แม้จะมีแบรนด์มอเตอร์ไซค์เพียงไม่กี่ค่ายในโลก ที่สามารถสร้างรถใน 2 บุคลิก ให้อยู่ในระดับหัวแถวได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ Triumph คือ หนึ่งในชื่อที่คนจะนึกถึงอย่างแน่นอน เรื่องความคลาสสิคนั้น คงไม่มีใครเกินสองล้อจากเมืองผู้ดีแบรนด์นี้ไปได้ ส่วนในเรื่องสมรรถนะในสไตล์ของมอเตอร์ไซค์ยุคใหม่ การที่ทางค่ายค่ำหวอดอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต และ Triumph เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ 3 สูบ พิกัด 765 ซีซี. ส่งต่อสู่การแข่งขันในรายการระดับโลกอย่าง Moto2 นั้น เป็นเครื่องยืนยันได้ดีถึงศักยภาพในการพัฒนาระดับชั้นนำจากแบรนด์ Triumph
Triumph Speed Triple 1200 RR
ถ้าจะบอกว่า…นี่คือ Katana แห่งเมืองผู้ดี มีใครจะขัดไหม ?
หากฝั่งญี่ปุ่นมี Suzuki Katana ฉันท์ใด ฝั่งอังกฤษ ก็มี Triumph Speed Triple 1200 RR มอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิครุ่นใหญ่จากเมืองผู้ดีฉันท์นั้น หลังจากที่จดๆ จ้องๆ มานาน ในที่สุด Triumph ก็ถือฤกษ์ดี กย. 15 เผยโฉมสปอร์ตดีไซน์ฮาล์ฟแฟริ่งแนวร่วมสมัยคันนี้ออกมา โดย Triumph Speed Triple 1200 RR ได้รับการพัฒนาต่อยอด โดยใช้พื้นฐานโครงสร้างอลูมิเนียมทวินสปาร์จาก Triumph Speed Triple 1200 RS ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี เครื่องยนต์ที่ใช้แน่นอนว่าเป็นบล็อค 3 สูบ แถวเรียง พิกัด 1,160 ซีซี. ให้กำลัง 180 แรงม้า ซึ่งความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คงเป็นเรื่องของสไตล์ ซึ่ง RS เน้นความเป็นสปอร์ตที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ส่วน RR นั้น เน้นไปที่ความหล่อในสไตล์ย้อนยุค ที่ไม่ว่าจะขี่ไปไหน ก็ย่อมถูกจับจ้องจากทุกสายตา
Triumph เป็นหนึ่งในแบรนด์มอเตอณ์ไซค์เพียงไม่กี่ค่าย ที่เป็นหัวแถวทั้งในฝั่งคลาสสิค และฝั่งเพอร์ฟอร์แมนซ์ไบค์
หากจะบอกว่า Triumph Speed Triple 1200 RR สร้างขึ้นภายในแรงบันดาลใจจากความเป็นสปอร์ต Cafe Racer ในอดีต ก็คงจะไม่ผิด แม้ว่าในส่วนของชุดโม่งครอบไฟหน้าจะถูกปรับดีไซน์ให้เข้ากลับยุคสมัยมากขึ้น แต่กลิ่นอายโดยรวมแล้วต้องบอกว่า “มันใช่เลย” ซึ่งเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของตัวรถ แฮนด์บาร์ในเวอร์ชั่น RS ถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วยชุดแฮนด์แบบคลิปออน จับใต้แผงคอ พร้อมออกแบบชุดพักเท้าให้ยกสูง และเยื้องไปทางด้านหลังเล็กน้อย เพื่อจัดท่าทางของผู้ขับขี่ให้รู้สึกกระชับในยามที่ใช้ความเร็ว หรือเพื่อการเข้าโค้งที่ทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจน บนชุดหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ พร้อมโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 4 รูปแบบ ทั้ง Rain, Road, Sport และ Track ซึ่งหากยังไม่ถูกใจ ยังสามารถกำหนดค่าต่างๆ ด้วยตัวเองในโหมด Rider ได้อีกด้วย
ด้วยพละกำลังในพิกัด “รุ่นใหญ่” ที่มีแรงม้า 180 ตัว ส่งให้ Triumph Speed Triple 1200 RR ต้องมีระบบการจัดการที่ดีเพียงพอ โดยทางโรงงานกำหนดให้หน้าที่การควบคุมความเร็วเป็นของชุดเบรกจาก Brembo Stylema จับคู่ปั๊มบน MCS และจานเบรกหน้าขนาด 320 มม. พร้อมด้วยระบบอิเล็คทรอนิคส์ เช่น Cornering ABS ช่วยเก็บอาการอย่างเต็มรูปแบบ ด้านชุดระบบกันสะเทือนเป็นของแบรนด์เจ้าประจำ Ohlins Smart EC 2.0 พร้อมฟังคืชั่นปรับการทำงานและความหนืดด้วยไฟฟ้าตามโหมดการขับขี่ ซึ่งจะต่างกับ Triumph Speed Triple 1200 RS ที่เป็นแบบปรับแมนนวล ซึ่งหน้าที่การประมวลผลและสั่งการใน Triumph Speed Triple 1200 RR เป็นของชุดประมวลผล IMU แบบ 6 แกน ที่สามารถจับความเคลื่อนไหวของตัวรถ องศาการแบนซ้าย – ขวา, การยกของล้อหน้า – หลัง รวงมถึงการเร่ง – เบรก ได้ในทุกทิศทาง เพื่อการตอบสนองที่แตกต่างในแต่ละโหมดการขับขี่ รวมถึงสั่งการฟังค์ชั่นความปลอดภัยทุกรูปแบบ โดยชุดยางที่ถูกเลือกมาใช้ใน Triumph Speed Triple 1200 RR เป็น Pirelli Diablo Supercorsa SP V3 ที่ให้ประะสิทธิภาพในการขับขี่แนวสปอร์ตที่เหนือกว่ายาง Metzeler Racetec RR K3 ในรุ่น RS
ราคาต่างกัน แต่คันไหนก็มันส์…เชื่อดิ !
แม้ว่าหากพูดถึงรถในตระกูลสปอร์ต แฟนๆ Triumph อาจจะนึกถึงสองล้อในตระกูล Daytona แต่ในครั้งนี้ ทางค่ายออกมายืนยันเหตุผลที่ชัดเจนแล้วว่า ชื่อของ Triumph Speed Triple 1200 RR เป็นการแยกตระกูลสปอร์ตที่ยังคงสามารถขับขี่ใช้งานได้ทุกวัน ซึ่งแตกต่างจากรถในตระกูล Daytona ที่เกิดมาเพื่อการแข่งขันในสนามแข่ง โดยทางค่ายวางราคาของ Triumph Speed Triple 1200 RR เอาไว้ที่ 17,950 ปอนด์ (8.16 แสนบาท) สำหรับสีขาว Crystal White และ 18,200 ปอนด์ (8.27 แสนบาท) สำหรับสีแดง Red Hopper ซึ่งในทั้ง 2 สี จะมาพร้อมกุญแจในรูปแบบ Keyless
