มาเปิดหลังคา.. รับลมหนาวกันเถอะ

มาเปิดหลังคา.. รับลมหนาวกันเถอะ

พร้อม ขั้นตอนดูแลหลังคาเปิดประทุน

อากาศเย็นๆ.. คงไม่มีช่วงไหนที่จะเหมาะกว่านี้อีกแล้ว สำหรับการเอารถเปิดประทุนออกเดินทาง เปิดหลังคารับบรรยากาศในเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งไม่ว่าใคร..หากได้ลองก็จะสัมผัสได้ถึงอีกรูปแบบของการเดินทางที่มากกว่า.. เพียงแค่ไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง และหลังจากท่องเที่ยวสัมผัสอาการหนาวอย่างที่หวังแล้ว ก็ไม่พลาดดูแลรถที่เรารัก ขอแแนะนำ 5 ขั้นตอนดูแลหลังคาเปิดประทุน

ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ต้องมาพร้อมกับการดูแลรักษาที่มากกว่าปกติ หลังใช้งานท่องเที่ยวแบบนี้ กลับมาก็ควรดูแลเป็นพิเศษกันหน่อย ในรถเปิดประทุนที่หลังคาพับเก็บได้ จำแนกออกเป็นแบบ Hard Top ที่ดูแลง่ายเหมือนรถทั่วไปกับแบบ Soft Top ที่เป็นผ้าใบ ซึ่งในส่วนของหลังคาผ้าใบ (Fabric Top) หากดูเผินๆ ก็ผ้าใบเหมือนๆ กัน แต่ความจริงแล้ว มันยังมีแยกย่อย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. แบบ Fabric Top (Canvas , Stay Fast Cloth)

ข้อดี : ดูหรูหรา คลาสสิค ด้วยเส้นใยของเนื้อผ้า และสีสัน

ข้อเสีย : ดูแลรักษายากต้องระมัดระวังที่จอดเลี่ยงจอดกลางแจ้งระวังมูลนกและยางไม้

2. แบบ Vinyl Top (Poly Vinyl Chloride) ดูผิวเผิน คล้ายผ้าใบ Fabric แต่วัสดุเนื้อเป็นพลาสติก

ข้อดี : ดูแลรักษาง่ายกว่า เพราะมันเป็นวัสดุ Plastic สังเคราะห์ชนิดหนึ่ง ทน มูลนกและยางไม้ มากกว่า

ข้อเสีย : ดูหรูหราน้อยกว่า และเมื่อใช้นาน ดูแลไม่ถูกต้อง สีอาจซีด,ด่าง อย่างชัดเจน

ที่ต้องแยกย่อยออกมา ก็เพราะการดูแลรักษาและข้อควรระวัง รวมถึงประเภทน้ำยาจะมีแบบที่เฉพาะแตกต่างกัน หากเทียบรุ่นรถหลังคา Soft Top ต้องบอกกว่า มากกว่า 90% เป็นแบบ Fabric Top ยกตัวอย่าง เช่น Mercedes benz E Class Cabriolet Porsche Cabriolet , Audi TT Cabriolet, Mini Cooper Cabriolet ไปจนถึงระดับ Rolls Royce และ Bentley etc. ซึ่งแบบ Vinyl Top ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถญี่ปุ่น เช่น Mazda MX-5 , Nissan 350Z Roadster และ Honda S2000 เป็นต้น

แม้มองด้วยตาเปล่า Soft Top 2 แบบนี้อาจจะดูคล้ายกันมาก แต่มีวิธีทดสอบง่ายๆ คือ หากเทหยดน้ำลงไปบนหลังคาแล้วใช้นิ้ววนบนหยดน้ำ หากน้ำซึมลงผ้าใบได้ แสดงว่าเป็นแบบ Fabric Top แต่หากเทน้ำ น้ำเป็นหยดกลิ้งเหมือนบนใบบัว โดยใช้นิ้ววนๆ บนหยดน้ำแล้วก็ไม่ซึมแสดงว่าเป็นแบบ Vinyl Top ซึ่งเหมือนผ้าใบยางนั้นเอง

นอกจากน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาเคลือบกันซึมแยกตามประเภทของหลังคาแล้ว อุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องเตรียมคือ

1. ลูกกลิ้งขนาดใหญ่
2. แปรงไนล่อนขนนุ่มๆ (ขนาดประมาณ 5 นิ้ว) หรือ แปรงสีฟันขนนุ่มๆ
3. ฟองน้ำ สำหรับน้ำยาทำความสะอาด
4. ฟองน้ำสำหรับน้ำยาเคลือบ

ขั้นตอนทำความสะอาด

1. เริ่มด้วยขจัดฝุ่นละออง

ขั้นตอนแรกถ้ามีฝุ่นหรือเกสรดอกหญ้าที่ชอบจับติดหลังคาหากฉีกน้ำทันทีจะไม่สามารถชะล้างออกได้ทั้งหมดควรเริ่มด้วยแปรงปัดที่เป็นเส้นผ้าหรือไนล่อนขนนุ่มๆมาปัดฝุ่นมาปัดหรือใช้ลูกกลิ้ง กรณีเป็นเกษรดอกหญ้าเยอะๆ   โดยวางแนวการปัดแบบปัดออกนอกแนวหลังคาทั้ง 2 ฝั่งเป็นทางเดียว หากเจอจุดที่เป็นยางไม้หรือคราบขี้นกไม่ความขัดย้ำหรือใช้เล็บขูดบนเนื้อผ้าใบ เพราะะขึ้นขรุยและสีอาจจะไม่เสมอได้

2.เตรียมลงน้ำยางทำความสะอาด (Vinyl soft top cleaner)

ซึ่งน้ำยาทำความสะอาดจะมี 2 ประเภทคือแบบน้ำที่ใช้วิธีทาให้ทั่วโดยไม่ต้องฉีดน้ำก่อนกับแบบสเปรย์ที่ต้องฉีดน้ำให้ทั่วก่อนฉีดพรมน้ำยาให้ทั่วบริเวณหลังคา ส่วนแบบทา ควรทาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเริ่มจากแนวกึ่งกลางออกมาจนถึงริมนอก แยกเป็น 2 ฝั่งเหมือนช่วงปัดฝุ่น

3.น้ำสะอาด 1 ถัง กับฟองน้ำสำหรับ Cabriolet Care cleaner

ถึงตรงนี้บางคนบอกต้องแยกด้วยหรอ ฟองน้ำเนี่ย !!! ต้องบอกว่า เนื้อฟองน้ำสำคัญในขั้นตอนนี้ เพราะควรเป็นแบบนุ่ม แต่ไม่หลุดลุ่ยเป็นขุยติดหลังคา เมื่อถูบนเนื้อผ้าใบ หากเลือกฟองน้ำ Cabriolet Care โดยเฉพาะ เนื้อฟองข้างในจะกลวงๆ แต่เหนียมแน่น การถู ใช้จุ่มฟองน้ำให้ชุ่มน้ำแล้วถูลงผ้าใบในทิศทางเดียวเหมือนเดิม  ฟองจะออกขึ้นมาจากน้ำยาที่ฉีดพรมไว้ก่อนหน้าแล้วเอง ส่วนบริเวณร่องตะเข็บ แนวต่อ ให้ใช้แปรงไนล่อนขนนุ่มๆ หรือ แปรงสีฟันขนนุ่มๆ ถูแบบผ่านๆ ไม่ต้องเน้น เพื่อถนอมเส้นด้ายครับ ทำแบบเดียวกันทั้ง 2 ฝั่งของหลังคา แล้วล้างออกด้วยน้ำจากสายยางแบบปล่อยไหลผ่าน… ไม่ควรใช้ปั๊มแรงดันสูงกับหลังคาผ้าใบเด็ดขาด

4.ปล่อยแห้ง… เตรียมเคลือบ Water proof protection

ในขั้นตอนนี้ให้ทิ้งประมาณ 10-15 นาที ไม่จำเป็นต้องแห้งสนิท สำหรับน้ำยาเคลือบหลังคาผ้าใบ ก็จะมีทั้งแบบทาและแบบ Spray และควรเลือกใช้ให้ถูกประเภทของเนื้อผ้า เช่นแบบ Fabric จะไม่ส่วนผสมที่ทำให้เงาหรือมันนะ กันแต่เน้นปกป้องรังสี UV กันน้ำเกาะ น้ำซึมและกันฝนกรด ข้อดีของการเลือกใช้น้ำยาแบบทา คือ คุมแนวการทางน้ำยาในทิศทางเดียวกันง่าย สม่ำเสมอ ใช้เทจากขวดใส่ภาชนะและทา ถ้าเหลือก็เทกลับได้ ทำให้ประหยัด  ส่วนรูปแบบ Spray จุดที่ควรระมัดระวังคือ ขอบยางและหลังคาผ้าใบรุ่นเก่าที่แผ่นหลังไม่ได้เป็นกระจกแต่เป็นแผ่นพลาสติก หากโดนสเปรย์น้ำยาเคลือบ อาจจะขุ่นมัวเป็นฝ้าได้ ซึ่งน้ำยาทั้ง 2 แบบ หากหยดหรือกระเด็นโดนกระจกหรือสีรถ ควรเช็คออกทันที ไม่ควรทิ้งไว้ หากแห้งจะเช็ดออกยากมาก

สำหรับหลังคาแบบ Vinyl Soft Top อันนี้ต้องใช้ฝีมือหน่อย เพราะน้ำยาที่ตรงๆ โดยเฉพาะนั้นหาค่อนข้างยาก สามารถเคลือบได้ด้วยวิธีเดียวกัน ถ้าทำแล้ว ทาหรือพ่นไม่เสมอกันจริงๆ ผลงานออกมาจะ ดำเข้มบ้าง จางบ้าง ไม่เสมออย่างชัดเจน เพราะน้ำงานเคลือบกลุ่มนี้จะมีเสริมเรื่องของความเงางามด้วย เพราะฉะนั้นถึงให้เตรียมฟองสำหรับลูบกระจายน้ำยาให้ทั่ว สม่ำเสมอแยกเฉพาะอีกครั้ง

5.รอแห้งก่อนพับเก็บ

หลังผ่านทุกขั้นตอนนมาแล้วก่อนน้ำเข้าโรงจอดรถหรือคุมผ้าควรจอดในที่ร่มอากาศถ่ายเทไม่เกิน 30 นาที ก็แห้ง ถ้าจะพับเก็บเพื่อครอบหลังคาแข็ง (ในรถบางรุ่น ควรครอบเมื่อมั้นใจว่าแห้งสนิทแล้วเท่านั้น) เพียงแค่นี้.. รถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบคันโปรด ก็จะคงสภาพ สีเข้มสด อยู่กับคุณไปอีกนาน..