Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวในประเทศไทยด้วย 5 รุ่นย่อย ซึ่งแยกรูปแบบขุมพลัง ระบบขับเคลื่อน รวมถึงจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยารได้อย่างครอบคุลม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกรูปแบบตามความต้องการของตัวเองได้อย่างตรงจุดมากที่สุด โดย Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 ถูกวางช่วงราคาไว้ตั้งแต่ 1.419 – 1.729 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่พร้อมชนกลุ่มรถในรูปแบบ C-Segment SUV ทั้งตลาด ตั้งแต่เรริ่มต้น จนถึงระดับท็อปคลาส ที่จัดออพชั่นอำนวยความสะดวก รวมถึงระบบความปลอดภัยมาให้อย่างครบครันเลยทีเดียว
ซึ่งด้วยความหลากหลายของ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จะนำทุกท่านไปเจาะลึก เพื่อแยกรายละเอียดของรุ่น, ย่อยต่างๆ ว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน มีอุปกรณ์หรือระบบความปลอดภัยใดๆ ที่ให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่ม แบบที่ผู้ใช้…ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็นกันบ้าง หรือหากอยากไปให้สุดกับรุ่น RS จะต้องจ่ายเพิ่มจากรุ่นอื่นๆ มากน้อยแค่ไหน และมีอุปกรณ์หรือระบบใด ที่ได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง ?
รายละเอียดที่มีเหมือนกันทุกรุ่นย่อยใน Honda CR-V 2023
หากเทียบรายละเอียดจากตารางในด้านบน ต้องยอมรับว่า ฟังค์ชั่นหลักๆ ของ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 ถือว่ามีมาตั้งแต่ในรุ่น E ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงอย่าง Honda SENSING, ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง, ระบบไฟส่องสว่าง LED พร้อมฟังค์ชั่นเปิด – ปิด ปรับสูง – ต่ำอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเต็มอิ่มด้วยฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวก เช่น เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง + ดันหลัง 4 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่, หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ 9 นิ้ว รองรับ Apple Carplay ไร้สาย และ Android Auto, ระบบช่วยป้องกันเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร โดยองประกอบที่มีความแตกต่างกันสำหรับทั้ง 5 รุ่นย่อย คือ ความสูงของตัวรถ ซึ่งในรุ่นที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ (1.5 ES, 1.5 EL และ e:HEV RS) ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 10 มม. เพื่อการผ่านอุปสรรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟันธงแบบรวบรัดในหัวข้อนี้ หากไม่ต้องการออพชั่นใดๆ เพิ่มเติม รุ่น 1.5 E ที่ราคา 1.419 ล้านบาท คือ คุ้มมากๆ ด้วยความที่ได้ออพชั่นระดับสูงในระดับที่น่าพอใจ เช่นเดียวกับรุ่นที่ราคาสูงกว่าหลายช่วงตัว โดยฟังค์ชั่นที่หายไปในรุ่น E ประกอบไปด้วย หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ, ปลายท่อคู่สเตนเลส, แพดเดิ้ลชิฟท์, หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว (รุ่นอื่นเป็น 10.2 นิ้ว), กล้องมองรอบทิศทาง (มีเพียงกล้องมองด้านหลัง), แอมเบียนไลท์ และฟังค์ชั่นรองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Honda Connect
รายละเอียดที่ต่างกันในแต่ละรุ่นย่อยของ Honda CR-V 2023
แต่อย่างที่รู้กันว่า Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 เซ็ตรุ่นย่อยที่แตกต่างกันมาถึง 5 เลเวล นั่นหมายความว่า ออพชั่นที่ให้มา ล้วนถูกซอยย่อยให้ผู้ที่สนใจได้เลือกใช้มากขึ้นไปอีก เริ่มตั้งแต่เรื่องพละกำลัง ที่มีให้เลือกตั้งแต่ในรูปแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ (รุ่น E, ES และ EL ซึ่งเป็นรุ่นเดียว ที่มาในรูปแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยใน 2 รุ่นหลัง มาในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ) และรุ่นไฮบริด e:HEV จับคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร (รุ่น ES ขับเคลื่อนสองล้อหน้า, รุ่น RS ขับเคลื่อนสี่ล้อ) โดยสิ่งที่ทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์ มีการเซ็ตอุปกรณ์ที่แตกต่างกันก็คือ ในรุ่น เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จะมี Paddle Shift มาให้ลำหรับปรับตำแหน่งเกียร์ แต่สิ่งที่หายไป คือ โหมดการขับขี่แบบ Sport, ระบบฟอกอากาศ Plasma Cluster, เซ็นเซอร์กะระยะ หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด รวมถึงชุดซ่อมยางชั่วคราว หากมองรายละเอียดเพียงเท่านี้ รวมถึงไม่ได้ต้องการระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือเบาะแถวที่ 3 ในรุ่น e:HEV ES ที่ราคา 1.589 ล้านบาท (ต่ำกว่ารุ่น ES 4WD อยู่ 10,000 บาท และต่ำกว่ารุ่น EL 4 EL ที่มาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง ถึง 60,000 บาท และเพืมจากรุ่น E เพียง 170,000 บาท) ถือว่ามีความคุ้มค่า และได้อุปกรณ์ ออพชั่นในระดับที่เทียบเท่ารุ่นที่ราคาสูงกว่า โดยยังคงได้เทคโนโลยีเครื่องยนต์พร้อมอัตราสิ้นเปลืองในระดับกว่า 20 กม./ลิตร จากระบบไฮบริด e:HEV อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว สำหรับ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 รุ่น e:HEV RS จะมีอุปกรณ์ที่มีความแตกต่าง (เป็นสิ่งที่รุ่นอื่นมี แต่รุ่น RS เหนือกว่า) เริ่มตั้งแต่ ทริมการตกแต่งภายนอก ที่เน้นการตัดด้วยสีดำ Piano Black พร้อมกับการจับคู่กับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 235/55 R19 และมาพร้อม Key Card สำหรับเปิดประตู เข้าสู่ภายในห้องโดยสาร ที่ดีไซน์ให้มีความแตกต่าง โดยเป็นการผสมผสานระหว่างผิววัสดุอลูมิเนียมปัดเงา ตัดด้วยสีดำ Piano Black ตัดเย็บด้วยด้ายสีแดง (รุ่นอื่นๆ เป็นลายไม้ ส่วนในรุ่น E จะเป็นทริมตกแต่งด้วยสีซิลเวอร์) พร้อมยังอัดแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ช่วยเติมอรรถรสในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ชุดเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง รวมถึงระบบปรับอากาศแบบ i Dual Zone
ออพชั่นที่มีเฉพาะใน Honda CR-V e:HEV RS
ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับคนที่กำลังมองตัวท็อป ขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่าง Honda CR-V e:HEV RS ด้วยงบ 1,729,000 บาท ที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ,ของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ มา 80,000 และ 130,000 บาท ตามลำดับ สิ่งที่จะได้เพิ่มขึ้นมา (เป็นอุปกรณ์ที่รุ่นอื่นไม่มี) คือ Head Up Display สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกบังลมหน้า, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์, แป้นเหยียบคันเร่งแบบสปอร์ต นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยเพื่มขึ้นมา คือ ไฟหน้า LED อัจฉริยะ และ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว รวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็น และไม่ได้ระบุในสเป็ค เช่น การเซ็ตช่วงล่าง ยังเป็นการเติมประสิทธิภาพการขับขี่ รวมถึงยกระดับสมรรถนะและความปลอดภัยมาในระดับที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ระดับราคา Honda CR-V 2023
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบสเป็ค รวมถึงระดับราคา เพื่อให้เห็นภาพรวมของความเป็น Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 ส่วนรายละเอียดเพื่มเติม ซึ่งเป็นจุดหลักๆ ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ คงต้องลองสัมผัสและทดลองขับรถจริงเพื่อให้เห็นและแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้น