Mazda CX-3 ใหม่ ครอสโอเวอร์สำหรับคนรักความท้าทาย หนึ่งเดียวกับขุมพลัง 2.0 ลิตร ที่ยังคงเร้าใจ…ไม่รู้จบ !

Mazda ถือเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเริ่มต้นรุ่นแรก คือ CX-5 จนถึงปัจุบันขายไปแล้วกว่า 34,000 คัน ตามมาด้วย CX-3 ขายไปแล้วเกือบ 29,000 คัน และรุ่นท็อปสุดคือ CX-8 ขายไปแล้วกว่า 6,000 คัน และรุ่นล่าสุด คือ CX-30 แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ร้อนแรงมากที่สุดขายไปแล้วกว่า 22,000 คัน รวมทั้งสิ้นมาสด้าขายรถในตระกูล CX-Series ที่อยู่ในการครอบครองของลูกค้าคนไทยกว่า 91,000 คัน

Mazda CX-3 ใหม่…Never Settle for Less ความท้าทายใหม่ไม่รู้จบ

เมื่อเร็วๆ นี้ มาสด้าเปิดตัว Mazda CX-3 ครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมแนวคิด “Never Settle for Less ความท้าทายใหม่ไม่รู้จบ” ที่ได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย พร้อมรุ่นย่อยใหม่ 2.0 Sport Luxe ครบครันด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและการออกแบบจาก โคโดะดีไซน์ อันสง่างามสปอร์ตโดดเด่นไม่เหมือนใคร เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน 16.4 กม./ลิตร พร้อมใส่ระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม คุณภาพล้นคัน คุ้มค่าเกินราคา เริ่มต้นเพียง 770,000 บาท เท่านั้น

Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe รุ่นย่อยใหม่กับค่าตัว 970,000 บาท

ครั้งนี้…มาสด้าจัดทดสอบ Mazda CX-3 โดยพาสื่อมวลชนออกเดินทางไปสัมผัสสมรรถนะการขับขี่อันเหนือระดับ และคุณสมบัติที่ครบครันคุ้มค่าเหนือราคาของรถรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น สมรรถนะความแรงของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร (SKYACTIV-G 2.0) ให้พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร กำลังแรงอัดสูงสุด 14:1 มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เทคโนโลยีใหม่ครบครันยิ่งขึ้นจาก i-Activsense ที่มอบความปลอดภัยและช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างง่ายดาย เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ตลอดจนถึงดีไซน์ใหม่ล่าสุดทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้แนวทางการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ อันสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ให้ความสปอร์ตพรีเมี่ยมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว ถึงแม้จะนั่งกันถึง 4 คน แต่ยังนั่งสบายในทุกตำแหน่ง ช่วยมอบประสบการณ์ความสุขให้กับคณะตลอดการเดินทางไปกลับกว่า 400 กิโลเมตร บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการทดสอบในครั้งนี้

อัตราเร่ง Mazda CX-3 โดยการทดสอบของ #ทีมขับซ่า

แน่นอนว่าการทดสอบสมรรถนะรถครอสโอเวอร์ Mazda CX-3 ในครั้งนี้ เป็นไปในรูปแบบฟรีสไตล์ เพื่อให้ได้สัมผัสถึงคาแร็กเตอร์ของตัวรถได้อย่างเต็มที่ ระบบช่วงล่างที่ต้องยอมรับว่าเกาะหนึบทุกการเข้าโค้ง หรือการใช้ความเร็งสูง พวงมาลัยแม่นยำคมกริบ ทำให้รู้สึกสนุกในการขับขี่ และเปิดโอกาสให้ทดสอบการขับขี่ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งขับขี่แบบ Public Road บนเส้นทางการขับขี่ในเมือง นอกเมือง และบนถนนที่คดเคี้ยว ซึ่งล้วนแต่เป็นเส้นทางจริงที่ใช้ในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดยจัดเป็นรถรุ่น 2.0 Sport Luxe มาให้สัมผัสเทคโนโลยี

เริ่มต้นการเดินทางในช่วงเช้า จุดนัดพบใจกลางเมืองย่านธุรกิจ อโศก-สุขุมวิท เพื่อให้สมาชิกได้สัมผัสการจราจรที่หนาแน่นในวันทำงาน โดยเฉพาะการขับขี่บนถนนในเมืองที่แออัด และมุ่งหน้าขึ้นทางด่วนไปยังจุดหมายแรก มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี ขึ้นสะพานเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ก่อนที่จะข้ามสะพานเพื่อเลี้ยวเข้าเส้นธนะรัชต์ เพื่อแวะทานอาหารกลางวัน และออกเดินทางไปยังโรงแรมโดยใช้เส้นด้านหลังที่คดเคี้ยวกว่า 40 กิโลเมตร เพื่อเข้าเช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก The Gallery เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อฟังบรรยายสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์ พร้อมเปิดโอกาสให้เจาะทุกซอกทุกมุมเพื่อค้นหาความโดดเด่น Mazda CX-3 กันตามอัธยาศัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากมาสด้าคอยให้คำแนะนำ เพื่อตอบคำถามคลายข้อสงสัยหลังจากที่ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่กันมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะชวนสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมออกกำลังปั่นจักรยานและพายเรือคายัค ซึ่งเป็นความหลากหลายของการเดินทางไปกับ Mazda CX-3 ซึ่งถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่สามารถพาไปได้ทุกที่ และทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด และเตรียมตัวออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น

หนึ่งเดียวในคลาส กับขุมพลัง 2.0 ลิตร Skyactiv-G

Mazda CX-3 มอบพละกำลังที่เหลือล้น และเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 156 แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 16.4 กม./ลิตร* (จากการทดสอบจริงโดย #ทีมขับซ่า เฉลี่ยอยู่ที่ 15.4 กม./ชม.) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังมาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล ทั้งขณะเข้าโค้ง อยู่ในโค้ง และออกจากโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

อัตราสิ้นเปลือง Mazda CX-3 โดยการทดสอบของ #ทีมขับซ่า

การออกแบบดีไซน์ของ Mazda CX-3 ได้รับการยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยม มีเอกลักษณ์ในสไตล์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอก ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ซุ้มล้อสีดำเงา และหลังคาสีดำเงา และมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ในขณะที่ภายในห้องโดยสารก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมาพร้อมความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ พร้อมกรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา แอโร เกรย์ ที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ความสปอร์ตหรูไปอีกระดับ

ภายในห้องโดยสารของ Mazda CX-3

ภายในห้องโดยสารของ Mazda CX-3

ยังคงความสะดวกสบายครบครัน โดยได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน มาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานเร้าใจ ช่วยให้เปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดกับ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto^TM โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว พร้อมมอบความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ที่ตอบการใช้งานในยุคดิจิทัล ช่วยให้ทุกการติดต่อเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น

Mazda CX-3 ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นรถที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC), ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) รวมถึง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบ Stop & Go (MRCC with Stop & Go)