Home » วงการเครื่องเสียงรถจาก Hi-End OEM สู่ McIntosh กับ Grand Cherokee L

วงการเครื่องเสียงรถจาก Hi-End OEM สู่ McIntosh กับ Grand Cherokee L

by Admin clubza.tv

จาก B&W,  Meridian, B&O, Mark Levinson,  Burmester (รูป 1,2)

Cr ภาพ www.carbuzz.com

2 cr ภาพ www.carbuzz.com

สู่ McIntosh กับ Grand Cherokee L (รูป3,4)

Cr ภาพ www.gearpatrol.com

Cr ภาพ www.gearpatrol.com (2)

  ชุด OEM อินโฟเทนเม้นท์ยุตนี้มันสมบูรณ์เสียจนชุด After market เจ๊งไปทั่ววงการ แม้จะเป็นรถพิกัดประมาณล้านบาทต้น เจ้าของแทบไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มเติม เพราะต่างก็แข่งกันเอาใจผู้ซื้อ ต่างจากสิบปีก่อน ที่คุณภาพเสียงชุด OEM มันให้เสียงก๊องแก๊งกิ๊กก๊อก 

  เมื่อไล่เพดานราคาขายขึ้นไปสู่ Luxury car ค่ายรถเหล่านี้ต่างก็หันไปนำ Hi-End OEM จากผู้ผลิตทั้งโฮมยูสด์และในรถมาร่วมออกตั้งแต่ฟร้อนท์ ชุดปรับแต่งเสียง แอมปลิไฟเออร์ ลำโพง แล้วนำมาอินเตอร์เฟสกับระบบอินโฟเทนเม้นท์ของตน เป็นจุดขายที่ผู้ใช้รถเปรียบเทียบตอนซื้อ ที่เห็นวิ่งอยู่บ้านเรามีทั้ง  Bang and Olufsen, Bowers & Wilkins, Meridian, Burmester ,  Mark Levinson  ซึ่งมีภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความเชื่อถือ ระดับ Hi-End ทั้งสิ้น จะต่างกันก็ที่อัตลักษณ์ การปรุงสัดส่วน ชนิดของเสียง ว่าออกมาเป็นแบบไหน เราที่เป็นผู้ซื้อลองเล่นลองฟังแล้วชอบรถคันใด 

“อาเดียว” วิพากษ์ OEM ที่ได้สัมผัส 

BMW กับ Bowers & Wilkins 

Cr ภาพ www.carbuzz.com

 จากช่วงก่อนที่ BMW คบหากับ HARMAN-KARDON ตอนหลังนี่หันมาให้ BOWERS&WILKINS (B&W) ทำ OEM ให้  ในตัวหลังๆ อาเดียวนั้นสมัยยังซ่าเคยไปคลุกคลี เล่นกับลำโพงโฮมยูสด์ B&W ในห้องฟังผู้นำเข้าแถวหัวหมาก ยุคนั้น B&W ก็เริ่มเข้ามาทำลำโพงติดรถบ้างแล้ว  บุคลิกเสียง B&W นั้นนุ่มลึก คม ระยิบระยับ จากค่ายอังกฤษ หรือจะเป็นเพราะเหตุนี้ ที่ค่าย JAGUAR เลือกคบมัน  

  เสียงระยิบระยับติดของยี่ห้อนี้ ยกความดีแก่ทวีตเตอร์ ตกมายัง OEM ยุคนี้ โดยใช้ทวีตเตอร์ Diamond Dome  ที่นำเพชรมาทำเป็นชั้นบางเรียงซ้อนกัน สังเกตุได้ตอนฟังเสียงปลายแหลมที่ให้มายิบยับ ใน BMW ที่รุ่นที่ให้ลำโพงยี่ห้อนี้มา ย่านความถี่สูงไม่เป็นรองใคร Bowers & Wilkins ผ่านงาน OEM ทั้ง VOLVO, MASERATI และ JAGUAR มาแล้ว ก่อนมาทำให้ BMW  

RANGE ROVER กับ Meridian 

Cr ภาพ www.carbuzz.com

   ค่ายอังกฤษเน้นผลิตลำโพง ปรีแอมป์ เพาเวอ่ร์แอมป์ อุปกรณ์ปรับแต่งเสียงเป็นหลัก อาเดียวมีโอกาสเล่น Meridian ใน RANGE ROVER ที่วางคอนเซ็ปท์ในการออกแบบชุดนี้ ว่าต้องการมอบประสบการณ์ดนตรีคอนเสิร์ตออกมานำเสนออย่างสมจริง จึงใส่ระบบปรับแต่งสังเคราะห์เสียง ผสมผสานการฟังสเตอริโอเข้ากับลำโพงเซนเตอร์ข้างคอนโซลกลาง และลำโพงเซอร์ราวด์ที่ฝังไว้รอบข้างและบนเพดาน มีลำโพงเล็กลำโพงน้อยรายรอบข้าง-ด้านบน ยิงเสียงสู่หูคนในรถ ให้สมดุลย์ทางเสียงกันถ้วนหน้าทั่วคัน ค่ายรถอังกฤษต่างหนุน OEM ของ Meridian ทั้ง JAGUAR และ McLaren

AUDI กับ Bang and Olufsen 

Crภาพ www.carbuzz.com

 เรียกสั้นๆว่า B&O  ที่วงการโฮมยูสด์คุ้นเคยมานาน ทำมาทั้งรีซีฟเวอร์ เครื่องเล่นเทป เครื่องเล่นแผ่นเสียง แอมป์ และลำโพง ผลิตภัณฑ์จากเดนมาร์กรายนี้หาเล่นไม่ง่ายนัก เห็นแค่ชื่อก็รู้สึกว่าเสียงดีขึ้นมาทันที อาเดียวเล่นและฟังมามากพอควรหลายปีก่อน  ครั้น AUDI นำมาใส่ใน A4, A5, A6, A7, A8, Q5, Q7, TT และ R8 ตามอ็อปชั่น แนวเสียงจะได้ชิ้นดนตรีออกมาเป็นแผงใหญ่ ชัดถ้อยชัดคำ ใส ไม่ตกหล่น ใน AUDI นี้ B&O ได้นำเทคโนโลยี  “Acoustic Lens” ช่วยด้านการแพร่ กระจายเสียงไปยังหูผู้ฟังแต่ละคน เพื่อให้ได้อรรถรสทางดนตรีสูงสุด B&O นั้นรับหลายจ๊อบ ตั้งแต่  BMW 5 Series, 6 Series, M6, 7 Series, BMW X5 , ASTON MARTIN DBS, MERCRDES-BENZ AMG และ BENTLEY ต้องดูในอ็อปชั่นว่ารุ่นที่คุณเล็งได้มันหรือเปล่า 

LEXUS กับ Mark Levinson 

Cr ภาพ www.carbuzz.com

  LEXUS เลือก Mark Levinson มาใส่ในรุ่นท็อปแต่ละซีรี่ย์ มันคิอสุดยอดของโลกแอมปลิไฟเออร์ อาเดียวเล่าย้อนถึงปรีแอมป์สะท้านโลก LNP-1 และ LNP-2  ส่วนเพาเวอ่ร์แอมป์นั้นวงการยกให้ ML-2 Class A Mono, ML-3 และ ML-9 จวบจน LEXUS เข้าไปเจรจาให้เป็นทำ OEM ให้ตอนปี 2001 และทำธุรกิจนับแต่นั้นมา   เสียงของ Mark Levinson ออกทางหนา มวลเสียงแน่น พลังมีน้ำหนัก เร่งไม่ตก  สุดยอดของ Mark Levinson ใน LEXUS ถูกใส่ไว้ในรุ่น LS ลำโพงรอบทิศ หน้าหลัง-ข้าง-บน รวม 23 ตัว ขับด้วยแอมป์ 2400 วัตต์ 16 ชาแนล ระบบกระจายมิติเสียงรอบทิศ Bullet 7.1  ที่ผลิตมาเพื่อลูกค้าอเมริกาเหนือที่เป็นลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะ

MERCEDES-BENZ กับ Burmester 

Crภาพ www.carbuzz.com

   ผลิตภัณฑ์เยอรมันที่เดิมเน้นลำโพง แอมป์บ้าน ก่อนจะเข้าสู่วงการเครื่องเสียงรถในปี 2005 อาเดียวคุ้นเคยกันกับ Burmester เพราะ BENZ ปล่อยรถให้พวกเรามาทดสอบเสมอมา ลำโพงค่ายนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพเสียงมาตรฐานเยอรมัน ทั้งใน C-Class, V-Class,  E-Class, AMG GT และ Maybach S-Class  ที่ให้ลำโพงรายรอบ หน้า ข้างและด้านบน ให้ความเป็น 3 มิติของเสียง ไม่บ้าพลัง เล่นดนตรีได้หลากแนว ได้รับมอบหมายงานจาก PORSCHE Panamera และ BUGATTI Veyron ด้วยเช่นกัน  

Grand Cherokee L, Grand Wagoneer กับ McIntosh 

Cr ภาพ www.gearpatrol.com

Cr ภาพ www.stereonet.co.uk

ช่วงที่ “อาเดียว” หรือภูษิต โลกานุเคราะห์ ยังอยู่ในวงการเครื่องเสียงย้อนไปร่วม 30 ปีที่แล้วนั้น เป็นยุคที่เครื่องเสียงรถยนต์พีคถึงขีดสุด ในบ้านเรานั้นมีผู้นำเข้า ร้านติดตั้ง นิตยสารพวกนี้เฟื่อง ร่ำรวยไปตามๆกัน McIntosh ก็ได้ออกชุดไฮเอ็นด์มาให้เล่นในรถกับเขา บ้านเราก็สั่งเข้ามาให้สัมผัสกันแพร่หลายพอสมควร อาเดียวเองก็ได้เคยไปทำคอลัมน์รถเด่นกับเขาเหมือนกัน แล้วก็พบว่าลักษณะ บุคคลิกเสียงยังคงเป็นแนว “Mc” (Intosh นะครับไม่ใช่ Donald) ดังที่ได้เคยเล่นมาตั้งแต่เด็กตามบ้านเพื่อนที่มีฐานะ และได้ลองเล่นตามห้องฟังนักเล่นและโชว์รูมสมัยที่แกยังเป็นสื่อมวลชนวงการนี้เต็มตัว สไตล์ของ Mc ยังคงหนักแน่น เต็มพลังอันรุนแรง ดนตรีเปิดมาแบบกร้าวคมไม่หลบสายตาใคร เป็นร็อคเต็มตัว แต่ก็สามารถนำไปเล่นกว้างกับแนวอื่นได้ดี กล่าวคือให้ความ “หลากหลาย” ในแนวเพลง กับ DNA ของตนด้านพลังดนตรีและมาตรฐานเสียงระดับโลก ที่หาตัวทาบยากแม้จะเป็น Mark Levinson หรือ Audio Researh ก็ตาม !! และ McIntosh ยังทำได้เหนือกว่า คือมีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่กว้าง เล่นไปทุกคอมโปเนนท์ ตั้งแต่เทิร์นเทเบิ้ล ปรีแอมป์ เพาเวอร์แอมป์ CD ยันลำโพง ที่น้อยแบรนด์จะทำได้ดังนี้ 

อาเดียวสอนมวย “ปล้อน” 

Cr ภาพ www.deviantart.com

 ตอนที่ปล้อนนำข่าวว่า Mc มาทำ OEM ให้รถแล้วนะมาบอกนั้น อาเดียวก็เฉยๆไม่ได้แสดงที่ท่าว่าจะสนใจ ตาวาว ซักไซ้อะไรต่อ แกหันไปริน “ยาธาตุนักเลงตราเสือดาว” แล้วถามปล้อนว่า “เอ็งเพิ่งรู้เรอะไอ้ปล้อน เอ็งลองนึกย้อนไปดีอีกทีซิ จำ FORD GT ตัว 100 ปีได้มั้ย แล้วยัง SUBARU Legacy ตัวที่ขายเมกาด้วย” หลังจากนั้นแกก็เล่าต่ออีกว่า McIntosh ยังมาทำ OEM ทั้งชุดให้ Harley-Davidson เอาไว้เปิดอัดตอนออกทริปด้วย   การหวนมา OEM อีกครั้งในรอบ 20 ปีจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นตรงไหน !! อีกทั้งเจ้า Grand Cherokee L, Grand Wagoneer นี่มันก็สมควรทำให้อยู่ เพราะมีสัญชาติ พูดสำเนียงอเมริกันเหมือนกัน ดีกว่าไปให้ชาติยุโรปคว้าไปทำ  

 

ประสบการณ์ “ทำมือ” กว่า 70 ปี

  จากแล็ปเล็กๆแถวนิวยอร์ค รอดวิกฤติสงครามโลกมาได้ ทีมงาน McIntosh จึงต้องมาศึกษา “ห้องเสียง” ก่อนออกแบบ OEM ให้รถทั้งสองรุ่นนี้แบบจริงจัง ว่ามิติ วัสดุตกแต่งภายใน ตำแหน่งของผู้เล่น ผู้ฟัง มันเป็นแบบไหน อย่างลำโพงที่ใช้ก็ไม่ใช่จะแค่นำสต็อกที่ใช้ในบ้านมาจับยัด ต้องเล็กลงบางลง แต่ก็ต้องทนสถาพใช้งานในรถลุย ทั้งความร้อน ความชื่น ฝุ่น ภายในห้องฟังที่เล็กลงกว่าตอนเป็นโฮมยูสด์ ชุดอินโฟเทนเมนท์ เพาเว่อร์แอมป์ก็เช่นกัน ต้องออกแบบให้กินพลังไฟฟ้าน้อยลง ระบายตวามร้อนดีขึ้น ฮีทซิ้งค์ใหญ่โต ป้องกันแรงกระเทือนได้ดี 

  พิจารณาอยู่หลายรอบก่อนจะออกมาเป็น ชุด MX1375 และ MX950 ที่คงไว้ซึ่งหน้าตา Mc แว็บแรกที่เห็น บอดี้ดำ จอน้ำเงิน ปุ่มปรับ โลโก้ ภายใต้ขอบบอดี้อลูมินัม มันคือเอกลักษณ์เฉพาะของ McIntosh ไล่มายังเพาเว่อร์แอมป์ ลำโพง  ซับวูฟเฟอร์ก็ฝัง Backlit ไว้เรืองๆ แสดงให้เห็นว่ามี McIntosh คู่เคียงตลอดการเดินทางด้วยเช่นกัน  ความยากของ Hi-End OEM อยู่ที่จะออกแบบ ติดตั้งมาอย่างไรให้ “Sweet spot” หรือจุดลงตัวของเสียงมันมาตกพอดีกับตำแหน่งโดยสาร (ของแต่ละคน) ประเด็นสำคัญนี้เองที่ทำให้ทีมงานใช้เวลาทดสอบในห้องแล็ปและในรถจริงอยู่หลายๆรอบ จนมาลงตัวที่การใช้แอมป์ 950 วัตต์ 17 ชาแนล ขับลำโพง 19 ตัว  ที่กำลังจะออกขายที่อเมริกาช่วงนี้

Cr-ภาพ-www.tonepublications.com

Cr ภาพ www.gearpatrol.com

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy