เป็นข่าวลือมาสักพักใหญ่ๆ ซึ่งต่อจากนี้…คงไม่ต้องลือกันอีกต่อไป สำหรับการมาของสปอร์ตไบค์สายรหัส R-Series รุ่นล่าสุดจากค่ายส้อมเสียง แน่นอนว่าคราวนี้เป็นทีของชายกลางอย่าง Yamaha YZF-R7 2022 หลังจากประกาศยกเลิกการทำตลาดของซูเปอร์สปอร์ตเรพลิก้า Yamaha YZF-R6 ไปก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องความนิยม กับมาตรฐานไอเสียที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลต่อปัจจัยในการพัฒนาที่อาจจะเลยจุดคุ้มทุนไปไกล ทางเลือกในสไตล์ของ YZF-R7 จึงดูจะเป็นทางออกที่สดใสกว่า
Yamaha YZF-R7 2022 ลุคสปอร์ตเต็มขั้น ใช้งานได้เต็มที่
ไฟหน้าซ่อนในแรมแอร์ ขนาบข้างด้วย LED Daylight ถ่ายทอดกลิ่นอายจากรุ่นพี่
บั้นท้ายทรงสปอร์ต…โฉบเฉี่ยวสไตล์ R-Series
ในภาพลักษณ์ของ Yamaha YZF-R7 2022 ยังคงความเป็นสปอร์ตจ๋า ด้วยการออกแบบแฟริ่งมาในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว มีการใช้เส้นสายที่ถูกแต่งแต้มด้วยส่วนโค้งเว้า ดูเซ็กซี่ และสื่อถึงแอโร่ไดนามิคส์ที่ผ่านการ “คิดมาแล้ว” เป็นอย่างดีตั้งแต่หัวจรดท้าย ภายใต้แรงบันดาลใจจากสปอร์ตรุ่นใหญ่ Yamaha YZF-R1M เห็นแล้วเข้าใจได้ทันทีว่ามาจากตระกูลเดียวกัน โดยยังคงเอกลักษณ์ด้วยคิ้ว LED Daylight ในสไตล์สปอร์ต R-Serires รุ่นใหญ่ พร้อมผสานกลิ่นอายพี่น้องในค่ายตระกูล MT-Series ด้วยไฟหน้า LED ฝังอยู่ในช่องแรมแอร์ อันเป็นหัวใจที่สื่อถึงความเชื่อมโยงบางอย่างของรถ 2 ตระกูลนี้ ได้เป็นอย่างดี ถังน้ำมันมาในขนาดกะทัดรัด พร้อมความจุ 13 ลิตร เพื่อไม่ต้องการสร้างภาระให้กับผู้ขับขี่มากจนเกินไป
ขี่แทร็กก็ดี ขี่เที่ยวก็ได้…ที่สุดแห่งการผสมสานอย่างกลมกล่อม
แม้ว่าเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 600 ซีซี. แรงม้าร้อยกว่าตัว กับรอบสูงที่ปรี๊ดของ Yamaha YZF-R6 ยังคงเป็นสิ่งที่ติดตรา ตรึงใจ แต่ด้วยต้นทุนในการผลิตนั้นสูงลิบลิ่ว ส่งผลให้สภาพคล่องในการจ่ายของผู้บริโภคต่ำลง เป็นการบ้านของทางค่ายที่ต้องปรับส่วนผสมให้ลงตัว ระหว่าง “ความสุด” กับ “ความเป็นไปได้” เพื่อให้กลายเป็น “ความเหมาะสม” ในจุดที่ “พอดี” สำหรับ Yamaha YZF-R7 2022 ซึ่งเหมือนเป็นความโชคดีของทางค่าย Yamaha ที่พวกเขามีเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระดับ Middle Size ที่ได้การยอมรับจากทั่วโลก นั่นก็คือ บล็อค Crossplane CP2 พิกัด 689 ซีซี. งานนี้จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะนำของดีที่มีอยู่ในมือ มาจับคู่กับโครงสร้างและเรือนร่างใหม่ของ Yamaha YZF-R7 2022 ซึ่งมีการปรับเซ็ตองศาให้เหมาะกับการขับขี่ในสไตล์สปอร์ตมากขึ้น เช่น การลดระยะฐานล้อให้สั้นลง 5 มม. (เหลือ 1,395 มม.) ด้วยการปรับองศาคอให้ชันขึ้นจาก 24 องศา ของ MT-07 มาเป็น 23.7 องศา เพื่อให้สามารถเลี้ยวได้ไวและคล่องตัว อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักระหว่างล้อหน้า : หลัง อยู่ที่ 51 : 49 ซึ่งถือว่ามีความใกล้เคียงกับอัตราส่วนในอุดมคติ
ขุมพลัง Crossplane CP2 บล็อคนี้…ใครๆ ต่างรู้ดีถึงสรรพคุณ
แม้ว่า…พละกำลังในภาพรวมของรถในสไตล์ Sport Replica จะหายไป แต่สิ่งที่ได้มาแทนที่ คือ เรื่องแรงบิดในรอบต่ำ ที่สามารถเรียกมาใช้งานได้ทันที (ใครที่เคยขี่ Yamaha YZF-R6 จะรู้ว่ากำลังในรอบต่ำค่อนข้างเป็นจุดด้อย ซึ่งรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน คือ 8,000 รอบ/นาที ขึ้นไป) แต่สำหรับ Yamaha YZF-R7 2022 ปัญหานี้จะหมดไป ด้วยคาแร็กเตอร์ที่เด่นชัดของเครื่องยนต์ในรูปแบบ Crossplane ที่เน้นแรงบิดในช่วงรอบกลาง (เช่นเดียวกับ Yamaha MT-07) กำลังสูงสุดที่ทำได้คือ 72.4 แรงม้า ที่ 8,750 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิด 67 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังเรียกประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น ด้วยการปรับโปรแกรมในกล่อง ECU ใหม่, ปรับการจ่ายเชื้อเพลิง, ปรับปรุงระบบระบายไอเสีย เพื่อให้รองรับมาตรฐานยูโร 5 พร้อมทั้งปรับอัตราทดเกียร์เพื่อให้ Yamaha YZF-R7 2022 มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น และที่สำคัญคือ ไม่ลืมที่จะใส่ Slipper Clutch มาให้เพื่อลดแรงกระชากขณะรวบเกียร์ และให้ฟีลลิ่งของก้านคลัทช์ที่นุ่มมือมากขึ้นอีก 33%
Yamaha YZF-R7 2022 มาพร้อมโหวงเฮ้งที่ดีตลอดคัน แค่เห็นก็รู้ว่า…สนุกแน่ๆ
จุดด้อยที่อยู่ใน MT-07 ล้วนได้รับการพัฒนาให้สมฐานะมากขึ้นใน Yamaha YZF-R7 2022 แสดงถึงความจริงจังในการวางตำแหน่งสองล้อรุ่นล่าสุดนี้ ให้อยู่ในระดับ “สปอร์ตแท้” เอาใจสายสนาม ไม่ใช่แค่ “สปอร์ตทัวริ่ง” ที่เน้นการใช้งานเพื่อเดินทางเท่านั้น เริ่มจากชุดแฮนด์ที่ใช้แบบ Clip On จับใต้แผงคอ ประกอบกับการลดตำแหน่งของเบาะให้ต่ำลง (835 มม.) ปรับพักเท้าให้อยู่ในระดับสูงและเยื้องไปทางด้านหลัง เพื่อให้ง่ายต่อการแบนโค้ง รวมๆ แล้ว…ท่านั่งอาจไม่ซิ่งเท่า R1 หรือ R6 (ซึ่งก็ซิ่งเกิ๊นนน…สำหรับการใช้งานทั่วไป) แต่ก็ช่วยให้สามารถจัดท่าทางได้แบบให้กระชับ รับกับถังน้ำมัน ระบบช่วงล่างปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยโช้กอัพหน้า KYB แบบ Upside Down ขนาดแกน 41 มม. ปรับได้เต็มระบบทั้ง Preload, Compression และ Rebound (ปรับได้ข้างละฝั่ง) ยึดคาลิเปอร์เบรกด้วยขาเรเดียลเม้าท์ ตัวคาลิเปอร์เป็นแบบโมโนบล็อค 4 POT จากแบรนด์ Advics ดูดีมีชาติตระกูล จับคู่กับชุดปั๊มบนจาก Brembo และจาน 298 มม. ส่วนโช้กอัพหลังเป็นแบบโมโนโช้กทำงานร่วมกับกระเดื่องทดแรง (ปรับ Preload และ Rebound) ล้ออัลลอยมาในดีไซน์ 10 ก้าน รัดด้วยยาง 120/70 R17 ในด้านหน้า และ 190/55 R17 ที่ล้อหลัง เรียกได้ว่า…เมื่อดูจากโหงวเฮ้งแล้ว ต้องยอมรับว่า ก็มีองค์ประกอบที่ดีและพร้อมรบมาแบบครบถ้วน
การจัดท่านั่งที่ดี มีผลอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการควบบคุมในสนาม
Yamaha YZF-R7 2022 พร้อมลงโชว์รูมในช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สี Icon Blue และสี Gloss Yamaha Black โดยราคาขายในอังกฤษคาดว่าจะอยู่ที่ราว 8,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.56 แสนบาท) ซึ่งหากเทียบราคากับ Yamaha MT-07 ที่ขายอยู่ 6,900 ปอนด์ (ประมาณ 3.07 แสนบาท…ส่วนบ้านเราขาย MT-07 ที่ราคา 289,000 บาท) ดังนั้น…หากลองคำนวนเล่นๆ ในอัตราส่วนเดียวกัน ก็เท่ากับว่า ราคาของ Yamaha YZF-R7 2022 หากมีการเปิดตัวสปอร์ตรุ่นนี้ในประเทศไทย ควรจะอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 350,000 บาท ไม่แน่…ปลายปีเราอาจจะได้เห็นตัวเป็นๆ ของ Yamaha YZF-R7 2022 ก็ได้ !!!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก VisorDown
