Naked Bike นิยามสำหรับมอเตอร์ไซค์เปลือยแฟริ่ง ที่ไบค์เกอร์หลายๆ คนคงคุ้นมาแล้วหลายทศวรรษ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า…จุดเริ่มต้นในความเป็น Naked Bike ที่แท้ทรูนั้น เป็นผลมาจากการที่ค่าย Ducati แบรนด์มอเตอร์ไซค์ชั้นนำสัญชาติอิตาเลี่ยน ได้เผยโฉมสองล้อในตระกูล Monster M900 เมื่อช่วปี 1993 ซึ่งด้วยภาพลักษณ์ที่เปลือยเปล่า โชว์ความดุดันของโครงสร้างในรูปแบบ Trellis Frame จับคู่กับชุดไฟหน้าทรงกลมไร้ชิลด์บังลมหน้า เป็นที่มาของนิยามมอเตอร์ไซค์ในรูปแบบ Naked Bike ตั้งแต่นั้นมา
จวบจนปัจจุบัน…นับเป็นเวลาร่วม 3 ทศวรรษ Ducati Monster ยังคงเป็นมอเตอร์ไซค์ในรูปแบบเนคเก็ตไบค์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก โดยเพียงแค่เจนเนอเรชั่นแรกอย่าง Ducati Monster M900 ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 350,000 คัน ทั่วโลก และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปี ของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล Monster ทางค่าย Ducati จึงได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษในชื่อ Ducati Monster 30° Anniversario ออกมาให้สาวกได้สำสมในจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน ซึ่งแต่ละคันนั้น จะมีหมายเลขการผลิตกำกับเพื่อบ่งบอกความพิเศษ โดยนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นในอีก 5 รุ่นพิเศษ จากทุกเซ็กเม้นท์ ที่จะเปิดตัวตามมาในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เท่านั้น
Ducati Monster 30° Anniversario ได้ชื่อว่า เป็นสองล้อในตระกูล Monster ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีน้ำหนักรวมของเหลวพร้อมน้ำมันเต็มถังอยู่ที่เพียง 184 กก. เท่านั้น ซึ่งน้ำหนักที่เบาลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับรูปแบบโครงสร้างมาใช้เป็นอลูมิเนียม Panigale-esque ที่ออกแบบมาให้เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ แทนที่โครงสร้างเหล็ก Trellis ที่มีน้ำหนักมากกว่า (เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เสียงของสาวกแตกออกเป็น 2 ฝั่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ อะไรดี…ก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง) โดย Ducati Monster 30° Anniversario มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นสแตนดาร์ดถึง 4 กก. (และเบากว่ารุ่น SP 2 กก.)
Ducati Monster 30° Anniversario ยังคงมาพร้อมขุมพลัง L-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 937 ซีซี. ที่ให้กำลังในระดับ 111 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 93 นิวตัน-เมตร จับคู่กับโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ที่สามารถเลือกระดับการตอบสนองได้ตามต้องการ พร้อมคุณสมบัติเรื่องความยืดหยุ่นในการดูแลรักษาในทุกๆ 15,000 กม. ซึ่งช่วยลดความกังวลให้กับผู้ใช้งาน ในส่วนของภาพลักษณ์ ตลอดกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา Ducati Monster มีการเปิดตัวโมเดลต่างๆ มาแล้วถึง 35 รุ่น ซึ่ง Ducati Monster 30° Anniversario จะมาพร้อมลวดลายอันเป็นซิกเนเจอร์ในตระกูลพิเศษของแบรนด์ที่มักจะเล่นสีในรูปแบบ Tri Color ขาว แดง เขียว สื่อถึงความเป็นสองล้อสัญชาติอิตาเลี่ยน พร้อมกันการเลือกใช้ชิ้นส่วนพิเศษ เช่น บังโคลนหน้าดีไซน์ใหม่ ที่เราไม่เคยได้เห็นใน Monster รุ่นไหนมาก่อน
นอกจากจะมีโลโก้ครบรอบ 30 ปี ปักไว้บริเวณเบาะนั่งแล้ว Ducati Monster 30° Anniversario ยังโดดเด่นด้วยกราฟฟิคต้อนรับบนหน้าจอแสดงข้อมูลแบบ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว เมื่อบิดสวิตช์ On ในส่วนของระบบรองรับมาพร้อมชุดโช้กอัพจาก Ohlins NIX 30 ขนาดแกน 43 มม. ที่สามารถปรับได้อย่างเต็มรูปแบบ (เบากว่าสแตนดาร์ด 0.6 กก.) พร้อมด้วยกันสะบัดจากแบรนด์เดียวกัน ชุดเบรกมากับแบรนด์ Brembo Stylema แบบ Monobloc 4 POT (เบากว่าสแตนดาร์ด 0.4 กก.) จับคู่จาน 320 มม. ทำงานร่วมกับฟังค์ชั่น Cornering ABS ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถแต่งอาการในโค้งได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และที่ขาดไม่ได้ คือ วงล้ออลูมิเนียมสีทอง ที่ได้รับการดีไซน์มาเป็นพิเศษเพื่อ Ducati Monster 30° Anniversario โดยเฉพาะ รัดด้วยยาง Pirelli Diablo Rosso IV ลดน้ำหนักใต้สปริงได้อีก 1.86 กก. โดยคิดเป็นการลดโมเมนตัมแรงเฉื่อยในล้อหน้าได้ถึง 21.8% และ 26.9% สำหรับล้อหลัง ซึ่งส่งผลให้ Ducati Monster 30° Anniversario สามารถพลิกและควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้น
และเพื่อให้ภารกิจการลดน้ำหนักเป็นไปอย่างสมบูรณ์ Ducati Monster 30° Anniversario ยังมาพร้อมชุดบังโคลนหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์, เปลี่ยนแบตเตอรี่มาเป็นแบบลิเธียมไอออน พร้อมใช้ท่อไอเสียจาก Termignoni แบบ Slip On ที่มีน้ำหนักเบาลง (โดยยังคงอยู่ในเงื่อนไขด้านมลพิษทางเสียงที่กฎหมายกำหนด) สำหรับราคาของ Ducati Monster 30° Anniversario เปิดตัวอยู่ที่ £16,095 หรือประมาณ 7.1 แสนบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยเช่นกัน