ณ ปัจจุบัน โลกเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน รถยนต์ในเซ็กเม้นท์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีการปรับเปลี่ยนจากรูปแบบที่เคยใช้เครื่องยนต์สันดาป มาเป็นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้สมรรถนะสูง และปล่อยมลพิษต่ำกว่า แต่แน่นอนว่า…แนวความคิดแบบนี้ อาจใช้ไม่ได้กับทุกๆ ค่าย หลังจากที่ผู้บริหารของ Ford ออกมาประกาศแล้วว่า สปอร์ตระดับไอคอนิคของแบรนด์อย่าง Ford Mustang จะยังคงยึดมั่นในขุมพลัง V8 อันเป็นจุดขายที่สำคัญของสปอร์ตระดับตำนานรุ่นนี้
สำหรับแนวความคิดดังกล่าว ถูกเผยโดย Jim Owens ผู้จัดการ Ford Mustang จาก Ford Motor Company ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อฝั่งออสเตรเลียว่า “Ford Mustang เจนเนอเรชั่นต่อไป อาจไม่ใช่รุ่นสุดท้ายที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และจะเป็นเช่นนั้นท่ามกลางยุคที่รถ EV ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม” โดยเขายังยืนยันอีกว่า เครื่องยนต์ V8 จะยังถูกผลิตเผื่อสายตำนานของตระกูลที่สืบทอดมาตั้งแต่ปี 1964 ต่อไป ตราบใดที่ Ford Motor Company จะยังคงทำได้ ซึ่งแนวความคิดดังกล่าว ดูจะเป็นไอเดียที่แตกต่างกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Dodge Charger รวมถึง Chevrolet Camaro ที่มีแววว่าจะปรับขุมพลังมาในรูปแบบ 6 สูบ หรือเปลี่ยนเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ
หนึ่งในเหตุผลที่ทางค่ายเดินหน้าเต็มสูบในการพัฒนาเครื่องยนต์ V8 ต่อไป เป็นเพราะการแยกกลุ่มลุกค้าอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งคนที่ชื่นชอบ Ford Mustang จะยังคงหลงใหลในสุ้มเสียงและอารมณ์ของขุมพลัง V8 แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และอยากสัมผัสฟีลลิ่งการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ค่าย Ford ยังคงมี Mustang Mach-E GT Performance Package ซึ่งให้พละกำลังในระดับใกล้เคียงกันมาเป็นทางเลือก โดยเมื่อ Jim Owens ถูกถามว่า “มีความกังวลว่า เครื่องยนต์ V8 จะขัดกับกฏหมายด้านมลพิศษในอนาคตหรือไม่ ?” เขาตอบว่า “ณ เวลานี้ ยังไม่สามารถฟันธงได้แบบ 100% แต่แน่นอนว่า รถที่ทำตลาดอยุ่ ณ เวลานี้ เป็นรถที่ผ่านมาตรฐานไอเสียและทำตลาดได้อย่างถูกต้อง และเราจะยังคงพัฒนาเครื่องยนตืเหล่านั้น ให้สามารถทำตลาดได้อย่างถูกกฎหมายต่อไปในอนาคต”
คงต้องติดตามดูกันว่า ความตั้งใจของ Ford ที่จะรักษาขุมพลัง V8 ของ Ford Mustang ให้ได้ยาวนานที่สุดนั้น จะไปได้ไกลขนาดไหน โดย ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ค่าย Blue Oval เท่านั้น ที่กำลังทำสิ่งนี้ แต่เพื่อนร่วมชาติอย่าง General Motor ก็กำลังพัฒนาเครื่องยนต์ V8 บล็อคใหม่ สำหรับใช้ในปิคอัพและ SUV ขนาดใหญ่ แทนที่เครื่องยนต์บล็อคปัจจุบันที่ทำตลาดมาตั้งแต่ในปี 2014 เช่นเดียวกัน