วาล์วกี่ตัว เหมาะสมสุด ??… ด้านเทคนิคการผลิต สมรรถนะ การดูแลรักษา ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

สมัยที่ “ปล้อน” ยังเรียนอยู่นั้น เขาสนใจเครื่อง 4A-G ตัว 20 วาล์วมาก เคยคิดจะนำมาวางใน “ไอ้หน้าแหลม” ก็กลัวจะแบกน้ำหนัก เพราะรถมันใหญ่แต่เครื่องตัวนี้แรงบิดมาที่รอบสูง เลยไปเอา 3T-GTEU เทอร์โบมาวางแทน ซึ่งก็แรงสะใจ เขาสามารถ “ทำเอี๊ยด” เกียร์สาม ลั่นซอยอาลาดินได้…

   การชอบและศึกษาด้านวิศวกรรมยานยนต์ทำให้เขารู้ว่าทั้ง FIAT, PEUGEOT นั้นได้นำเครื่อง 4 วาล์วต่อสูบมาวาง ร้อยกว่าปีมาแล้ว ถึงตรงนี้ “ปล้อน” สงสัย อยากรู้เป็นอันมากว่าทำไมพวกเราไม่คิดทำเครื่องที่มี 5,6,7…8 วาล์วต่อสูบออกมาบ้างวะ ??  

 ราวรู้ใจ เพราะหลังจากที่เขาจบมาไม่นาน หันมาบ้าบิ๊กไบค์ ทั้ง  YAMAHA  ก็เคยทำออกมาขาย (รวมทั้งรถยนต์ AUDI ด้วย) แต่ก็ไม่เห็นทำพวก  6,7..วาล์วออกมา มันมีปัญหาอะไร ด้านเทคนิคการผลิต ต้นทุน สมรรถนะ การดูแลรักษา ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงหรือไม่ “ปล้อน” นั้นอาจารย์รักเพราะรู้จักเสาะหา “กับแกล้ม” เด็ดๆมาให้ท่านเสมอ อาจารย์ “ขวัญ” อธิบายเสียงอ้อแอ้ว่า

“ปล้อนเอ๊ย การที่เราเพิ่มจำนวนวาล์วขึ้นไปนั้น สิ่งที่ต้องการคือ หนึ่ง-เพิ่มพื้นที่ของวาล์ว เพื่อสอง-เพิ่มโฟลว์การไหลของไอดี/ไอเสีย สาม-เพิ่มประสิทธิภาพของการจุดระเบิด ผลสุดท้ายคือสี่-เครื่องยนต์มีพลังให้สำแดงมากขึ้น ส่วนที่ตามมาอีกคือตำแหน่งการวางหัวเทียนมักจะมาอยู่บริเวณกลางของตำแหน่งจุดระเบิด หรืออีกหัวเอาไปเสริมไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ เช่นเครื่อง ALFA ROMEO ทวินสปาร์ค และการใช้วาล์วเล็กลงแต่เพิ่มจำนวนขึ้นเช่น 4 วาล์วต่อสูบนั้น ทำให้มวลหรือน้ำหนักรวมมีน้อยกว่าใช้วาล์วใหญ่ดังเช่นเครื่อง 2 วาล์วต่อสูบที่ตกยุคไปนานแล้ว มวลที่น้อยลงความเครียดแรงเค้นที่เกิดกับจมูกแค็มก็น้อยลง การสึกหรอก็น้อยลง การเกิดวาล์วลอยวาล์วเต้นลดลง แถมยังลากรอบขึ้นไปได้สูงขึ้นด้วย “ ปล้อนพยักหน้าหงึกๆเพราะง่วนอยู่กับการชงเหล้าให้ตัวเอง แต่ก็รอบคอบที่แอบอัดเทปช่วงสนทนาไว้มิได้ขาดตกบกพร่อง

อาจารย์ “ขวัญ” กับผลการทดลองจำนวนวาล์ว 

  ในย่ามของอาจารย์นั้น นอกจากปลัดขิกหัวโตแล้วท่านยังมีตารางทดสอบมากมาย ราวกระเป๋าโดราเอม่อน คืนนั้นก็ได้ควักผลการทดสอบเรื่องจำนวนวาล์วมาแสดงให้ปล้อนดู ทำให้เห็นว่าพอเพิ่มจำนวนจาก 5 วาล์วต่อสูบขึ้นไปพื้นที่รวมของวาล์วจะลดลง !!  ดังตารางประกอบนี้ 

นับว่าการมอมเหล้าอาจารย์คืนนั้นของปล้อนคุ้มค่ามว๊าก…ทำให้ทั้งวงเห็นว่าการใช้วาล์ว 4 และ 5 ตัวต่อสูบให้ % พื้นที่ต่อฝาสูบสูงสุดคือ 68% ครั้นพอเพิ่มเป็น 6,7,8 ค่าจะลดลงตามลำดับ ที่เคยค้างคาใจว่าทำไมไม่ทำเครื่อง 6 วาล์วหรือมากกว่านั้นมาให้กูขับ หายไปสิ้น … 

เครื่อง 5 วาล์ว ก้องโลก

  นอกจาก AUDI ที่เคยทำออกมาประมาณสามสิบกว่าปีก่อน โดยนำมาวางในตัว 200 Turbo Quattro ตอนปี 1988 กับบล็อค 2.2 ลิตร เทอร์โบ 5 สูบเรียง 25 วาล์ว เป่าออกมา 650 ม้า PS ที่ 6,200 rpm. กดได้ 326 กม./ชม. อาจารย์ขวัญเล่าย้อนไปช่วง 1985 ที่ MASERATI ทำบล็อค “6.36”   2 ลิตร V-6 เทอร์โบ ที่ยัดเข้าไปถึง 6 วาล์วต่อสูบออกมา (ไอดี 3, ไอเสีย 3 )  บูสท์ไว้แค่ 11.6 PSI เป่าออกมา 265 ม้า PS ที่ 7,200 rpm.  

  จริงแล้วพวกเราควรให้การคารวะหนึ่งแก้วเพียวแก่ PEUGEOT เป็นอย่างยิ่ง เพราะเคยทำออกมาแล้วใน “ตัวแข่ง”  เมื่อร้อยปีก่อน มันคือเครื่อง 8 สูบเรียง 5 วาล์วต่อสูบ TOHC(Triple Over Head Camshaft)  ดรายซั้มพ์ จุดระเบิดด้วยระบบแม๊กนีโต 2 หัวต่อสูบ กับ 2 บล็อกที่ผลิตออกมาในปี 1920  คือ 2950 ซีซี (ลูกสูบ 85x ช่วงชัก 130 มม) และ 2975 ซีซี (ลูกสูบ 80x ช่วงชัก148 มม)  ได้มาประมาณ 107 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที การทำขึ้นไปแถวๆ 4,000 rpm ในยุคนั้นถือว่าสูงมากๆ ทีเดียว !!

เมื่อญี่ปุ่นเล่นกับจำนวนวาล์ว 

  MITSUBISHI เองก็เคยบ้าถึง 5 วาล์วตอนปี 1989 กับบล็อค 3G81 ในพิกัด 550 ซีซี.(สุทธิ 548 ซีซี.)  วางในตัว Minica Dangan ZZ จากนั้น YAMAHA, TOYOTA ก็ตามหลังมา สำหรับ YAMAHA นั้นลองทำเครื่องแข่ง F1 ที่เป็นบล็อค V-10 ที่มีถึง 50 วาล์วออกมาด้วยในช่วงนี้ แต่กลับมาดังในมอเตอร์ไซค์เสียมากกว่า เช่นตัว YZ250F , YZ450F, FZ750, TDM, TRX, YZF-R1 ที่นำบล็อค ‘Genesis’ มาปรับแต่งจนได้มาถึง 182 ม้า PS ที่ 12,500 rpm.  (130.3 kW/liter)    YAMAHA นั้นได้บ้าขึ้นไปถึงเครื่อง 6 และ 7 วาล์วต่อสูบด้วย  และก็ได้พบว่าพอเพิ่มวาล์วเกิน 5 ตัวต่อสูบปริมาณการไหลของอากาศจะลดลงตามลำดับ เพราะเราต้องใช้วาล์วที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง(แบบเรียนเด็กสมัยนี้เรียกเส้นผ่านศูนย์กลาง)ลดลง ทำให้พื้นที่วาล์วรวมลดลงด้วย YAHAMA บอกว่าจากการทดลองของพวกเขานั้นวาล์ว 6 ตัวให้พื้นที่นี้น้อยกว่า 5 ตัวด้วยซ้ำ !!  ส่วนมอเตอร์ไซค์ HONDA NR คู่แข่งตลอดการก็เคยทำเครื่อง 8 วาล์วต่อสูบ ที่ฝาสูบบานออกไปข้างๆเป็นทรงไข่ ลูกสูบก็บานรีรับเป็นทรงเดียวกัน มันคือเครื่อง V-4 ตัว 32 วาล์วของพวกเขา …

  จากเกร็ดเล็กๆน้อยๆในวงสนทนาอ้อแอ้ๆ  ระหว่างปล้อนและอาจารย์ขวัญ คงจะทำให้พวกเราเห็นควรด้วยว่า ประมาณ 4 วาล์วต่อสูบ หรือมากสุดแค่ 5 นั้นเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ในแง่การไหลทั้งฝั่งไอดี/ไอเสีย ยิ่งยุคนี้ที่เราใช้ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรง-Direct Injection ที่แย่งพื้นที่ห้องเผาไหม้ไปส่วนหนึ่ง การใช้เทอร์โบไฟฟ้าอีเล็คโทรนิคส์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปออกแบบฝาสูบ วางตำแหน่งหัวเทียน ตำแหน่งหัวฉีดใหม่ มีกลไกการทำงานของวาล์วจำนวนมากมาย เหมือนยุคที่ได้เล่นกับจำนวนวาล์วในอดีต 

   “ปล้อน” ผลอยหลับไปบนหน้าตักของอาจารย์ขวัญในคืนนั้น …