพา Mazda MX-5 เวอร์ชั่นออฟโร๊ดคันนี้ ไปยังที่ที่ต้องการได้แบบสบายๆ โดยสิ่งที่ Joel Gat ต้องการต่อจากนี้ คือ ชุดโช้กอัพจาก Fox เท่านั้น !!!
