ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ภายในงาน CES 2024 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา สำหรับค่าย Honda ซึ่งในปีนี้ ได้นำรถต้นแบบสุดล้ำมาโชว์ตัวภายในงานถึง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Honda Saloon รวมถึง Space-Hub EV Concept ซึ่งถือว่าเป็นการเผยแนวโน้มของรถในตระกูล 0 Series ของแบรนด์ ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต
เห็นดีไซน์คอนเซ็ปท์ของ Honda ทั้ง 2 รุ่นแล้ว ต้องบอกว่าชวนให้นึกถึงภาพลักษณ์ของรถสุดล้ำในรูปแบบ Retro Modern ที่ได้กลิ่นอายมาจาก “รถทรงลิ่ม” ในยุค 70 โดยเฉพาะกับ Honda Saloon EV Concept ที่ชวนให้นึกถึงลุคสุดเท่ของ Aston Martin Bulldog สปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลานั้น และนิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ การที่ Honda ประกาศชัดแล้วว่า จะนำดีไซน์ในรูปแบบนี้ มาใช้กับรถในตระกูล 0 Series ที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงภายในปี 2026 (นอกจากประตูแบบปีกนกที่เห็นในรถต้นแบบ) นอกจากนี้…ยังมีการปรับโลโก้ H Mark ใหม่ ในสไตล์ย้อนยุค เพื่อใช้กับรถในกลุ่ม EV โดยเฉพาะ
ทางค่าย Honda แพลนไว้ว่า จะเปิดตัว Honda Saloon EV Concept (เวอร์ชั่นผลิตจริง) ที่แรกในอเมริกา ตามด้วยญี่ปุ่น, เอเซีย, ยุโรป, แอฟริกา, ตะวันออกหลาง รวมถึงอเมริกาใต้ ในอนาคต โดยจะใช้แพลตฟอร์มใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อความเป็นรถ EV โดยเฉพาะ ซึ่งมีจุดเด่นที่ความกว้าของตัวรถ การวางพื้นแพลตฟอร์มในตำแหน่งที่ต่ำ ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ ยังจะมาพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมฟังค์ชั่นทั้งหมดได้ผ่าน Human-Machine Interface (HMI) ที่ออกแบบโดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แล้ว รถในตระกูล 0 Series ยังจะออกแบบให้สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ Steer-by-Wire รวมถึงระบบสั่งการด้วยท่าทางแบบเคลื่อนไหว ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า…ระบบทั้งหมดนี้ จะถูกใส่เข้ามาในเวอร์ชั่นที่ขายจริง
ในงาน CES 2024 นอกจาก Honda จะเผยโฉม Honda Saloon EV Concept ว่าที่ EV Sedan รุ่นแรกของค่ายแล้ว ทางค่ายยังได้นำรถอเนกประสงค์ในชื่อ Space-Hub EV Concept มาโชว์ตัวภายในงานด้วย หากมองในแง่ความเป็นไปได้ นี่อาจกลายมาเป็นตัวตายตัวแทนของ Honda Odyssey ในอนาคต ส่วนความเคลื่อนไหวของการผลิต Honda Saloon EV Concept ณ ปัจจุบัน Honda ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ขั้นตอนการออกแบบและผลิตจริงของ Honda Saloon EV Concept ในปี 2026 นั้น ถือว่าเป็นรูปเป็นร่างไปแล้วถึง 90% ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ อยู่ในระหว่างการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลภายในสำนักงานใหญ่ของ Honda ในอเมริกา