Nissan ประกาศปลดระวางตัวแข่ง Nissan GR-T GT500 หลังจากที่ใช้ในการแข่งขัน Super GT รุ่น GT500 มาตั้งแต่ปี 2008 และคว้าชับยชนะให้กับทีมมาเป็นว่าเล่น และสามารถครองแชมป์ประจำปีได้ถึง 5 สมัย ใน 13 ปี ที่ลงทำการแข่งขัน Super GT โดยในการแข่งขันฤดูกาล 2022 เป็นการส่งไม้ต่อให้กับ Nissan Z โดยการเปิดตัวรถแข่ง Super GT รุ่น GT500 ของ Nissan ในครั้งนี้ มีขึ้นที่สนาม Fuji Speedway ประเทศญี่ปุ่น
Nissan Z Nismo GT500 ตัวแข่ง Super GT ฤดูกาล 2022
การกลับมาของตัวแข่ง Nissan Z Super GT รุ่น GT500 ในครั้งนี้ เป็นการคัมแบคในรอบ 14 ปี สู่การแข่งขันระดับสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ตประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ถูกถอดจากการแข่งขันไปเมื่อปลายปี 2007 ที่ในปีนั้น ใช้แพลตฟอร์ม Nissan Z (Z33) ซึ่งสร้างความสำเร็จให้กับค่าย Nissan ได้ไม่น้อย ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ของ Nissan Z Nismo GT500 น่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตได้มากทีเดียว
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการเผยรายละเอียดสเป็คของตัวแข่ง Nissan Z Nismo GT500 มากนัก แต่แน่นอนว่าพื้นฐานทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎการแข่งขันที่ผู้จัดกำหนด ซึ่งจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร แบบเดียวกันที่แบรนด์อื่นๆ ใช้ โดยขุมพลังเหล่านี้ได้รับการโมดิฟายด้วยเทคโนโลยีขั้นสุด จนมีกำลังมากถึง 650 แรงม้า ซึ่งให้สมรรถนะที่เหนือชั้นกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบทั่วๆ ไปที่ทำตลาดอยู่ ณ ปัจจุบัน เครื่องเคียงที่ติดตั้งมาใน Nissan Z Nismo GT500 ล้วนไม่ธรรมดา โดยชิ้นส่วนต่างๆ จะถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ตั้งแต่หัวจรดท้าย ภายใน้การออกแบบที่เน้นเรื่องแอโร่ไดนามิคส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า, โป่งซุ้มล้อ, ดิฟฟิวเซอร์ท้าย รวมถึงหางหลังที่มาในรูปแบบ Swan Neck ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ในการรับลมเพื่อสร้างแรงกดในด้านท้าย ล้อที่ใช้มาในขนาด 18 x 13 นิ้ว โดยหลังจากที่ส่งมอบให้กับทีมแข่งต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตามสปอนเซอร์ของแต่ละทีม (Rays Engineering, Weds Sport, Advan) ภายใต้ข้อกำหนดเรื่องไซส์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่นเดียวกับในส่วนของยาง ที่แต่ละทีมจะมีแบรนด์ผู้ผลิตคอนซัพพอร์ทแตกต่างกัน ทั้ง Yokohama, Bridgestone, Dunlop รวมถึง Michelin
ในการแข่งขัน Super GT รุ่น GT500 ของ Nissan ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกค่ายหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ โดยทีมแข่งที่ใช้รถ Nissan สามารถคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลได้ถึง 4 ทีม ตลอด 13 ปี ที่ผ่านมา (แต่ละแบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ทั้ง Toyota, Honda และ Nissan จะส่งรถเข้าร่วมการแข่งขัน GT500 แบรนด์ละ 5 ทีม) ซึ่งข้อดีของการเปลี่ยนไปใช้รถแข่งรุ่นใหม่อย่าง Nissan Z GT500 คือ จะทำให้ทีมและนักแข่งไม่มีแรงกดดันมากนัก สำหรับการร่วมแข่งขันในปีแรก
