เปิดตัวมาแล้วกว่า 5 ปี สำหรับ Suzuki GSX-S1000 เจนเนอเรชั่นก่อน ซึ่ง ณ เวลานี้ คงได้เวลาที่จะอัพลุคให้ดูเข้ายุคสมัยมากขึ้น จากเดิมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหน้าตามาพอสมควร ก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเสียที ซึ่งก็ดูจะให้ผลในทางบวก อย่างน้อยๆ คือ ดูมีทรงมากกว่ารุ่นเดิม เส้นสายมีความเฉียบคม สื่อถึงพละกำลังและสมรรถนะระดับ “ตัวพัน” มากขึ้น (รุ่นก่อนแทบแยกไม่ออก ระหว่างตัว 750 กับ 1000 ซีซี.)
ดีไซน์ถือว่าเป็นเมนหลักของการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ของ Suzuki GSX-S1000 2022 ไล่มาตั้งแต่ชุดแฟริ่งที่ออกแบบให้มีเหลี่ยมสัน ดุดัน ทรงพลัง ตามสไตล์ของเนคเก็ตไบค์ยุค 2020 พร้อมเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากตัวแข่ง MotoGP นั่นก็คือ ปีกในด้านข้างที่ช่วยเก็บอาการของรถให้นิ่งขึ้นในย่านความเร็วสูง ไฟหน้ามาในรูปแบบ LED วางซ้อนกัน 3 ชั้น ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ มีการเพิ่มกิมมิคเล็กๆ ด้วยเท็กเจอร๋ลายพราง เช่น ชุดครอบเรือนไมล์ และแผงครอบหม้อน้ำ ด้านโครงสร้างหยิบยืมมาจาก Suzuki GSX-R1000 L6 (รถปี 2016) พร้อมชุดแฮนด์ที่มีความกว้างมากขึ้น 23 มม. และเยื้องเข้าหาตัวผู้ขับขี่ 20 มม. ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่าย นอกจากนี้ยังปรับถังน้ำมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 19 ลิตร ซึ่งทาง Suzuki เคลมว่าสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 300 กม. (หากอ้างอิงตามอัตราสิ้นเปลืองมาตรฐาน)
พละกำลัง…แม้ว่าเดิมๆ จะมีอยู่ถึง 140 ตัว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว แต่มันอาจจะดูไม่ว้าว หากเทียบกับเพื่อร่วมคลาสจากค่ายอื่นๆ งานนี้ Suzuki GSX-S1000 2022 จึงต้องอัพเกรดให้เร้าใจมากขึ้น โดยตัวเลขแรงม้า อาจสูงขึ้นไม่เยอะ สิริรวม 150 ตัว ที่ 11,000 รอบ/นาที แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามา คือ ย่านแรงบิดที่มีมาให้ใช้ในช่วงกว้างขึ้น เรียกอัตราเร่งได้ดี ไม่มีอาการรอรอบ ด้วยการปรับเปลี่ยนองศาแค็มชาฟต์ไอดี – ไอเสีย, สปริงวาล์ว, ชุดท่อไอเสีย แม้กำลังจะสูงขึ้น แต่ยังคงรักษามาตรฐานในระดับ Euro 5 ด้วยชุดท่อไอเสีย และแคมชาฟต์ใหม่ ที่ออกแบบโปรไฟล์ให้มีช่วง Over lap ที่น้ำลง นอกจากนี้ยังอัพเกรดชุดคลัทช์เพื่อการส่งถ่ายกำลังที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงปรับรายละเอียดของชุดสลิปเปอร์คลัทช์ด้วย
Suzuki GSX-S1000 2022 มาพร้อมระบบควบคุมคันเร่งแบบ Ride by Wire ซึ่งมาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 ระดับ โดยทั้งหมดให้พละกำลังในการขับขี่เท่ากัน แต่ต่างกันในเรื่องการตอบสนอง และระดับการทำงานของ Traction Control โดยโหมด A จะเป็นโหมดที่ให้การตอบสนองดุดันที่สุด ส่วนโหมด C จะเน้นไปที่คาแร็กเตอร์การขับขี่ที่นุ่มนวล ด้านระบบ Traction Control ทำงานต่างกัน 5 ระดับ (สามารถปิดได้) แสดงผลผ่านหน้าจอที่หยิบยืมมาจากสปอร์ตในค่ายอย่าง Suzuki GSX-R1000 (ยังไม่ใช่จอสี), ชุดเกียร์มาพร้อม Quick Shifter ที่สามารถทำงานได้ทั้งขึ้น – ลง พร้อมระบบเติมรอบเครื่องในกรณีที่ลดเกียร์อย่างรวดเร็ว เพื่อลดอาการกระชาก นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัว โดยเครื่องยนต์จะทำการเร่งรอบขึ้นเล็กน้อยเมื่อปล่อยคลัทช์ ซึ่งจะช่วยให้ออกตัวได้ง่ายขึ้น
ตบท้ายด้วยชุดช่วงล่างของ Suzuki GSX-S1000 มาพร้อมโช้กอัพ KYB ขนาดแกน 43 มม. ในด้านหน้า พร้อมโชมโนโช้กจับคู่กระเดื่องทดแรงในด้านหลัง สามารถปรับการทำงานได้ทั้ง Preload และ Rebound ระบบเบรกที่ให้มาเป็นคาลิเปอร์ Brembo Monobloc จับคู่จานขนาด 310 มม. โดย Suzuki GSX-S1000 พร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นไป ในราคา 10,999 ปอนด์ (ประมาณ 480,xxx บาท)
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Morebike