Haval H6 Plug-in Hybrid SUV เผยโฉมครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นที่แรกในโลกในงาน Motor Expo 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น ถือเป็นหนึ่งในรถที่สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย ด้วยการเป็นรถในรูปแบบปลัีกอินไฮบริด หรือ รถไฮบริดเสียบปลั๊ก ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับการเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลที่สุดเท่าที่รถปลั๊กอินไฮบริดในบ้านเรา รวมถึงในโลกเคยมีมา นับว่านี่เป็นรถอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งคนที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีการขับเคลื่อนรอคอย และนี่คือ 5 จุดที่เป็นไฮไลท์ใน Haval H6 Plug-in Hybrid SUV คันนี้
ที่สุดของความจุแบตเตอรี่ขนาด รองรับวิ่ง EV Mode ได้ไกลทะลุ 200 กม.
แน่นอนว่าสิ่งแรกเมื่อคนจะจินตนาการได้ หากพูดถึง Haval H6 Plug-in Hybrid SUV คงหนีไม่พ้น การที่ตัวรถมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาดใหญ่ในระดับ 34 kWh ซึ่งทางค่ายเคลมไว้ว่า สามารถวิ่งด้วย EV Mode ได้ในระดับ 201 กม. ตามมาตรฐาน NEDC Standard แม้ในความเป็นจริง ความเข้มข้นของการวัดอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน NEDC ดูจะยังเป็นรองมาตรฐานอื่นๆ ในปัจจุบัน แต่หากเทียบระยะการเดินทางในระดับ 75% ของระยะทางสูงสุดที่เคลมไว้แล้ว Haval H6 Plug-in Hybrid SUV จะยังสามารถวิ่งด้วย EV Mode ได้ไกลที่สุดราว 150 กม. ซึ่งยังคงเป็นระยะทางการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลที่สุด ณ ปัจจุบัน และสามารถรองรับการใช้งานต่อวัน ทั้งในและนอกเมืองได้อย่างครอบคลุม
ที่สุดของสมรรถนะ กับอัตราเร่งที่เป็น The Best ในกลุ่ม C-Segment SUV
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV คือ เรื่องระดับพละกำลังที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จับคู่กับมอเตอร์ช่วยขับเคลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งมีแรงบิดให้ใช้สูงสุดถึง 530 นิวตัน-เมตร และแรงม้า 326 ตัว ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ DHT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ชุดล้อมาในขนาด 19 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยยางไซส์ 235/55 R19 แม้จะยังไม่มีตัวเลขสมรรถนะที่แต่ชัด แต่จากการที่ #ทีมขับซ่า เคยได้ทดสอบด้วยเครื่องมือ V Box Sport เทียบอัตราเร่งของรถในกลุ่มคอมแพคไฮบริด Haval H6 Hybrid SUV ยังคงเป็นรถที่มีพื้นฐานใกล้เคียง และสามารถทำอัตราเร่งได้ดีที่สุดในคลาส
เทียบอัตราเร่ง C-SUV Hybrid vs. Plug in Hybrid
อัตราเร่ง (วินาที) | Haval H6 Hybrid SUV | MG HS PHEV | Mitsubishi Outlander PHEV |
0-40 กม./ชม. | 2.54 | 3.65 | 3.23 |
0-60 กม./ชม. | 3.89 | 4.77 | 4.85 |
0-80 กม./ชม. | 5.81 | 7.10 | 6.85 |
0-100 กม./ชม. | 8.37 | 9.93 | 9.48 |
0-120 กม./ชม. | 11.38 | 13.22 | 13.22 |
0-140 กม./ชม. | 14.90 | 16.88 | 17.83 |
0-160 กม./ชม. | 24.36 | 21.24 | 23.66 |
60-80 กม./ชม. | 1.91 | 2.33 | 1.98 |
80-120 กม./ชม. | 5.54 | 6.11 | 6.27 |
100-120 กม./ชม. | 2.94 | 3.28 | 3.64 |
ควอเตอร์ไมล์ | 16.10 วิ. @ 144.7 กม./ชม. | 16.83 วิ. @ 141.7 กม./ชม. | 17.18 วิ. @ 136.5 กม./ชม. |
ความเร็วสูงสุด | 176.7 กม./ชม. | 207.7 กม./ชม. | 171.6 กม./ชม. |
ที่สุดของความยืดหยุ่นและง่ายต่อการใช้งาน
ข้อจำกัดหนึ่งของรถที่ใช้แบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่มีขนาดใหญ่ คือ เรื่องระยะเวลาในการชาร์จ ซึ่งโดยปกติแล้ว การชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC Charge) ของรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วๆ ไป ที่ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ไม่เกิน 20 kWh จะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่สำหรับ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ที่มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่านั้นมาก การจะชาร์จแบบปกติจนเต็ม 34 kWh อาจจะต้องใช้ระยะเวลาถึง 6 ชม. เลยทีเดียว แต่ทางค่ายยังถือว่าทำการบ้านมาได้ดี โดยออกแบบตัวรถให้รองรับการชาร์จแบบ Quick Charge ด้วยไฟกระแสตรง (DC Charge) ด้วยหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จไฟ ลดลงมาอย่างน่าสนใจ โดยการชาร์จไฟจาก 0-80% Haval H6 Plug-in Hybrid SUV สามารถทำได้ในระยะเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งหากเฉลี่ยการชาร์จเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง เช่น การแวะพักดื่มกาแฟตามสถานีชาร์จ ก็เชื่อว่าจะสามารถรองรับการเดินทางได้มากกว่า 120 กม. เลยทีเดียว
ที่สุดของความหรูหรา สะดวกสบาย ด้วยพิกัดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในคลาส
เดิมทีแล้ว Haval H6 Hybrid SUV ถือเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคลาส C Segment SUV ซึ่งก็เช่นเดียวกับการกลับมาของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ที่มีการปรับขนาดของตัวถังใหญ่ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 50 มม. และความสูงเพิ่มขึ้น 6 มม. สิ่งที่สำคัญ คือ การมีระยะฐานล้อที่ยาวหว่าคู่แข่งในคลาส ทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง พร้อมเพิ่มความโปร่ง สบาย ด้วยการออกแบบหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่มีขนาดใหญ่ โดยคิดเป็นพื้นที่ถึง 1.2 ตารางเมตร นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจ คือ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ยังมาพร้อมฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นชุดหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึงหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Apple CarPlay, Android Auto, JOOX และ Navigator นอกจากนี้ยังมาพร้อม Wireless Charge รวมถึงระบบปรับอากาศแยกอิสระซ้าย – ขวา พร้อมกรองอากาศ PM2.5 อีกด้วย
มิติตัวถัง C Segment SUV
รุ่น | Haval H6 PHEV SUV | MG HS PHEV | Honda CR-V | Mazda CX-5 | Mitsubishi Outlander PHEV |
กว้าง | 1,886 | 1,879 | 1,855 | 1,840 | 1,800 |
ยาว | 4,683 | 4,574 | 4,610 | 4,550 | 4,695 |
สูง | 1,730 | 1,664 | 1,679 | 1,680 | 1,710 |
ระยะฐานล้อ | 2,738 | 2,720 | 2,662 | 2,670 | 2,670 |
ที่สุดของเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ
อีกหนึ่งในไฮไลท์ที่รถจากค่าย Great Wall Motor ใส่มาให้ในทุกรุ่น คือ ฟังค์ชั่นการเชื่อมต่อพร้อมช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ โดยใช้การสื่อสาร อัพเดทข้อมูลผ่านเฟิร์มแวร์ออนไลน์ (FOTA) เช่นเดียวกับใน Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ที่ยังคงชัดเต็มฟังค์ชั่นในการควบคุม และตรวจสอบสถานะของระบบต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ผ่าน GWM Application นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่ รวมถึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะเดินทางได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ, ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา เป็นต้น