รถยนต์พลังงาานไฟฟ้า หรือ รถ EV มีบทบาทและความนิยมสูงขึ้นมากกว่า 400% เมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีก่อน ด้วยความที่ผู้ใช้ หันมาให้ความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีการขับเคลื่อน รวมถึงการใช้งานที่ปล่อยมลพิษน้อยลง โดยมีเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อกิโลเมตร รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่ต่ำลงมาเป็นของแถม หลังจากที่ครั้งก่อน #ทีมขับซ่า ได้อธิบายเรื่องของแนวทางในการคำนวน เบี้ยประกันภัยสำหรับรถ EV ไปก่อนแล้ว ในครั้งนี้…เราจะพามาดูกันว่า หากคุณเป็นผู้ใช้รถ EV ในแต่ละปี คุณจะต้องเสียภาษีประจำปี (ภาษีป้ายวงกลม หรือสี่เหลี่ยมในปัจจุบัน) สำหรับรถคันนั้นๆ กี่บาท ?
โดยปกติแล้ว…หากคุณขับรถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ลักษณะการคิดภาษีประจำปี จะแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบตามประเภทของตัวรถ เช่น รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายขาวตัวหนังสือดำ) จะคิดตามขนาดความจุของเครื่องยนต์ หรือ ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) โดยจะมีส่วนลดอัตราภาษี สำหรับรถที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี เป็นต้นไป โดยจะลดตั้งแต่ 10% เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเพดานสูงสุดที่ 50% แต่หากเป็น รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายขาวตัวหนังสือฟ้า) หรือ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (ป้ายขาวตัวหนังสือเขียว) จะคิดตามน้ำหนักของตัวรถ ส่วนหากเป็นมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล จะคิดเป็น “คัน” ในอัตราคันละ 100 บาท/ปี
ด้วยรูปแบบการคำนวนที่มีความหลากหลาย ทำให้ผู้ใช้บางท่าน ยังสับสนว่า แล้วสำหรับรถ EV ที่ไม่ได้มีตัวเลขความจุของเครื่องยนต์ หรือ ซีซี. มาเป็นตัวตั้งในการคำนวนแล้ว…การคิดอัตราภาษี จะเป็นไปในทิศทางไหน ? ในส่วนตรงนี้…ตามประกาศกรมการขนส่งทางบกล่าสุด อ้างอิง อัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 กำหนดให้ผู้ใช้ ชำระภาษีประจำปีรถ EV หรือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ตามน้ำหนักของตัวรถ ใน อัตราเดียวกับรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง ซึ่งหากเป็นรถ EV ในรูปแบบอื่นๆ ให้ยึดอัตราการเสียภาษีกึ่งหนึ่งตามประเภทของตามน้ำหนักและประเภทของรถในรูปแบบนั้น
ยกตัวอย่าง หากคุณใช้รถ EV ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง โดยตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 1,850 กก. จะต้องเสียภาษีประจำปีทั้งสิ้น 1,600 บาท/ปี แต่หากคุณใช้งานรถบรรทุกส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน (เช่น Toyota Hilux REVO BEV ในอนาคต ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีน้ำหนักตัวรถอยู่ระหว่าง 1,750 – 2,500 กก.) ความเป็นไปได้ในการเสียภาษีประจำปีจะอยู่ที่ 675-825 บาท เป็นต้น หรือหากวางแผนว่าในอนาคตจะซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้งาน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนั้น จะมีอัตราการเสียภาษีประจำปีอยู่ที่ 50 บาท ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่มอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์ ต้องชำระอยู่ครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ทั้งนั้น…ล่าสุด ครม. มีประกาศลดภาษีประจำปีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน หรือ รถ EV ลงอีก 80% จากอัตราที่กำหนดเป็นเวลา 1 ปี สำหรับ รถ EV ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึง 30 กันยายน 2568 เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้หันมาใช้ รถ EV กันมากขึ้น นั่นเท่ากับว่าหากยึดตัวอย่างของรถในด้านบนที่ยกมา เพื่อจดทะเบียนใน 1 ปีแรก จะต้องชำระภาษีประจำปี 330 บาท (1,600 บาท ลด 80%) ส่วนปิคอัพไฟฟ้าคันเดิม จะต้องชำระภาษีประจำปี ในปีแรกที่จดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 135-165 บาท และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนและเสียภาษีในปีแรก จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10 บาท เท่านั้น