Lexus เปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดในตระกูล GX ซึ่งก็เป็นไปตามข้อมูลที่ถูกคาดการณ์ก่อนหน้า ว่า Lexus GX พัฒนาบนโครงสร้างแบบ Body On Frame ที่ได้รับการต่อยอดพื้นฐานมาจาก Toyota Land Cruiser แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ สิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อนว่า Premium SUV รุ่นนี้ จะมาพร้อมแพลตฟอร์มแบบขั้นบันใด ซึ่งสามารถรองรับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนในรูปแบบ EV ได้ในอนาคต
Lexus GX ตัวลุยระดับเรือธงรุ่นล่าสุด
Koji Tsukaski หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา Lexus GX ออกมาให้ข้อมูลว่า “การปรับเปลี่ยนในรถรุ่นนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากเดิมที่เคยใช้พื้นฐานโครงสร้าง GA-F ซึ่งถูกพิจารณามาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จเปิดตัวออกมา แน่นอนว่า ณ ปัจจุบัน โลกยานยนต์ อยู่ในช่วงที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ทั้งในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด หรือแม้แต่ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้าล้วน ดังนั้นจึงทำให้เราต้องมีการอัพเกรดบางอย่าง เพื่อมองความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดไปยังแพลตฟอร์มในรูปแบบขั้นบันใด ที่สามารถรองรับการใช้งานกันรถ BEV ได้ด้วย”
ด้วยโครงสร้างแชสซีส์แบบขั้นบันใดที่มีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถต่อยอดสู่ความเป็นรถ EV ได้ในอนาคต
โครงสร้างแบบขั้นบันใดที่ใช้กับ Lexus GX มาพร้อมข้อดีหลายประการ หากนำไปต่อยอดใช้งานกับรถในรูปแบบ BEV ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถวางแพคแบตเตอรี่ได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังสามารถรองรับน้ำหนักที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้ว ด้วยพื้นที่ที่เหนือเฟือ ทำให้สามารถเลือกตำแหน่งในการวางแบตเตอรี่ เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถได้มากที่สุด ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกระจายน้ำหนัก ทำได้ดีมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้ คือ ด้วยแพลตฟอร์ที่มาในรูปแบบ Body On Frame ยังทำให้ Lexus รวมถึง Toyota นำโครงสร้างนี้ไปใช้กับรถรูปแบบอื่นๆ ทั้ง Land Cruiser, Sequoia รวมถึงกระบาะ Tundra ได้ด้วย
หากเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนที่เปิดตัวไปในปี 2010 คาดว่า Lexus GX เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน จะมีอายุโมเดลที่ยาวนานกว่า เนื่องจาก แพลตฟอร์มแบบ Body On Frame มีความต่างจากแพลตฟอร์มที่เป็น Monocoque หรือ Unibody โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะตำแหน่งการยึดแบตเตอรี่ที่แทบจะไม่มีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง (สำหรับ Monocoque ที่ใช้การ Fix ตำแหน่ง) ส่วนโครงสร้าง Body On Frame สามารถที่จะเลือกติดตั้งแบตเตอรี่ รวมถึงชิ้นส่วนของระบบขับเคลื่อนได้ในหลายตำแหน่ง (ซึ่งรวมไปถึงบริเวณใต้เบาะแถวที่ 3 สำหรับรถไฮบริด หรือในตำแหน่งเพลากลาง สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%) ด้วยความยืดหยุ่น รวมถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก็น่าจะช่วยให้ Lexus สามารถปรับกลยุทธ์ รวมถึงจัดหาแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อปูทางสู่การพัฒนาเป็นรถ EV ตามข้อกำหนดของประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาได้ในอนาคต
