หลังจากที่เปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของ BMW Series 5 เวอร์ชั่นทัวริ่ง (รหัสตัวถัง G61) ไปเพียงไม่กี่อึดใจ ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวก็ได้สร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการเผยรายละเอียดรถพ่อบ้านพลังไฟฟ้าอย่าง BMW i5 Touring ตามมาในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อหวังเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ได้ต้องการจะวางจุดหมายไว้เพียงแค่กับรถในกลุ่ม SUV หรือซีดาน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรก ที่ BMW ได้เปิดตัวรถในสไตล์แวกอนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน
BMW i5 M60 xDrive Touring ครั้งแรกของรถ EV ในสไตล์แวกอนจากค่ายใบพัดฟ้าขาว
BMW i5 Touring มีแพลนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะมาในดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากนัก ด้วยความที่เป็นรถที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน ด้วยมิติตัวถังของ BMW i5 Touring อยู่ที่ ความกว้าง x ความยาว x ความสูง 1,900 x 5,060 x 1,515 มม. (กว้างขึ้น 32 มม, ยาวขึ้น 97 มม. และสูงขึ้น 17 มม.) และมีระยะฐานล้อ 2,995 มม. (ยาวกว่าเจนเนอเรชั่นก่อน 20 มม.) แม้ดีไซน์ในภาพรวมจะไม่ต่างกันมาก แต่สิ่งหนึ่งที่จะยังคงเอกลักษณ์ความเป็น BMW ตระกูล i ก็คือ การมาพร้อมชุดกระจังหน้าในรูปแบบ BMW Iconic Glow ที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดโดยเฉพาะในยามค่ำคืน
ดีไซน์โดยรวมของ BMW i5 Touring ถูกปรับเส้นสายตัวถังให้ดูเฉียบคม รับกับแนวเส้นหลังคาด้านท้ายที่ลาดลงเล็กน้อย ตามแบบฉบับของรถในสไตล์วากอนที่เน้นความเรียบง่ายเป็นสำคัญ ล้อที่ให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานใน BMW Series 5 เจนเนอเรชั่นที่ 6 มีทั้งขนาด 18 และ 19 นิ้ว โดยจะมีออพชั่นเสริมด้วยล้อขนาด 21 นิ้ว ให้เลือก สำหรับลูกค้าที่เลือกอัพเกรดแพคเกจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น M Sport, M Sport Pro รวมถึง M Carbon Exterior Package ซึ่งช่วยยกระดับความดุดันตามเลเวลที่แตกต่างกันออกไป
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ BMW i5 M60 xDrive Touring เน้นธีมสีเข้มเพื่อความรู้สึกสปอร์ต
แน่นอนว่า…อีกหนึ่งเอกลักษณ์ในความเป็น BMW ยุคใหม่ คือ การใช้อินเตอร์เฟสภายในห้องโดยสารที่เรียกกันว่า Curve Display ซึ่งใน BMW i5 Touring ใช้เซ็ตหน้าจอที่ประกอบไปด้วย จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว จับคู่กับจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด BMW Operating System 8.5 สามารถรองรับการเชื่อมต่อเกมคอนโซล รวมถึง Android Auto และ Apple CarPlay นอกจากนี้ BMW i5 Touring ยังมาพร้อมพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ และชุดเบาะดีไซน์สปอร์ตที่เน้นสัมผัสที่โอบกระชับในยามขับขี่ โดยวัสดุที่นำมาใช้ภายในห้องโดยสาร ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติแวะวัสดุรีไซเคิลเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในของ BMW i5 eDrive40 Touring กับสีภายในโทนอ่อน เพื่อความรู้สึกในการโดยสารที่ผ่อนคลาย
เบาะนั่งดีไซน์โอบกระชับ ตัดเย็บด้วยวัสดุจากเส้นใยธรรมชาติ
เมื่อพับเบาะทั้งหมด พื้นที่สัมภาระจะเพิ่มเป็น 1,700 ลิตร
จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ สำหรับรถในสไตล์แวกอนก็คือ พื้นที่สัมภาระทางด้านท้าย ซึ่ง BMW Series 5 เวอร์ชั่นทัวริ่ง มาพร้อมความจุในระดับ 570 ลิตร และสามารถเพิ่มความจุเป็น 1,700 ลิตร เมื่อพับเบาะ และเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ฝาท้ายของรถรุ่นนี้มาพร้อมฟังค์ชั่นปิด – เปิด ด้วยไฟฟ้า พร้อมลูกเล่นอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่วา่าจะเป็น หลังคาพาโนรามิคกลาสรูฟ, ชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 18 ตำแหน่ง อีกทั้งยังสามารถอัพเกรดวัสดุบุภายในด้วยหนัง Merino ได้อีกด้วย
BMW i5 eDrive40 Touring
BMW i5 Touring มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย (ทุกรุ่นย่อยใช้แบตเตอรี่ขนาด 81.2 kWh) ด้วยระดับพละกำลังตั้งแต่รุ่นย่อย i5 eDrive40 Touring ซึ่งมาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 336 แรงม้า พร้อมแรงบิด 430 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที และสามารถเดินทางได้ไกล 560 กม. ต่อชาร์จ เมื่อทดสอบด้วยมาตรฐาน WLTP แต่หากพ่อบ้านที่ต้องการความสุด ทางค่ายยังมีตัวเลือกสำหรับสายแรงอย่าง i5 M60 xDrive Touring ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอรืคู่ ให้กำลังสูงสุด 593 แรงม้า กับแรงบิด 820 นิวตัน-เมตร และทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 3.9 วินาที โดยความเร็วสูงสุดที่ BMW i5 M60 xDrive Touring ทำได้ คือ 230 กม./ชม. และให้ระยะการเดินทางต่อชาร์จ 506 กม. ตามมาตรฐาน WLTP โดย BMW i5 Touring รองรับการชาร์จแบบปกติ (AC Charge) ที่ 11 kW และรองรับการชาร์จความเร็วสูงด้วยกำลังไฟสูงสุด (DC Charge) ที่ 205 kW
