หลังจากมีข่าวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่ค่าย Volvo จะเปิดตัว EV SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ในชื่อ Volvo EX30 ซึ่งถือเป็นน้องเล็กสเป็คจัดเต็ม รองรับกลุ่มลุกค้ายุคใหม่ที่สามารถเข้าถึงรถในสไตล์ พรีเมี่ยม EV ได้ง่าย ด้วยการวางระดับราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย Volvo EX30 เป็นรถ EV รุ่นที่ 4 ของแบรนด์ Volvo ต่อจากรุ่นพี่แฦดต่างฝาอย่าง Volvo XC40 และ C40 รวมถึงรถอเนกประสงค์รุ่นเรือธงในตระกูล EX90
Volvo EX30 เปิดตัวที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เช่นเดียวกับที่ Lexus เปิดตัว Lexus LBX ครอสโอเวอร์ไซส์เล็กไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยชื่อของ EX เป็นเสมือนรหัสใหม่ของแบรนด์ ที่เป็นตัวบ่งบอกว่า รถรุ่นนั้น…พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นรถ EV เต็มรูปแบบเท่านั้น เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง EX90 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา (ไม่มีรุ่นที่ใช้ขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริดเหมือนกับรถใมนตระกูล XC) โดยกลิ่นอายในภาพรวม คล้ายกับเป็นการเอารุ่นพี่ Volvo EX90 มาย่อส่วนให้มีขนาดที่กะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงเสริมความโดดเด่นของเส้นสายให้ตัวรถดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ดีไซน์ของชุดไฟหน้าของ Volvo EX30 ยังคงเอกลักษณ์ด้วยเส้น Thor Hammer ในสไตล์ดิจิตัลที่แบ่งเป็นช่องหลายๆ ส่วน เช่นเดียวกับดีไซน์ของชุดไฟท้าย LED อันเป็นลักษณะที่เชื่อมโยงไปยังภายในห้องโดยสารอีกด้วย
Volvo EX30 มาพร้อม มิติตัวถัง
ความกว้าง x ความยาว x ความสูง อยู่ที่ 1,837 x 4,233 x 1,555 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งใกล้เคียงกับรถในกลุ่ม B-Segment SUV นอกจากนี้จุดเด่นในความเป็น Volvo EX30 คือ การปรับแต่พื้นฐานโครงสร้าง เพื่อให้ตัวรถมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด แม้ว่ามิติตัวรถโดยรวมจะมีขนาดที่กะทัดรัด อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะด้วยการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงให้อยู่ในตำแหน่งต่ำ และกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง ได้อย่างเหมาะสม โดยน้ำหนักรวมของตัวรถอยู่ที่ 1,830 กก. นอกจากนี้ยังมีรุ่นตกแต่งในทริมพิเศษ Cross Country (รับจองตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป) ที่จะมีการเพิ่มระยะต่ำสุดจากพื้นให้สูงขึ้น เพิ่มแผ่นกันกระแทก, ขอบทริมสีดำที่ด้านหน้า กันชน และฝาท้าย รวมถึงยังสามารถเลือกล้ออัลลอยขนาด 18-19 นิ้ว เป็นออพชั่นได้ตามต้องการ
ห้องโดยสารของ Volvo EX30
ยังคงออกแบบภายใต้แนวคิดอนุรักษณ์นิยมสแกนดิเนเวียนสไตล์ ซึ่งให้อารมณ์มินิมอลอย่างไม่รู้สึกขัดเขิน เช่นเดียวกับแนวทางในการพัฒนา Volvo รุ่นอื่นๆ โดยสิ่งที่ถูกใส่เข้าไป คงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีสุดล้ำที่ออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงคนโดยสารภายในรถ โดยบริเวณแดชบอร์ดจะมีเพียงหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับชุดซาวน์บาร์จาก Harman/Kardon ที่ซ่อนอยู่หลังกระจกบังลมหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับรถในรูปแบบนี้ นอกจากนี้ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่ Volvo ร่วมมือพัฒนาซอฟท์แวร์กับแบรนด์พันธมิตรระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Google, Apple รวมถึง Qualcomm เพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบออกมาในระดับสูงสุด โดยซอฟท์แวร์ทั้งหมด สามารถอัพได้อย่างต่อเนื่องผ่านโครงข่าย Over The Air
นอกจากระบบความบันเทิง รวมถึงอินเตอร์เฟสการใช้งานที่พร้อมรองรับสำหรับผู้บริโภคหลากหลายรูปแบบแล้ว Volvo EX30 ยังจัดเต็มออพชั่นอำนวยความสะดวกรวมถึงระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น กุญแจ Digital Key ที่สามารถทำงานได้ร่วมกับสมาร์ทโฟนที่มีแทบจะทุกรุ่น ณ ปัจจุบัน โดยสามารถใช้งานผ่านหลายแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ เพื่อให้การใช้งานทำได้อย่างสะดวกมากขึ้น เช่น การชาร์จ, การระบุตำแหน่ง, การล็อกและปลดล็อกประตู รวมไปถึงการสั่งงานระบบปรับอากาศก่อนที่จะเข้าสู่ภายในรถ นอกจากนี้ Volvo EX30 ยังรองรับระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Park Pilot Assist เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งรองรับการเข้าจอดได้ทุกรูปแบบ ณ ปัจจุบัน
สำหรับตลาดอเมริกา Volvo EX30 เปิดตัวมาใน 2 รุ่นย่อย
โดยรุ่นแรกมาในชื่อ Single Motor Extended Range มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 268 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 343 นิวตัน-เมตร จับคู่แบตเตอรี่ลิเธียม NMC ความจุ 64 kWh รองรับการเดินทางต่อชาร์จ 442 กม. ส่วนอีกรุ่นในชื่อ Twin Motor Performance มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive กำลังรวมอยู่ที่ 422 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 543 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ใน 3.4 วินาที ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดเท่าที่รถแบรนด์ Volvo เคยทำได้ โดยหากเทียบพละกำลังที่เหนือกว่า ในความจุแบตเตอรี่เท่ากัน คาดว่า Volvo EX30 ในรุ่น Twin Motor Performance จะรองรับการเดินทางต่อชาร์จที่ 426 กม. ส่วนในตลาดยุโรป รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ Volvo จะทำตลาดด้วยรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP 49 kWh ซึ่งรองรับการเดินทาง 321 กม. ต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP โดยอีกหนึ่งจุดเด่นของ Volvo EX30 คือ การเป็นรถไซส์เล็กที่รองรับการชาร์จด้วยไฟ DC สูงถึง 150 kW ชาร์จจาก 10-80% ใน 27 นาที (สำหรับแบตฯ NMC) และ 134 kW (สำหรับแบตฯ LFP) ที่ชาร์จจาก 10-80% ได้ใน 26 นาที
ข้อความที่ทางค่าย Volvo ต้องการสื่อไว้ว่า EX30 เป็นรถที่มีราคาย่อมเยาที่สุดของค่าย ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงแต่อย่างได โดยราคาในยุโรปอยู่ที่ 36,000 ยูโร (ประมาณ 1.33 ล้านบาท) ซึ่ง Volvo มองแล้วว่า ในระดับราคาดังกล่าว สามารถเทียบกับรถในพิกัดเดียวกันที่ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปได้แบบสบายๆ