อย่างที่ “ขับซ่า” เรานำเสนอมาโดยตลอด ว่าทิศทางการพัฒนารถในรูปแบบพลังงานไฟฟ้าล้วน หรือแบบปลั๊กอินไฮบริด นั้นกำลังมา และไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับทุกคนอีกต่อไป ล่าสุดมีข่าวคราวเกี่ยวกับกระบะขวัญในมหาชนอย่าง Ford Ranger ที่คอนเฟิร์มแล้วว่า กำลังซุ่มพัฒนาปิดอัพในรูปแบบ Plug-In Hybrid และพร้อมส่งถึงมือผู้ใช้ภายในปี 2023 รายละเอียดมันเป็นยังไง…ตามมาชมกันครับ
เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซท์แดนออสซี่ได้นำเสนอความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Ford Ranger ว่า ฟอร์ด ยุโรป คอนเฟิร์มแล้วว่า กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนา และพร้อมปล่อย Ford Ranger เวอร์ชั่น Plug-In Hybrid ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่า สาวกปิคอัพชาวออสซี่ (รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆ ทั้งยุโรป และเอเซีย) ที่ให้ความสนใจรถในรูปแบบพลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก มีโอกาสจะได้สัมผัสกับ Ford Ranger ในรูปแบบปลอดมลพิษภายในปี 2024 (ฟอร์ดตั้งใจจะขยับตัวสู่ความเป็นค่ายที่ทำรถพลังงานไฟฟ้าล้วนในปี 2030 โดยภายในปี 2026 รถทุกรุ่น จะต้องพร้อมที่จะเป็นรถที่สามารถปลดปล่อยมลพิาเป็น 0 เป็นอย่างน้อย หรือพุดให้เข้าใจง่ายๆ คือ อย่างน้อยต้องมาในณุปแบบปลั๊กอินไฮบริด ที่มีช่วงการใช้งานที่ไม่ปล่อยมลพิษเลย) แม้ว่าฟอร์ด ออสเตรเลียจะมาจากฐานการผลิตในประเทศไทย (ไม่ได้มาจากฝั่งอัฟริกาเหมือนฟอร์ดในยุโรป) แต่ด้วยความที่ออสเตรเลียนั้น เป็นตลาดใหญ่สำหรับรถในรูปแบบปิคอัพ ทำให้มีพลังเสียงมากพอที่จะทำให้ทางฟอร์ดต้องฟัง ซึ่งก็มีความเป็นได้สูงว่าผู้ใช้ในออสเตรเลีย มีโอกาสจะได้สัมผัสกับขุมพลังของ Ford Ranger เจนเนอเรชั่นต่อไปในทุกรูปแบบ
จากการเผยข้อมูลของฟอร์ดยุโรป แน่นอนว่านอกจากจะมี Ford Ranger เวอร์ชั่น Plug-In Hybrid แล้ว PPV ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันอย่าง Ford Everest ก็จะมาพร้อมขุมพลังในรูปแบบไฮบริดเสียบปลั๊กด้วยเช่นเดียวกัน (แต่อาจจะไม่ได้ทำตลาดในออสเตรเลีย) โดยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดใน Ford Ranger และ Everest PHEV จะมาในรูปแบบเบ็นซินเทอร์โบ 4 สูบ พิกัด 2.3 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กชาร์จ ให้กำลังกว่า 320 แรงม้า พร้อมแรงบิด 680 นิวตัน-เมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองราว 33 กม./ลิตร ซึ่งในปัจจุบัน Ford ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ V6 Turbo 3.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริดใน Ford Explorer PHEV และเครื่อง 2.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้าใน Ford Escape PHEV ทำให้การมาของ Ford Ranger และ Everest PHEV จะเป็นการเติมเต็มช่องว่างของขุมพลังในรูปแบบ PHEV ให้เต็มมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ในภาพรวม…แม้โอกาสที่จะเป็นไปได้นั้นมีสูง แต่ก็เชื่อว่า…คงไม่ใช่ทุกที่ในโลก ที่จะได้สัมผัสกับ Ford Ranger และ Everest ในรูปแบบ PHEV
นอกจากขุมพลังใหม่ในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดแล้ว Ford Ranger จะมาพร้อมขุมพลังในรูปแบบดีเซล 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ที่เราคุ้นเคย (รวมถึงเครื่องดีเซล V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ในรุ่นท็อป) และมีการคาดหมายกันว่า Ford Ranger Raptor รุ่นถัดไป จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบ็นซิน Eco Boost V6 เทอรโบ 2.7 ลิตร ให้กำลัง 310 แรงม้า และแรงบิด 540 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบฟูลไทม์ ซึ่งให้กำลังมากกว่า Ford Ranger Raptor รุ่นปัจจุบันเกือบ 100 แรงม้า รวมถึงให้แรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 40 นิวตัน-เมตร…ซึ่งหวังว่าคงได้เห็น Raptor เจนเนอเรชั่นต่อไปในบ้านเรานะ ?
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก carexpert