โดยปกติแล้ว กฎข้อบังสำหรับรถแข่งในประเภท FIA GT3 จะอนุญาตให้ดัดแปลงสปอร์ตโปรดักชั่นเพื่อให้เข้าร่วมการแข่งขันได้ ซึ่งในเวลานี้ ทางค่าย Ford ได้เป็ดตัว Ford Mustang GT3 ก่อนที่การแข่งขัน Endurance ที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Le Mans 24 Hours. ครั้งที่ 100 จะเริ่มต้นขึ้น โดยตัวรถได้รับการอัพเกรดพื้นฐานมาจาก Ford Mustang Dark Horse ซึ่งมาพร้อมสมรรถนะ รวมถึงองประกอบที่พร้อมสำหรับการแข่งขันมากกว่ารุ่นสแตนดาร์ด
Ford Mustang GT3 พร้อมเปิดตัวในศึก Le Mans 24 ชั่วโมง
สิ่งที่ Ford Mustang GT3 ถูกอัพเกรดจาก Ford Mustang Dark Horse เริ่มตั้งแต่ในด้านหน้า ที่มีการติดตั้งชุดสปลิตเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งชุดคานาร์ดที่บริเวณมุมกันชน และด้วยความที่รถคันนี้ เป็นรถที่จะใช้สำหรับการแข่งขันในรายการที่กินเวลาถึง 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงต้องมีการติดตั้งชุดไฟหน้าเพิ่มเติมที่บริเวณกระจังหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิศัยในยามที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในบริเวณซุ้มล้อหน้าหน้า มีการดึงชุดโป่งออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับหลักแอโร่ไดนามิคส์ พร้อมทั้งเพิ่มช่องระบายอากาศ ลดการหมุนวนของลมภายในซุ้มล้อ เช่นเดียวกับในส่วนของด้านท้าย ที่มีการเจาะช่องต่างๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ก็เพื่อเรื่องของการระบายความร้อน และอากาศพลศาสตร์ทั้งสิ้น
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับตัวแข่งในระดับ GT3 การติดตั้งหางหลังขนาดใหญ่ ที่ยึดอยู่กับขาที่มาในรูปแบบ Swan Neck ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถสร้างพื้นที่ในการรับลมเพื่อสร้างแรงกดให้กับตัวรถได้มากที่สุด เช่นเดียวกับของ Ford Mustang GT3 ที่ยึดอยู่กับส่วนท้ายของเสา C ส่วนบริเวณใต้ท้อง เป็นที่อยู่ของดิฟฟิวเซอร์ที่ช่วยจัดระเบียบการไหลผ่านของลมจากใต้ท้อง เพื่อลดแรงต้านการเคลื่อนที่ ภาพลักษณ์ของตัวถังโดยรวม มาในสีสันสดใส ส้ม น้ำเงิน ม่วง แดง พร้อมคาดโลโก้ Ford Performance (FP) ดีไซน์ใหม่ ซึ่งให้ภาพลักษณ์ที่สะดุดตามากขึ้น
ห้องโดยสารถูกสร้างขึ้นใหม่ ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ที่จะเป็นสำหรับการขับแข่ง
ขุมพลัง Coyote แบบ V8 พิกัด 5.4 ลิตร
Ford Mustang GT3 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Coyote แบบ V8 พิกัด 5.4 ลิตร พร้อมระบบการรับไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยชุด Air Duct ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งพัฒนาร่วมกับMultimatic ที่เป็นพันธมิตรกับตัวแข่ง Ford GT3 รวมถึงรถแข่ง Ford GT มาอย่างยาวนาน รวมถึงทีมแข่ง M-Sport (พันธมิตรในการแข่งขัน WRC) โดยเครื่องยนต์ของ Ford Mustang GT3 ถูกจับคู่กับชุดเกียร์ที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหลัง และส่งกำลังขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง ในส่วนของชุดช่วงล่างถูกสั่งทำพิเศาเพื่อการแข่งขัน ซึ่งหากเทียบกับ Ford Mustang Dark Horse เวอร์ชั่นที่ออกแบบมาให้ใช้งานบนถนน Ford Mustang GT3 ได่รับการออกแบบช่วงล่างให้สามารถปรับเซ็ตค่าต่างๆ ได้อย่างหลากหลายกว่ามาก ซึ่งรายละเอียดการโมดิฟายทั้งหมด
สำหรับการแข่งขันในระดับสากลของยุคนี้ อาจไม่ใช่แค่ระหว่าง Ford vs. Ferrari อย่างที่เราเคยได้ยินมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน เพราะในปัจจุบัน หลายๆ แบรนด์ต่างก็พัฒนารถของตัวเองจนอยู่ในระดับสูงสุดด้วยกันทั้งสิ้น การกลับไปที่ Le Mans อีกครั้งของ Ford เป็นเสมือนการตอกย้ำการเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่างจริงจัง เพื่อประกาศจุดยืนว่า Ford พร้อมแล้วที่จะเดินหน้ากับวงการความเร็วอย่างเต็มสูบในอนาคต โดยในครั้งนี้ เป็นทาง Proton Competition เป็นทีมแรกที่ตัดสินใจสั่ง Ford Mustang GT3 มาเป็นตัวแข่ง World Endurance Championship 2024 ซึ่งจะรวมไปถึงรายการ 24 Hours of Le Mans หรือ Le Mans 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ Ford Performance จะจับมือกับ Multimatic Motorsports ส่งตัวแข่ง Ford Mustang GT3 อีก 2 คัน ลงลุยศึก MSA GTD Pro รายการ Rolex 24 at Daytona 2024 อีกด้วย
