ซื้อรถงบไม่เกิน 7 แสนบาท ! BYD Dolphin Standard เทียบออฟชั่น สมรรถนะ รุ่นชั้นนำในตลาด…จบไหม ?

สำหรับคนที่อยากรถไว้ใช้งาน แต่มีงบจำกัด หรือไม่ต้องการลงทุนในส่วนนั้นจนเกินความจำเป็น ณ ปัจจุบัน ผู้ผลิตถือว่าเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้ได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่ม City Car ที่มีให้เลือกทั้งในรูปแบบเครื่องยนต์สันดาปที่เราคุ้นเคย, รูปแบบไฮบริดที่ได้ทั้งสมรรถนะและโดดเด่นเรื่องอัตราสิ้นเปลือง รวมถึงล่าสุดกับรถในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งทางค่าย BYD ได้เปิดตัว BYD Dolphin STD Range ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยวางระดับราคาอยู่ที่ต่ำกว่า 7 แสนบาท ทำให้การแข่งขันของรถในกลุ่มนี้ มีความดุเดือด และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น

BYD Dolphin STD Range น้องใหม่ในกลุ่ม City Car ค่าตัวไม่เกิน 7 แสนบาท

มิติตัวถัง

 การเลือกรถใช้งานในระดับไม่เกิน 7 แสนบาท ในครั้งนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะได้ “ตัวท็อป” (Nissan Almera VL และ Toyota Yaris ATIV Premium Luxury) ของรุ่นนั้นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็น “รุ่นเริ่ม” เช่น BYD Dolphin STD Range หรือ “ตัวกลาง”หากควบคุมงบประมาณไม่ให้เกินที่กำหนด เช่น Honda City จะได้รุ่น SV เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ หรือ Mazda 2 จะได้รุ่น 1.3 S ซึ่งหากเทียบในกลุ่มนี้ ที่หลายๆ คนมักจะมองว่า มีขนาดไม่ต่างกันมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเทียบองประกอบหลายๆ อย่าง จะพบว่า BYD Dolphin STD Range เป็นรถที่มีมิติตัวถังค่อนข้างที่จะใหญ่แบบซ่อนรูป แม้ว่าความยาวตัวรถจะเป็นรอง 3 รุ่นดังในตลาด แต่หากว่ากันด้วยระยะฐษนล้อ ที่ส่งผลต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารโดยตรง ความยาวในระดับ 2,700 มม. ถือว่ากินขาด ในระดับ 80 มม. เมื่อเทียบกับรถทีีมีระยะฐานล้อยาวที่สุด นอกจากนี้…รถที่มีความโดดเด่นในด้านองประกอบพื้นฐาน ในกลุ่มราคานี้ คงมีแค่ BYD Dolphin STD Range และ Toyota Yaris ATIV Premium Luxury ที่มาพร้อมล้อขนาด 16 นิ้ว และให้ดิสค์เบรกมาทั้ง 4 ล้อ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยยกระดับสมรรถนะ รวมถึงความปลอดภัยให่ดีมากขึ้น และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทั้งคู่ มาพร้อมชุดเบรกมือไฟฟ้า พ่วงด้วยฟังค์ชั่น Auto Brake Hold

Honda City 1.0 SV ยังคงเป็นรถที่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะ ซึ่งหากวัดด้วยตัวเลข ถือว่าทิ้งห่างคู่แข่งอยู่พอสมควร

พละกำลัง

ว่ากันด้วยเรื่องสมรรถนะ ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา BYD Dolphin STD Range ถูกค่อนขอดมาตลอด ว่าเป็นรถที่ขาดความโดดเด่นในเรื่องนี้มากจนเกินไป โดยหากเทียบตัวเลขแรงม้ากับเพื่อนร่วมคลาส ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งรถที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มนี้ คงหนีไม่พ้น Honda City 1.0 SV ที่มีกำลังมากถึง 122 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 173 นิวตัน-เมตร แต่สิ่งที่ BYD Dolphin STD Range เด่นมาก คือ แรงบิด อันเป็นคาแร็กเตอร์เฉพาะของรถ EV โดยมีแรงบิดมากถึง 180 นิวตัน-เมตร ทิ้งห่างคู่แข่งอื่นๆ ค่อนข้างชัดเจนมาก และเมื่อ #ทีมขับซ่า นำไปวิ่งทดสอบจริงด้วยเครื่องมือ VBox Sport ก็ยังพบว่า Honda City 1.0 SV เป็นรถที่ให้อัตราเร่งดีที่สุดในกลุ่ม ทั้งที่ความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. (10.24 วินาที) หรือความเร็วในระยะ 0-402 เมตร (17.59 วินาที ที่ความเร็วเข้าเส้น 134.7 กม./ชม.) ตามมาด้วย BYD Dolphin STD Range และ Nissan Almera VL ที่ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ เช่นเดียวกัน

อาจให้ของมาไม่เท่าเพื่อน แต่หากเทียบด้วยคุณภาพของวัสดุ สัมผัสความพรีเมี่ยม Mazda 2 ถือว่าทำได้ดีมาก

สิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นไฮไลท์

รถ City Car ในยุคนี้ หลายๆ ค่ายพยายามใส่ออพชั่น ยัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความ “คุ้มค่า” มากที่สุด โดยรถที่เปิดตัวมาแล้ว ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการ City Car ยุคใหม่ คงหนีไม่พ้น Toyota Yaris ATIV ที่ใส่ออพชั่นมาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งภายในที่ออกแบบมาอย่างหรูหราด้วยเบาะหนังสีแดง สะท้อนความรู้สึกที่ดูพรีเมี่ยม และเป็นรุ่นเดียวที่มีไฟแอมเบี้ยนไลท์และช่องแอร์ที่ด้านหลังมาให้ โดยฝั่งที่มาพร้อมลูกเล่นสแตนดาร์ดที่น่าสนใจ คือ BYD Dolphin STD Range ด้วยรูปทรงการออแบบชุดเบาะนั่ง มีการเล่นสีในสไตล์ทูโทน พร้อมเลือกใช้วัสดุที่สื่อถึง “ความตั้งใจ” โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของรถรุ่นนี้ คงหนีไม่พ้นหน้าจตออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ตามต้องการ ในส่วนอื่นๆ แต่ละรุ่นล้วนมีจุดขายเป็นของตัวเอง เช่น Mazda 2 1.3 S มาพร้อมเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง ส่วน Honda City 1.0 SV ก็ชูจุดขายด้วย Wireless Apple Carplay และ Android Auto พร้อมระบบ Away Door Lock และ Engine Remote Start (เช่นเดียวกับ Nissan Almera VL)

Toyota Yaris ATIV รถที่จัดเต็มออพชั่น ระบบความปลอดภัย ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จ่ายต่ำกว่า 7 แสนบาท…ได้ตัวท็อป

ระบบความปลอดภัยที่สำคัญ

ในทำนองเดียวกับออพชั่นอำนวยความสะดวก เมื่อเทียบเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย ค่ายที่เด่นขึ้นมากย่าองชัดเจน คงหนีไม่พ้น BYD และ Toyota ที่จัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยการขับขี่ขั้นสูง หรือ ADAS อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รองลงมา คือ Nissan Almera VL ที่ฟังค์ชั่นบางอย่างถูกลดทอนลงไป เช่น Adaptive Cruise Control, ระบบดึงพวงมาลัยกลับเมื่อออกนอกเลน เป็นต้น แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ระบบแจ้งเตือนระดับลมยาง TPMS เช่นเดียวกับ BYD Dolphin STD Range

อาจดูเงียบไปหน่อยด้วยการวางระดับราคา แต่ในงบ 7 แสน คือ ได้ตัวท็อป ออพชั่นเต็ม เช่นเดียวกัน

ราคา

เชื่อว่ามาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆ ท่านน่าจะพอเห็นภาพว่า ในงบประมาณไม่เกิน 7 แสนบาท รถในกลุ่ม City Car แต่ละคัน ให้คุณสมบัติที่โดดเด่น คุ้มค่ามาก – น้อยขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้ว…สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ “ความถูกใจ” ดังนั้นหากมีโอกาส ควรได้ไปสัมผัส ได้ลองนั่ง ลองขับ เพื่อให้รู้ว่า รถคันที่เล็งอยู่นั้น เป็นรถที่ “ตรงจริต” เพียงพอที่จะควักเงินจ่ายจริงหรือไม่ ?

BYD Dolphin Extended Range ตารางเทียบอัตราเร่ง รถEV ในงบ +- 1 ล้านบาท…ขึ้นเบอร์ 1 ไหวไหม ?