Home » เปิดประสบการณ์เสียว ! ครั้งแรกและครั้งเดียวใจกลางกรุงฮานอย…ถ้าคุณกล้า #ทีมขับซ่า ขอท้าให้ลอง !!!

เปิดประสบการณ์เสียว ! ครั้งแรกและครั้งเดียวใจกลางกรุงฮานอย…ถ้าคุณกล้า #ทีมขับซ่า ขอท้าให้ลอง !!!

by Admin clubza.tv
Vespa Factory Tour

หลังจากเจอวิกฤติการ Covid 19 เล่นงาน ทำเอา “คนชอบเดินทาง” อย่าง Mr.Pajingo ผู้มีคาแร็กเตอร์ แห่ง #ทีมขับซ่า ห่างหายวงการสายการบินอินเตอร์ไปถึง 2-3 ปี (จริงๆ คือ 3 ปีเต็ม เพราะครั้งล่าสุดที่เดินทาง คือ Tokyo Auto Salon ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2020) นานจนลืมไปแล้วว่า Passport ใช้งานอย่างไร 555 (ดูเหมือนจะเวอร์ แต่เปิดหน้าแรกมาเจออีกที อ้าว…หมดอายุไปเสียแล้ว ! ที่ทำมาเมื่อ 5 ปีก่อน ยังได้ใช้งานไม่คุ้ม 1,000 บาท เลย) นี่ถือเป็นครั้งแรก ที่ Mr.Pajingo ได้รับโอกาสอันดีจาก #บอสมิส ให้ไปเบิกเนตรในโลกกว้าง ด้วยการเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิ้นส่วนและประกอบสกู๊ตเตอร์ในเครือ Piaggio Group ซึ่งประกอบไปด้วย Vespa, Piaggio, Aprillia และ Moto Guzzi ในกิจกรรม Vespa Factory Tour

การเดินที่ด้วยเครื่องบินครั้งแรก…สู่ประเทศเวียดนาม

หลังจากที่ทราบกำหนดเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ บวกกับแพลนในการเดินทางที่ค่อนข้างกระชั้นชิด Mr.Pajingo ก็ดิ่งตรงไปยังสถานที่ทำ Passport แบบ Walk In (เลือกใช้วิธีนี้ เพราะหากการจองคิวในเว็บไซท์ อย่างเร็วที่สุด คือ จะทำได้ในวันต่อไป ซึ่งมีผลต่อระยะเวลาการส่งเอกสารสำหรับการเดินทางครั้งนี้) ข้อเสียของการเดินดิ่งตรงเข้าไปทำตอนนั้น เดี๋ยวนั้น คือ หากมีคิวรอทำอยู่เยอะ อาจต้องใช้เวลารอจนเกือบนั่งหลับอยู่หน้าเคาท์เตอร์ (แนะนำถ้าจะ Walk In ต้องไปในช่วงเวลาเช้าที่คนยังไม่เยอะ) แต่หลังจากถึงคิว ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มทำจนถึงชำระเงิน เพียงไม่เกิน 10 นาที (ถ้าไม่มัวแต่ถ่ายรูปหลายแอค) ซึ่งถือว่าขั้นตอนกระชับมากๆ โดยที่ที่ Mr.Pajingo ไปทำนั้น ไม่เปิดให้มารับ Passport ด้วยตัวเอง (ส่งทาง EMS เท่านั้น) ผ่านไป 2 วัน หลังจากที่ไปทำ ตัวเล่มก็ถูกส่งมาถึงหน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย เรียกว่าสะดวก และรวดเร็วมากๆ ทีเดียว…ทำให้ผ่านขั้นตอนในการเตรียมและส่งเอกสารไปแบบสบายๆ

หมอกหนา พร้อมฝนพรำตลอดการเดินทาง อากาศกำลังสบาย +-20 องศาเซลเซียส

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ…แม้ว่า Mr.Pajingo จะเคยเดินทางไปประเทศเวียดนามมาแล้ว 4-5 ครั้ง แต่ในทุกครั้งของเดินทางเข้าไปยังประเทศเวียดนามในครั้งก่อนๆ เป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ผ่านทางชายแดนทั้ง น่าน (ห้วยโก๋น), เชียงราย (เชียงของ), นครพนม (ท่าอุเทน) และ สระแก้ว (อรัญประเทศ) นี่จึงเป็นครั้งแรกของการนั่งเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานโหน่ยบ่าย (Noi Bai International Airport) กรุงฮานอย เมืองหลวของประเทศเวียดนาม โดยตัวสนามบินนั้น อยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ซึ่งเมื่อรวมกับระยะเวลาในการบินอีกประมาณ 2 ชั่วโมง จะใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง เดินทางกันแบบสบายๆ ไม่เหนื่อยล้ามาก สิ่งที่เป็นความน่าสนใจในการมาท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม นอกจากเวลาในการเดินทางที่ค่อนข้างสั้นแล้ว เวลาในประเทศของที่นี่ ยังเท่ากับเวลาในประเทศไทย, ระบบไฟฟ้าใช้เต้าเสียบและปลั๊กไฟแบบเดียวกับบ้านเรา, ของกินของใช้ ค่าที่พัก ราคาไม่สูง รวมถึงไม่ต้องเตรียมเอกสารวีซ่าให้ยุ่งยาก สิ่งที่คำคัญ คือ การเช็คเรื่องสภาพอากาศ เนื่องด้วยเวียดนามเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านพื้นที่ (ฮานอย หรือฝั่งเหนือ กับโฮจิมิน ที่เป็นฝั่งใต้ สภาพอากาศต่างกันแบบสุดขั้ว) ซึ่งตลอด 3 วัน ของการเดินทางในครั้งนี้ มีฝนโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ชนิดที่ว่า ไม่มีโอกาสได้เจอสภาพเส้นทางที่แห้ง นอกจากใต้อาคารของสนามบินเลยจริงๆ

ไม่ง่าย…ที่จะได้เห็นการรวมตัวของชาว Vespa ในจำนวนที่เยอะขนาดนี้

ทั้งรุ่น Classic และรุ่นปัจจุบัน ผสานอารมณ์และสไตลืได้อย่างลงตัว

ในขณะที่นั่งรถบัสที่ทาง Vespa จัดเตรียมไว้เพื่อเดินทางไปร่วมทำกิจกรรมแรก สิ่งที่สังเกตได้ระหว่าง 2 ข้างทาง คือ สภาพการจราจรที่ค่อนข้างคับคั่ง โดยเฉพาะในเมือง ที่เรียกได้ว่าแออัด และมีเสียงแตรให้ระคายโสตประสาทตลอดการเดินทาง ถือเป็นเรื่องปกติของการใช้รถใช้ถนนที่นี่ โดยการใช้แตร เป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการใช้รถใช้ถนน เพื่อขอทาง หรือเตือนให้เพื่อร่วมทางระวัง ซึ่งช่วยลดโอกาสในการปะทะได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่ารถจะมาก (โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์) จนอยู่ในระดับที่ถนนแทบจะไม่พอวิ่งในบางพื้นที่ Mr.Pajingo นั่งรถเสพบรรยากาศต่างบ้านต่างเมืองมาเพลินๆ แบบที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจุดหมายของการเดินทางจะอยู่ตรงจุดไหน พลันเหลือบไปเห็นฝูง Vespa ทุกยุค ทักสมัย จอดเรียงรายกันอยู่ร่วม 50 คัน ความตื่นเต้นเริ่มปริ่มขึ้นมาแบบทะลุปรอท และค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า จุดมุ่งหมายของเรา อยู่ตรงนี้แน่ๆ…แล้วก็ใช่จริงๆ

ช่วงเวลา 17.00 น. กับสภาพถนนที่เปียกลื่น เป็นอะไรที่…ลุ้นกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า Mr.Pajingo เคยทั้งการขับรถยนต์รวมถึงขี่มอเตอร์ไซค์มาเยือนประเทศเวียดนามมาก่อน ทำให้พอจะรู้ Culture การใช้รถใช้ถนนของประชาชนที่นี่ในระดับที่เข้าใจได้ โดยเฉพาะในฮานอยซึ่งเป็นเมืองหลวง เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่พลุกพล่านอันดับต้นๆ (พลุกพล่านขนาดไหน…คุณภาคภูมิ หรือพี่ปลิ้นของเรานั้นรู้ดีมาก) ยิ่งช่วงเวลาเลิกงานระหว่าง 16.00-18.00 น. บอกได้เลยว่า ถ้าไม่จำเป็น คือ อย่าออกไปไหนเลยจริงๆ แต่สำหรับวันนี้… เราจำเป็นต้องออก !!! เพราะกิจกรรมแรกที่ทาง Vespa ประเทศไทย เตรียมไว้ต้อนรับในทันทีที่มาถึงกรุงฮานอยก็คือ การสัมผัสชีวิตเมืองในรูปแบบที่เรียกว่า Vespa City Tour ซึ่งเป็นการซ้อนสกู๊ตเตอร์ Vespa ในสภาพการจราจรจริง ร่วมกับเจ้าถิ่น เพื่อเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็คพอยท์สำคัญๆ ในกรุงฮานอย (นักท่องเที่ยวทั่วไป…สามารถใช้บริการท่องเที่ยวเชิงเสียวๆ ลุ้นๆ Vespa City Tour ได้เช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณคนละ 2,900 บาท ต่อ 4 ชั่วโมง) รถเกือบๆ 50 คัน ที่นำมาให้นั่ง เป็นการผสมผสานของ Vespa ในแต่ละช่วงอายุ ตั้งแต่รุ่นคลาสสิค เครื่องยนต์ 2 จังหวะ คลัทช์มือ เกียร์มือบิด ที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุค 80-90 จนถึงรุ่นปัจจุบัน ซึ่งยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์ ความชัดเจนในตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี

แม้มีเรื่องเสียวใจให้ได้ลุ้นตลออดทาง แต่ก็…สัมผัสได้ถึงความปลอดภัย ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด

ในเมื่อมีชอยส์มาให้เลือกแบบนี้แล้ว มีหรือที่ Mr.Pajingo จะทิ้งโอกาสที่จะได้ลองอะไรในสไตล์ Old School สักหน่อย ไหนๆ จะไปเสียว เอ้ยยย…ไปเที่ยว กันทั้งทีแล้ว มันต้องเข้าถึงอารมณ์กันแบบสุดๆ หน่อยสิ งานนี้ Mr.Pajingo จึงรีบโดดขึ้นเบาะหนังที่มาพร้อมพนักพิงของ Vespa PX150 คันงามอย่างไว ทันทีที่เครื่องยนต์ของเหล่า Vespa ทั้ง 50 คัน เริ่มสตาร์ท เสียงใสๆ พร้อมกลิ่นโชยของน้ำมัน Auto Lube จากเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ก็เริ่มสำแดงเดช (อาจไม่หอมหวานเหมือน Shell Advance กระป๋องดำในตำนาน แต่ก็…ได้อารมณ์สไตล์ 90 ทีเดียว) ในช่วงที่เราเริ่มเดินทางนั้น เวลาก็ปาเข้าไป 17.00 น. ซึ่งเป็นเหมือนช่วง Peak Time ที่การจราจรเริ่มสะสม แออัดจนได้ที่ เราเดินทางกันแบบเข่าเบียดเข่า ไหล่เบียดไหล่ ผู้ขับขี่หลายๆ คัน ขี่กันไป คุยกันไปแบบออกรสชาติ พร้อมส่งเสียงแตรเพื่อเตือนรถคันด้านข้าง ที่สอดแทรก ตัดเลนเข้ามาหาเป็นระยะ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติวิถีชีวิตของคนที่นี่ (ถ้าไม่คุ้นเคย อาจจะรู้สึกว่า เฮ้ย…พวกเอ็งช่วยโฟกัสกับเส้นทาง หรือจอดคุยกันก่อนไหม ?) ด้วยรถที่วิ่งเข้าหาเป็นระยะ ลักษณะต๋อนยอนในการขับขี่ รวมถึงสภาพผิวถนนที่เปียกลื่นจากสายฝน และฝุ่นดินตามสไตล์สภาพเส้นทางในเวียดนาม ทำให้ Mr.Pajingo รู้สึกทั้งลุ้น ทั้งเสียว กลัวจะเกี่ยวเพื่อนลงข้างไปนอนอยู่ริมฟุตบาทจริงๆ

ชักภาพเบาๆ ที่ Hanoi Opera House

ทะเลสาปคืนดาบ แหล่งพักผ่อนที่ได้รับควานิยมของชาวฮานิย

แต่จนแล้วจนรอด…ความตื่นเต้น ปนหวาดระแวง จากประสบการณ์เสียวเหล่านั้น เป็นเพียงประสบการณ์แปลกใหม่ให้ Mr.Pajingo ได้สัมผัส เราเดินทางถึงจุดหมายแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองฮานอยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับในการขับขี่ยานพาหนะของชาวเวียดนามก็คือ ความใจเย็น ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีน้ำใจให้กัน อาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง (จากประสบการณ์ที่เคยพบเห็น…ซึ่งไม่ได้เกิด หรือใกล้เคียงกับการจะเกิดสำหรับการเดินทางอันน่าประทับใจครั้งนี้) แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ถือว่าเป็นความเสียหายที่รุนแรง (แบบว่า…มอเตอร์ไวค์เฉี่ยวกัน แต่ไม่มีใครล้ม หรือได้รับอันตราย) คุยกัน ขอโทษขอโพยแล้วต่างคนต่างแยกย้าย ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันและโมเม้นท์น่ารักๆ บนท้องถนน ที่เราอาจไม่มีโอกาสได้พบเห็นกันมากนัก หรืออาจเป็นสิ่งแวดล้อที่หาไม่ได้จากที่ไหนๆ ในโลกก็ว่าได้

มื้อค่ำแบบสบายๆ ที่ Casa Italia ร้านอาหารอิตาเลียนชิคๆ กลางกรุงฮานอย

หลังจากที่ซ้อน Vespa PX150 สัมผัสบรรยากาศในกรุงฮานอยกันอย่างเต็มอิ่ม (แต่ท้องนั้น…หิวแล้วแน่ๆ 555) ทาง Vespa ประเทศไทย เตรียมมื้อเย็นไว้ต้อนรับได้แบบเข้าธีม ด้วยการพาไปเยือนร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ในชื่อ Casa Italia ซึ่งในทันทีที่ Mr.Pajingo เดินเข้าสู่พื้นที่ของร้าน สิ่งที่สัมผัสได้ คือ กลิ่นอายความเป็น Piaggio Town ด้วยมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ในเครือ Piaggio Group ที่เรียงรายต้อนรับครอบคลุมในทุกพื้นที่ (ทราบในภายหลังว่า ที่นี่เป็น Dealer จำหน่ายรถในเครือ Piaggio Group) โดยเฉพาะแบรนด์ Vespa ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในประเทศเวียดนาม ปิดท้ายวันแรกของการเดินทางไปแบบครบทุกรสชาติ ก่อนที่จะได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตและประกอบ Vespa ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเซีย พร้อมทดลองขี่สกู๊ตเตอร์ทั้ง 3 แบรนด์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Piaggio Group ในวันถัดไป…รอติดตามชมใน Part II ครับ


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy