โดยปกติแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางในรูปแบบแอดเวนเจอร์ มักจะมีแนวทางการแต่งรถเฉพาะตัวเพื่อเพิ่มสมรรถนะของตัวรถให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองที่สุด โดยหากบางคนไม่ซีเรียสเรื่องงบประมาณ ไม่แคร์เรื่องอัตราสิ้นเปลือง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่สูงกว่า ก็มักจะเลือกรถในรูปแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและครอบคลุม
จ่ายน้อย แต่ไปได้ทุกที่ นี่แหละ…แก่นแท้ของคำว่า “คุ้มค่า”
แต่คงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเลือก จ่ายแล้วจบด้วยงบที่สูงแบบไม่ต้องสนใจปัจจัยอื่นๆ สำหรับคนที่มีงบจำกัด หรือเน้นความคุ้มค่าสูงสุด โดยไม่ได้ต้องการรถที่มีสมรรถนะในเส้นทางออฟโรดที่สูงขนาดนั้น เน้นการเดินทางทั่วไป ลุยได้เบาๆ ทางเลือกในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงจากโรงงาน บางครั้งก็สามารถตอบโจทย์ได้จน (เกือบ) จะดีพออยู่แล้ว ติดอยูที่เพียงภาพลักษณ์ รวมถึงทีเด็ดทีขาด เวลาต้องเจอเส้นทางที่ค่อนข้างทุระกันดาร โหด หินเกินปกติ การจะผ่านอุปสรรคจึงค่อนข้างทำได้ยากกับยางติดรถ ที่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมาในรูปแบบ Highway Terrain ที่เน้นการวิ่งใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการลุยในเส้นทางที่ไม่ใช่ถนนดำอย่างจริงจัง
เทียบลักษณะยางติดรถแบบ Highway Terrain (ซ้าย) กับยาง Maxxis RAZR AT-811
หน้ายางแบบซิกแซก ให้หน้าสัมผัสเต็มพื้นผิว เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะและความทนทาน
ไหล่ยางแบบบล็อค นอกจากเพิ่มแรงยึดเกาะด้านข้างแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเสียหายจากการถูกบาดอีกด้วย
ทางเลือกหนึ่งสำหรับสายลุยที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นสำคัญ
ต้องการเพิ่มสมรรถนะและยกระดับภาพลักษณ์ของตัวรถให้มีความดุดันมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเติมงบอีกหลายแสนบาทไปกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ คือ การนำรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูง มาจับคู่กับยางในรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานแบบสมบุกสมบันได้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับที่ #ทีมขับซ่า มีโอกาสได้ทดลองสมรรถนะของยาง All Terrain รุ่นล่าสุดอย่าง Maxxis RAZR AT-811 ยางสำหรับรถ SUV และรถกระบะ ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่บนทางเรียบ รวมถึงการขับขี่ในเน้นทางออฟโรด ซึ่งให้ผลลัพท์ได้อย่างน่าพอใจ
#ทีมขับซ่า ลองจริง !
Maxxis RAZR AT-811 ให้ความนุ่มนวล และเสียงที่เงียบ เมื่อขับขี่บนถนน
ความโดดเด่นของ Maxxis RAZR AT-811
อยู่ที่การบาลานซ์สมรรถนะการขับขี่ระหว่างเส้นทางทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งสำหรับการขับขี่บนทางเรียบนั้น ตัวยางยังคงให้ความนุ่มนวล ด้วยขอบยางที่มีความแข็งแรงแต่ให้ความยืดหยุ่น สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงออกแบบให้เสียงของยางเข้ามารบกวนภายในห้องโดยสารค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับยาง AT ทั่วไป นอกจากนี้ Maxxis RAZR AT-811 ยังออกแบบลายดอกยางแบบพิเศษ ให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นได้มากขึ้น ช่วยเสริมประสิทธิภาพการยึดเกาะ และเพิ่มความทนทานในการใช้งานได้มากขึ้น
หล่อ สมบุกสมบันในทางฝุ่น ยกระดับการขับขี่บนทางลูกรังหรือโคลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการขับขี่ในเส้นทางออฟโรดนั้น
สิ่งที่สังเกตได้ชัดที่สุด หลังจากที่เปลี่ยนยางจากสแตนดาร์ดมาเป็น Maxxis RAZR AT-811 คือ ภาพลักษณ์ที่ดุดัน ซึ่งช่วยยกระดับความเป็น SUV สายลุยขึ้นมาได้อีกขั้น บวกกับประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นผิวที่ดี ช่วยในการปีนป่ายขอบหิน ลูกรัง ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่องยางแบบซิกแซกที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ ช่วยลดการติด หรืออุดตันของเศษหินในร่องยาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่ปัจจัย ที่อาจจะทำให้ยางเกิดการรั่วซึมหรือฉีกขาดได้ เช่นเดียวกัน ในส่วนของไหล่ยางมีการออกแบบในลักษณะบล็อค เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรง และความสามารถในการยึดเกาะบนเส้นทางโคลนได้มากขึ้น
Maxxis RAZR AT-811 ยางสัญชาติไต้หวัน เป็นยางที่ผลิตในประเทศไทย
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ ความสดใหม่ในการตลอด ซึ่งที่ผ่านมานั้น Maxxis RAZR AT-811 เป็นยางที่ได้การยอมรับและมียอดขายสูงกว่า 20,000 เส้น ต่อปี ด้วยความที่เป็นยางที่มีประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาสำหรับรถ SUV, PPV และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ในราคาที่สามารถจับต้องได้ง่าย โดยมีให้เลือกถึง 9 ขนาด ตั้งแต่ 15-18 นิ้ว ในช่วงราคา 4,590 – 6,200 บาท/เส้น รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Maxxis Tire Center ทุกสาขา
