ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่กำลังมาแรงในบ้านเรา โดยในงาน Motor Show ที่ผ่านมา ค่าย Kia รถยนต์แบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ สามารถทำยอดจองได้กว่า 1,100 คัน เป็นการส่งสัญญาณว่า ผู้บริโภคพร้อมเปิดใจรับแบรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ หากสามารถทำราคาได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งแน่นอนว่า รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดภายในงาน คงหนีไม่พ้น รถอเนกประสงค์พลังไฟฟ้าอย่าง Kia EV5 ที่นำเข้าจากประเทศจีนภายใต้เงื่อนไข FTA หรือภาษีนำเข้า 0% นั่นจึงทำให้รถอเนกประสงค์รุ่นนี้ สามารถตั้งราคาได้ในระดับที่คนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
และเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าสู่ตลาดโลกให้กว้างขึ้น ล่าสุดค่าย Kia ได้เผยแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ โดยให้ข้อมูลออกมาว่า ภายในปี 2027 หรืออีกราวๆ 3 ปีข้างหน้า Kia จะทำตลาดรถ EV ให้ครบ 15 รุ่น ในทุกเซ็กเม้นท์ (รวมถึง Kia EV2, EV3 และ EV4) โดยตั้งเป้ายอดขายไว่ที่ 1.6 ล้านคัน ทั่วโลก ภายในปี 2030 ในขณะเดียวกัน ทางค่ายเตรียมจะเปิดตัวรถในรูปแบบไฮบริดอีก 6 รุ่น ภายในปี 2024 นี้ (และเพิ่มเป็น 9 รุ่น ในปี 2028) โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งยอดขายทั่วโลกเอาไว้ที่ 20% โดยนอกจากรถในรูปแบบทั่วไปแล้ว Kia ยังวางแผนที่จะเพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถสมรรถนะสูงด้วย Kia EV9 GT ซึ่งสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาต่ำกว่า 4 วินาที เพื่อขยายกลุ่มตลาดรถ EV ให้ครอบคลุมอีกด้วย
ในช่วงเริ่มต้นของแผนการเปิดตัวรถในระยะอันใกล้นี้ Kia จะเริ่มต้นทำตลาดด้วย Kia EV2, EV4 และ EV5 ซึ่งเริ่มทำตลาดในประเทศจีนและออสเตรเสีย ก่อนที่จะมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในงาน Motor Show 2024 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ Kia ยังจะทำตลาดรถ EV เพื่อการพาณิชย์อย่าง Kia EV3 ซึ่งมาในรูปแบบรถตู้อเนกประสงค์ และมีแพลนว่าจะเปิดตัวในตลาดโลกช่วงกลางปีนี้ ในส่วนของโมเดลที่เปิดตัวไปแล้ว เช่น Kia EV6 ทางค่ายมีแพลนที่จะปรับโฉมเพื่อเพิ่มความสดใหม่ ช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีการปรับขนาดของแบตเตอรี่ให้มีความจุเยอะขึ้น (เดิมอยู่ที่ 82 kWh) เพื่อการใช้งานที่มีความยืดหยุ่น
หากกำหนดการดังกล่าวเป็นไปตามแผน Kia คาดว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าของค่าย จะมีอัตราส่วนอยู่ที่ 38% เมื่อเทียบกับรถทั้งหมดที่มีจำหน่าย (เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 10%) ในขณะเดียวกับ Kia ยังคาดหมายว่า 20% หรือประมาณ 886,000 คัน จากยอดขายทั่วโลก จะเป็นยอดขายที่มาจากรถไฮบริด ซึ่งจะเพิ่มจากปัจจุบัน ที่คิดเป็น 14% เท่านั้น