เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์รถยนต์อีกหนึ่งค่าย ที่มีข่าวคราวให้พูดถึงกันได้ตลอดศก สำหรับแบรนด์ Tesla รถยนต์พลังงานไฟฟ้ายอดนิยมสำหรับสาย Gadget ที่นอกจากจะมีคอนเท้นท์โชว์เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง, กระแสการปรับราคาที่ออกมาเป็นระยะ มาในครั้งนี้…ก็มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ดูจะไม่สู้ดี หลังพบการตอบสนองที่ผิดปกติ ของระบบตัวช่วยในการขับขี่ Full Self Driving Beta หรือ FSD Beta
สำหรับความผิดปกติในการทำงานของระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งได้รับการยืนยันโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ส่งผลให้แบรนด์ Tesla ประกาศเรียกคืนรถ 362,758 คัน ในสหรัฐอเมริกา โดยรถที่ถูกเรียกคืนเพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุความผิดปกตินั้น ประกอบไปด้วย Tesla Model 3, Y, S รวมถึง Model X ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงโมเดลปี 2023 (ระบบเปิดใช้งานในเดือนตุลาคม 2020) โดยในทุกรุ่น ใช้ FSD Beta เวอร์ชั่น 3.0 ที่ทำงานร่วมกับ Camera Sensor เพียงอย่างเดียว (ไม่ได้มี LiDAR หรือ Radar ทำงานร่วมด้วย เหมือนกับระบบช่วยเหลือการขับขี่จากค่ายอื่นๆ) นั่นจึงอาจทำให้การประมวลผล ยังมีข้อผิดพลาด ด้วยข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบการประมวลผลที่แตกต่างกัน
ความผิดปกติที่เกิดจากการทำงานของระบบ FSD Beta ของรถ Tesla ที่เกิดปัญหาดังกล่าว มาจากการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่อาจก่อโอกาสให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับผ่านทางตรงในช่องทางที่เว้นไว้สำหรับเลี้ยวเท่านั้น, การขับผ่านทางแยกที่มีป้ายหยุด แต่รถไม่ยอมหยุด หรือแม้แต่การขับผ่านทางแยก ในขณะที่ไฟจราจรเป็นสีเหลือง รวมไปถึงการไม่สามารถประมวลผลการทำงานได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ หรือจัดการความเร็วอย่างเหมาะสม สำหรับรถที่ใช้ความเร็วเกินจากความเร็วที่ป้ายจราจรกำหนด ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุขั้นรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิต
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกเหนือจากการเรียกคืนเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขแล้ว Tesla จะใช้วิธีการปล่อยเฟิร์มแวร์แบบ Over the Air สำหรับรถที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการเผยข้อมูลออกมา ว่าวิธีการและแนวทางการแข่ไขจะออกมาในแนวทางไหน เนื่องจากการปรับการทำงานของระบบ FSD Beta มาจากการเรียนรู้ของตัวรถ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มากพอสำหรับการประมวลผลที่ชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น
ณ ปัจจุบัน หน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ ยังมองว่า การทำงานของ FSD Beta ยังคงอยู่ในระดับการช่วยเหลือการขับขี่ใน Level 2 โดยสามารถช่วยในการควบคุมทิศทาง ควบความความเร็ว และช่วยเบรก เท่านั้น โดยผู้ขับขี่ยังต้องเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมรถ ซึ่งต้องตื่นตัวและพร้อมสำหรับการควบคุมอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ทั้งกับตัวเองและเพื่อนร่วมทาง
