โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (TDEM) ประกาศความพร้อมเพื่อมุ่งบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้แนวคิด การใช้แหล่งพลังงานที่มีอยู่ภายในประเทศ โดย แนะนำเครื่องจักรผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวมวลที่ได้จากฟาร์มไก่เครื่องแรกของประเทศไทย พร้อมเริ่มดำเนินการผลิตพลังงานได้จริงภายในเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเครื่องผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวมวลดังกล่าว ทำงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ ที่ถือเป็นพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนความมุ่งมั่นของ Toyota ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ผ่านการดำเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดย Toyota ตระหนักดีว่าสิ่งที่สำคัญ คือ การลดการปล่อย CO2 ตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการใช้พลังงาน เพื่อมุ่งบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน
โครงการ เครื่องผลิต Hydrogen จากก๊าซชีวมวล เกิดขึ้นภายใต้การวางแผนร่วมกันกับ Commercial Japan Partnership Technologies (CJPT) ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ปัญหาความท้าทายในภาคการขนส่งยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ ด้วยการใช้เทคโนโลยี CASE (Connected, Autonomous, Shared and Electrified) อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมา…ในเดือน ธันวาคม 2565 ทาง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (TMC) จับมือกับ CJPT และ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ประกาศความร่วมมือ เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเครื่องผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวมวล ที่ได้จากมูลสัตว์ในฟาร์มไก่ของ CP โดยพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตได้จะนำไปใช้กับรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน เพื่อขนส่งระยะไกล ช่วยให้การขนส่งด้วยรถบรรทุกมีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ทั้งนี้…ในระยะแรกของการทดลองพบว่าเครื่องจักรขนาดเล็กที่พัฒนาขึ้น จะสามารถแปรรูปก๊าซชีวภาพเป็นไฮโดรเจนได้ที่ปริมาณ 2 กิโลกรัม/วัน หรือประมาณ 1 ลูกบาศก์เมตรมาตรฐาน/ชั่วโมง
เครื่องผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวมวลที่ติดตั้งอยู่ภายใน บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟค เจอริ่ง ผลิตโดย บริษัท มิตซูบิชิ คาโคกิ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อสนับสนุนให้มีการพึ่งพาตนเองในด้านพลังงานในทุกประเทศที่มีการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ นอกจากนี้ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และโตโยต้า ทูโช จะประสานความร่วมมือกันเพื่อมุ่งผลักดันการพัฒนาระบบนิเวศของไฮโดรเจน ซึ่งรวมไปถึงการก่อสร้าง และการริเริ่มระบบโดยรวมสำหรับการบีบอัด จัดเก็บ และขนส่งก๊าซชีวภาพและไฮโดรเจน ตลอดจนการจัดตั้งระบบปฏิบัติการ