Home » ฟันธง ! เลือกสปอร์ตงบ 3 ล้านบาท…เจาะรายละเอียดให้ดูชัดๆ

ฟันธง ! เลือกสปอร์ตงบ 3 ล้านบาท…เจาะรายละเอียดให้ดูชัดๆ

by Admin clubza.tv
ฟันธง ! เลือกสปอร์ตงบ 3 ล้านบาท

ไม่ใช่ทุกคนที่มองว่า “รถยนต์” เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการสัญจร ไปไหนมาไหนเท่านั้น แต่สำหรับบางคน นี่เป็นอีกสิ่งที่เกิดมาเพื่อการเป็นคอลเล็คชั่นสำหรับสะสม เป็นเครื่องประดับ ใช้เพื่อสร้างความสุขยามได้มองหรือขับขี่ ซึ่งแน่นอนว่ารถเหล่านี้ โดยส่วนมากจะมีราคาสูง ตั้งแต่หลัก 2-3 ล้านบาท ไปจนถึงหลักกว่า 10 ล้านบาท ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จะพาไปเจาะรายละเอียดของรถสปอร์ต รถสมรรถนะสูง ในงบประมาณที่ได้รับความนิยมสูงสุด นั่นก็คือในระดับราคา +- 3 ล้านบาท ไปดูกันว่า…รถในกลุ่มนี้ มีสปอร์ตรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ?

Mazda MX-5

ในงบประมาณดังกล่าว สำหรับรถที่จำหน่ายในประเทศไทย ก็จะประกอบไปด้วย Mazda MX-5, Subaru BRZ เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Motor Show 2022, Ford Mustang 2.3 L EcoBoost, Toyota GR Yaris, Mercedes-AMG GLA35 รวมถึง Mini Cooper S Paddy Paddy Hopkirk ซึ่งแต่ละคัน ถือว่ามีขนาดและบอดี้สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนตรงนี้…อาจจะต้องพิจารณาภายใต้เงื่อนไข “ความชอบส่วนตัว” เพราะแน่นอนว่า ความต้องการของแต่ละบุคคลนั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

Mercedes-AMG GLA35

วัดกันด้วยเรื่องพละกำลังของรถในกลุ่มนี้ คันที่ดูจะได้เปรียบที่สุด คงหนีไม่พ้น Mercedes-AMG GLA35 ซึ่งเป็นคันเดียวที่มีแรงม้าเกินกว่า 300 ตัว พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Matic ซึ่งโดดเด่นในเรื่องเสถียรภาพในการขับขี่ เช่นเดียวกับ Toyota GR Yaris ที่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเช่นเดียวกัน ต่างกันตรงที่สามารถปรับรูปแบบการส่งถ่ายกำลังที่ล้อหน้า : หลัง ได้ตามที่ต้องการใน 3 รูปแบบการขับเคลื่อน แม้ว่าพละกำลังอาจเป็นรองอยู่เล็กน้อย แต่เรื่องประสิทธิภาพในการขับขี่กับภาระในการแบกน้ำหนัก ดูจะไม่ได้ต่างกันจนเห็นน้ำเห็นเนื้อ โดยยังมาพร้อมระบบการขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา ซึ่งช่วยเติมความสนุกในการขับขี่ได้มากขึ้นอีกขั้น (เช่นเดียวกับใน Mini Cooper S Paddy Paddy Hopkirk, Mazda MX-5 และ Subaru BRZ) ส่วนในกลุ่มของรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง แม้ว่า Ford Mustang 2.3 EcoBoost จะมีระดับแรงม้าที่สูงกว่าคันอื่นๆ ด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ พ่วงด้วยระบบอัดอากาศ แต่ด้วยความที่ต้องแบกน้ำหนักมาก รวมถึงการเซ็ตระบบช่วงล่างในสไตล์อเมริกันดั้งเดิม อาจทำให้สมรรถนะ รวมถึงความสนุกในการขับขี่เป็นรองรถในรูปแบบเดียวกันที่มีน้ำหนัก และเซ็ตช่วงล่างมาได้ลงตัวกว่าไปบ้าง

Ford Mustang 2.3 L EcoBoost

 

เปรียบเทียบอัตราเร่งรถในกลุ่มนี้ ที่ #ทีมขับซ่า เคยนำมาทดสอบด้วยเครื่องมือ V Box Sport ได้ผลที่เป็นไปตามคาด สำหรับ Mercedes-AMG GLA35 ที่มีกำลังสูงสุด รวมถึงขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมระบบการออกตัวด้วย Launch Control นี่ถือว่าเป็นรถที่มีจุดอ่อนน้อยมาก จนช่วยให้สามารถทำอัตราเร่งได้อย่างน่าประทับใจ โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใกล้กับสเป็คที่โรงงานเคลมที่ 5.5 วินาที และเป็นคันเดียวที่ตัวเลขควอเตอร์ไมล์แตะระดับ 13.xx วิ. ส่วนรถที่ทำเวลาได้ดีเกินความคาดหมาย แม้ว่าจะไม่ใช้รถที่มีพละกำลังสูง หรือตัวช่วยในการขับเคลื่อนมากมายก็คือ Mazda MX-5 นอกจากจะทำำเวลาได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของการทดสอบแล้ว ยังทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้เหนือกว่าสเป็คที่โรงงานเคลงกว่า 1 วินาที !!!

Mini Cooper S Paddy Paddy Hopkirk

เช่นเดียวกัน…สำหรับรถที่เสียเปรียบเรื่องระบบขับเคลื่อน รวมถึงพละกำลังอย่าง Mini Cooper S Paddy Paddy Hopkirk ถือเป็นอีกหนึ่งคันที่ทำตัวเลขได้อย่างน่าประทับใจ แม้จะออกตัวแรงสู้เพื่อนๆ ในกลุ่มไม่ไหว (ด้วยพื้นฐานของรถที่ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้า) แต่ก็สามารถทำความเร็วเกาะกลุ่มได้อย่างน่าชื่นชม โดยจุดเด่นอีกอย่างของ Mini Cooper S Paddy Paddy Hopkirk ก็คือ การเป็นรถเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ออกแบบมาให้ผู้ขับขี่สามารถเรียนรู้และเลือกใช้รถบบเกียร์ธรรมดาได้ง่ายกว่ารถเกียร์ธรรมดาแบบดั้งเดิม ที่ผู้ขับขี่อาจต้องมีทักษธหรือประสบการณ์มากกว่านักขับทั่วๆ ไป แน่นอนว่า…รถแต่ละรุ่นนั้น มีจุดเด่น – ข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจากข้อมูลด้านล่าง คือ ข้อสรุปที่ #ทีมขับซ่า ได้รวบรวมมาให้ชมแบบเข้าในง่ายๆ สำหรับรถแต่ละรุ่นในงบประมาณ 3 ล้านบาท

เทียบระดับราคา สำหรับรถที่อยู่กึ่งกลางในคลาสนี้ คงหนีไม่พ้น Mazda MX-5 รถที่มีสไตล์และจุดยืนในความเป็นตัวเองที่ชัดเจนมาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรก โดยในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มีให้เลือกนั้น ถูกวางราคาไว้ในระดับเดียวกันที่ 2,905,000  บาท ซึ่งเป็นความต่างเพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกที่จะตัดสินใจเลือกรถที่เป็นความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง ในขณะที่รถที่มีให้เลือกทั้งเกียรธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติเช่นเดียวกันอย่าง Subaru BRZ มีราคาต่างกันเล็กน้อยใน 2 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาอยู่ที่ 2,699,000 บาท และอยู่ในระดับต่ำกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ 150,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้น…ไม่ได้เป็นเพราะระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ EyeSight ที่ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ จะมีเพิ่มเข้ามาให้ด้วย ทำให้มีระดับราคาที่สูงขึ้ตามไปด้วยนั่นเอง

Subaru BRZ

Toyota GR Yaris

รถที่หลายๆ คนบ่นว่า “ราคาสูง” ในตอนแรก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าเซ็ตระดับราคามาได้อย่างน่าสนใจ (การันตีด้วยยอดจองที่หมดในชั่วพริบตา) ก็คือ Toyota GR Yaris ตัวจี๊ดประจำหมู่บ้านที่พกพาจุดเด่นด้วยเสียรภาพการขับขี่ พร้อมกลิ่นอายของการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงรถวิ่งในช่วงยุค 90 ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ ที่รถในสไตล์ HotHatch ผู้นี้ จะมาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่น เพราะนี่ถือเป็นรถในรูปแบบ Homologate ที่สร้างมาเพื่อให้ครบจำนวนเพื่อให้สามารถลงทำการแข่งขัน WRC ตามกฎที่วางไว้ของรถในรูปแบบโปรดักชั่นได้…ก็เท่านั้นเอง แต่หากสำหรับใครที่มองว่า “รถใช้งาน” กับ “รถซิ่ง” ต้องรวมเป็นคันเดียวกันได้ คงจะไม่มีคันไหนที่จะตอบโจทย์ได้มากกว่า Mercedes-AMG GLA35 ที่นอกจากจะตอบโจทย์เรื่องความสบายในการใช้งานแล้ว ยังเป็นรถที่เซ็ตออพชั่น รวมถึงระบบความปลอดภัย และความน่าดึงดูดภายในห้องโดยสารมาได้เหนือกว่าทุกๆ คันในกลุ่มนี้ แบบไม่มีคันไหนทำได้ใกล้เคียงเลยจริงๆ

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy