Home » จุดเด่นใน Honda City Hatchback 2024 อีกขั้นของความคล่องตัว และปลอดภัย พร้อมดีไซน์ใหม่ที่โดนใจยิ่งขึ้น

จุดเด่นใน Honda City Hatchback 2024 อีกขั้นของความคล่องตัว และปลอดภัย พร้อมดีไซน์ใหม่ที่โดนใจยิ่งขึ้น

by Admin clubza.tv
จุดเด่นใน Honda City Hatchback 2024

Honda City Hatchback 2024 (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่) ซิตี้คาร์สปอร์ตแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ยอดนิยมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นสู่การเป็น “Energetic & Safety Hatchback” สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน ห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่สามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบ ตอบรับทุกการใช้งาน มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้งระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานพลังกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร และขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ขับสนุกทุกอัตราเร่งด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า มั่นใจทุกการเดินทางกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

จุดเด่นใน Honda City Hatchback 2024

Honda City Hatchback 2024รายละเอียดที่น่าสนใจ
 5 รุ่นย่อยe:HEV

– SV ราคา 729,000 บาท

– RS ราคา 799,000 บาท

VTEC Turbo

– S+ ราคา 599,000 บาท

– SV ราคา 679,000 บาท

– RS ราคา 749,000 บาท

ภายนอกรุ่น S+, SV, และ e:HEV SV

– กันชนหน้า – หลัง ดีไซน์ใหม่

– กระจังหน้าโครเมียม + ล้ออัลลอยใหม่

 

รุ่น RS และ e:HEV RS

– กันชนหน้า – หลัง ดีไซน์ใหม่ + ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED

– กระจังหน้าสีดำเงา

– สเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์ท้าย

 

รุ่น e:HEV SV และ RS

– สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำแบบ Two-tone

ภายใน– เบาะนั่งแบบ Ultra Seat แยกพับ 60:40 ปรับพับได้ถึง 4 โหมด

– วัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง (สำหรับรุ่น RS)

– วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (สำหรับรุ่น SV)

– หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (สำหรับรุ่น SVและ RS)

ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (สำหรับรุ่น รุ่น e:HEV)

เทคโนโลยีความปลอดภัย– Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

– ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

 

มูฟอย่างมีสไตล์ในดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตขึ้นอีกขั้น สะดวกสบายไปกับห้องโดยสารกว้างขวาง

Honda City Hatchback ออกแบบภายใต้แนวคิด Energetic Hatchback ดีไซน์ภายนอกสะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายเฉียบคมต่อเนื่องรอบคัน สะท้อนความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์แฮทช์แบ็ก ในขณะที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้งาน

การออกแบบภายนอก

โดดเด่นในทุกรายละเอียด กับดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมรอบคัน ด้วย

  • ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
  • ใหม่! กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV) พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
    แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย เอกลักษณ์เฉพาะรถ e:HEV ของฮอนด้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
  • ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)

การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง โปร่งโล่ง มอบความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

  • ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
  • วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black
  • มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)

พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ พร้อมด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า โดยปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่

  • Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
  • Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
  • Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

เสริมสปิริตความสปอร์ตขึ้นอีกขั้น ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS

  • ใหม่! กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • ใหม่! เพิ่มสเกิร์ตข้าง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ใหม่! ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
  • ใหม่! ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
  • ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง

 

มูฟไปข้างหน้าอย่างมีพลังในทุกเส้นทาง กับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน

  • ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ตอบโจทย์ในทุกเส้นทางด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์ขนาด 5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC
    i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว
    พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่
    ลิเธียม-ไอออน
    มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร
    ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20 ทั้งนี้ ระบบฟูลไฮบริด e:HEV
    จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ ประกอบด้วย
    3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
  • พร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เทคโนโลยี
    ฟูลไฮบริดจากฮอนด้าในรถซิตี้คาร์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

  • ขุมพลัง TURBO กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger ขับสนุกทุกเส้นทาง มอบอัตราเร่งแรงเร้าใจได้ตามคิดด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อีกทั้งประหยัดน้ำมันเกินคาดด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20

 

มูฟสู่ทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่รองรับทุกการขับขี่

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบ
ไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น S+, SV และ RS)
    พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF)
    (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

 

พร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครัน* อาทิ

  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV
    และ e:HEV RS)
    ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ถุงลมคู่หน้า
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)

 

ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและฟังก์ชันล้ำสมัย* เชื่อมต่อรถกับผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว อาทิ

  • ใหม่ ! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผล
    สีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
  • ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) และด้านหน้า 1 ตำแหน่ง
    (รุ่น
    S+)

  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ปุ่ม ECON
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
  • พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก
    (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
  • ยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ (รุ่น RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

 

Honda City Hatchback ใหม่ สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่

สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (Brilliant Sporty Blue Metallic) หลังคาสีดำ  (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)

 

สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (Ignite Red Metallic) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS)

สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS)

สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl)

สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic)

 

สีเทาโซนิค (มุก) (Sonic Gray Pearl)

สีขาวทาฟเฟต้า (Taffeta White) (เฉพาะรุ่น S+)

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy