Home » Boxer ที่สุดแห่งขุมพลังระดับตำนาน ผลงานสุดเก๋ากว่า 97 ปี ของค่าย BMW Motorrad

Boxer ที่สุดแห่งขุมพลังระดับตำนาน ผลงานสุดเก๋ากว่า 97 ปี ของค่าย BMW Motorrad

by Admin clubza.tv

หากพูดถึงมอเตอร์ไซค์จากแบรนด์ BMW Motorrad สิ่งที่หลายๆ คนนึกถึง คงหนีไม่พ้นเรื่องของความเร็ว ความแรง ด้วยกระแสความนิยมของไบค์เกอร์ยุคใหม่ที่ติดภาพของสองล้อที่ให้กลิ่นอายความเป็นสปอร์ตระดับหัวแถวของโลก แต่อันที่จริงแล้ว แก่นแท้ของความเป็น BMW Motorrad ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของความเร็ว แรงเพียงอย่างเดียว แต่หากเป็นในเรื่องของเอกลักษณ์ระดับตำนาน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาอย่างยาวนานกว่า 97 ปี ซึ่งหากเทียบเป็นอายุคน ก็คงต้องบอกว่า…เก๋าสุดๆ เลยทีเดียว

BMW R32 ถือกำเนิดในปี 1923

แน่นอนว่าตำนานความเก๋ากว่า 97 ปี ของค่าย BMW Motorrad คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของขุมพลังที่ถูกขนานนามว่า Boxer ที่ถูกถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานเอกลักษณ์พร้อมแสดงความเป็นผู้นำแห่งวงการสองล้อของค่ายมาโดยตลอด เครื่องยนต์ Boxer ถือกำเนิดมาตั้งแต่ในยุค 1890 และถูกนำมาประจำการในมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกอย่าง BMW R32 ในปี ค.ศ. 1923 ด้วยรูปแบบเครื่องยนต์สูบนอน วางตามแนวยาวของตัวรถ โดยเสื้อสูบถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งนอกจากความโดดเด่นด้านดีไซน์เครื่องยนต์แล้ว ยังมาพร้อมระบบการขับเคลื่อนด้วยเพลา ที่เน้นเรื่องความทนทาน สามารถดูแลรักษาได้ง่าย จนกระทั่งในปีต่อมา ทางค่ายได้พัฒนาขุมพลัง Boxer ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วยระบบฝาสูบแบบ OHV (Over Head Valve) ใน BMW R37 ซึ่งถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกในโลกที่ใช้เสื้อสูบอะลูมิเนียม จนกระทั่งเครื่องยนต์ Boxer ได้กลายมาเป็น Signature ของแบรนด์ BMW Motorrad จากนั้นมา

องค์ประกอบของขุมพลัง Boxer ดูไม่ซับซ้อน แต่น่าหลงใหล

จากนั้นเอง ค่าย BMW Motorrad ก็เปิดตำนานใหม่ ด้วย BMW R5 ในปี 1937 ซึ่งให้กำลังในการขับเคลื่อนถึง 24 แรงม้า และสามารถทำความเร็วได้ในระดับ 160 กม./ชม. ในเวลาต่อมา…BMW Motorrad ก็พัฒนารูปแบบและประสิทธิภาพของขุมพลัง Boxer มาตลอด โดยปรับในเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ ปรับความจุของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น พร้อมใส่เทคโนโลยีชั้นนำเข้าไป ภายใต้เอกลักษณ์ดั้งเดิมของความเป็นเครื่องยนต์ 2 สุบนอน แยกเสื้อออก 2 ฝั่ง จนแจ้งเกิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเครื่องยนต์บล็อคนี้ถูกนำมาประจำการในมอเตอร์ไซค์สายลุยอย่างตระกูล R – GS ก่อนจะถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่มอเตอร์ไซค์แนวโมเดิร์นวินเทจอย่าง BMW R9T แต่นั่นอาจจะยังไม่สุดพอ เมื่อเทียบกับขุมพลัง Boxer บล็อคล่าสุดที่ทางค่ายนำเสนอ ซึ่งขุมพลังบล็อคนี้ มีความจุมากถึง 1.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ Boxer ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว

แน่นอนว่าเครื่องยนต์ Boxer ที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ ถูกนำมาประจำการใน BMW R18 มอเตอร์สไตล์ครุยเซอร์รุ่นล่าสุดของทางค่าย ที่พร้อมจะกลับมาผงาดในวงการอีกครั้ง แม้จะเป็นเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยียุคปัจจุบัน  แต่ขุมพลังของ BMW R18 กลับยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็น Boxer ยุค 97 ปีก่อน เอาไว้อย่างเหนียวแน่น เริ่มด้วยระบบฝาสูบ OHV ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุสุทธิของเครื่องยนต์บล็อคนี้อยู่ที่ 1,802 ซีซี. ด้วยการใช้ลูกสูบขนาด 107.1 และช่วงชัก 100 มม. กำหนดอัตราส่ววนกำลังอัดไว้ที่ 9.6 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด กำลังสูงสุดที่ทำได้คือ 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 158 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ซึ่งความโดดเด่นคือ ในช่วงความเร็วเดินทางในรอบเครื่องยนต์ระหว่าง 2-4,000 รอบ/นาที จะมีแรงบิดให้ใช้มากกว่า 150 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ Boxer รุ่นล่าสุดนี้ สามารถทำรอบการหมุนสูงสุดถึง 5,750 รอบ/นาที และใช้รอบเดินเบาอยู่ที่ 950 รอบ/นาที ซึ่งด้วยชิ้นส่วนหลักๆ ที่ทำจากอลูมิเนียม ทำให้เครื่องยนต์ Boxer 1.8 ลิตร บล็อคนี้ มีน้ำหนักเพียง 110.8 กก. เท่านั้น

ด้วยเครื่องยนต์ที่มีจำนวนสูบน้อย แต่มีความจุที่มากขนาดนี้ อาจทำให้มีปัญหาการสั่นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทาง BMW Motorrad จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการบาลานซ์ข้อเหวี่ยงพร้อมเพิ่มลูกปืนข้อเหวี่ยงให้เครื่องยนต์สามารถหมุนได้อย่างสมูทมากขึ้น ตัวลูกสูบทำจากอะลูมิเนียมฟอร์จ พร้อมแหวนกำลังอัด 2 ชั้น และแหวนกวาดน้ำมัน 1 ตัว เสื้อสูบใช้อะลูมิเนียมน้ำหนักเบา มีการเคลือบผิวด้วย NiCaSil เพิ่มความลื่นและความแข็งแรง หล่อลื่นและระบายความร้อนด้วยระบบ Wet Sump ทำงานเป็น 2 สเตจ ขับเคลื่อนการทำงานผ่านโซ่ราวลิ้นที่เชื่อมต่ออยู่กับเพลาข้อเหวี่ยง ด้านการจุดระเบิดมาในรูปแบบคู่ 2 หัวเทียน/สูบ ควบคุมการจุดระเบิดด้วย BMS-O จาก Bosch รองรับมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5

อดีต vs. ปัจจุบัน กับเอกลักษณ์ที่ผสานกันได้อย่างไร้รอยต่อ

ไม่ใช่แค่ขุมพลังที่มีความโดดเด่น แต่ BMW R18 ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนชั้นเลิศ โดยระบบส่งกำลังของ BMW R18 มาในรูปแบบ 6 สปีด พร้อม Anti-hopping Clutch และเกียร์ถอยหลังมาเป็นทางเลือก โดยจัดเต็มระบบความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ เช่น โหมดการขับขี่ Rain, Roll และ Rock, ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์, ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control), ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ที่ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้ดียิ่งขึ้น…เห็นจัดเต็มแบบนี้แล้ว ต้องบอกว่าเป็นความคลาสสิคที่ลงตัว ซึ่งผสานความเก๋าของเอกลักษณ์อันยาวนานกว่า 97 ปี กับเทคโนโลยีระดับแนวหน้าได้แบบไร้รอยต่อ…ดูแล้วมันช่างน่าหลงใหลเสียนี่กระไร

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก motorradonline, คลิปจาก BMW Motorrad Thailand


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy