สำหรับคนเล่นกระบะ หากมองในยุคนี้ สายแรงส่วนใหญ่คงมุ่งเป้าไปที่การโมดิฟายเครื่องยนต์ดีเซลบล็อคเดิมที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน เนื่องจากเครื่องยนตืดีเซลในยุคคอมมอนเรล ถือว่ามีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ใส่กล่องเข้าไปใบนึงก็วิ่งได้สนุก สะใจ ต่างกับในยุคปั๊มสาย ที่กว่าจะแรงต้องใส่นู่น ยัดนี่ เข้าไปให้เต็มห้องเครื่องไปหมด นั่นเองจึงเป็นสาเหตุในห้คนเล่นกระบะในยุคนั้น นิยมทีจะนำเครื่องยนต์เบ็นซินรุ่นต่างๆ ทั้ง 4 สูบ และ 6 สูบ มาประจำการแทน ซึ่งหากพอจะจำได้ ในช่วงยุค 90 นั้น เทรนด์ของปิคอัพว่า 1G หรือ 7M เป็นเทรนด์ที่ฟีเวอรืและเท่มากสำหรับนักเล่นยุคนั้น ก่อนที่วิวัฒนาการของเครื่องยนต์จะเปลี่ยนไปจนเข้าสู่ยุคของ 1 -2 JZ และ SR20 จนกระทั่งในปัจจุบัน เราไม่ค่อยจะได้เห็นกระบะยุคใหม่ วางเครื่องยนต์เบ็นวินแทนเครื่องบล็อคเดิมกันแล้ว
Toyota Hilux VIGO หัวเดี่ยว หน้าตาบ้านๆ แบบนี้…ใครจะคิดว่า “โหดจัด”
ไม่สุดตรงไหน…เอาปากกามาวง !!!
ด้วยความที่แอดมินพอจะเกิดทัน “กระบะซิ่ง” ในยุคนั้น เลยรู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ เมื่อได้เห็น Toyota Hilux VIGO หัวเดี่ยว คันนี้ ซึ่งถูกโมดิฟายจากสำนัก FatBoy Fab Works จากแอฟริกาใต้ โดยการวางเครื่องข้ามสายพันธุ์ ซึ่งการวางข้ามพันธ์ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ 4 หรือ 6 สูบ ที่เราคุ้นเคย แต่สำนัก FatBoy Fab Works เล่นแรงด้วยการจับเอาขุมพลัง 1GZ-FE แบบ V12 พิกัด 5.0 ลิตร จาก Toyota Century ซึ่งเป็นรถ Big Size Sedan มายัดลงไป โดยเครื่องยนต์บล็อค 1GZ-FE ผลิตและเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 1997 ก่อนจะเลิกผลิตในปี 2017
Toyota Supra V12 ของแรงในตำนานจากสำนัก Top Secret
แน่นอนว่า…นักเล่นหลายๆ คน อาจไม่คุ้นเคยกับชื่อของเครื่องยนต์บล็อคนี้มากนัก แต่หากย้อนไปเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว เคยมีสำนักแต่งชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นนามว่า Top Secret โดย Mr. Smoky Nakata เคยปั้น Toyota Supra ยัดขุมพลัง V12 เติมเทอร์โบ โมดิฟายให้มีกำลังระดับกว่า 900 แรงม้า และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 358 กม./ชม. จนเป็นที่กล่าวขานมาแล้วทั่วโลก
กลับมาที่ Toyota Hilux VIGO หัวเดี่ยว วางเครื่อง 1GZ-FE ของสำนัก FatBoy Fab Works คันนี้ สร้างเพื่อนำไปวาดลวดลายในการแข่งขัน Simola Hillclimb โดยทางสำนักยกเครื่องดีเซล 3.0 ลิตร ออก แล้ววางเครื่อง V12 พิกัด 5.0 ลิตร ลงไปแทนที่ พร้อมด้วยการโมดิฟายแบบ “ขับเดิมๆ ยอมเดินดีกว่า” เริ่มตั้งแต่การพ่วงชุดเทอร์โบคู่ Garrett GT35 ที่เป็นแบบ Ball Bearing เพื่อยกระดับพละกำลังให้สูงขึ้น จากเดิมที่มีเพียง 280 แรงม้า แต่ ณ ปัจจุบัน ทำกำลังสูงขึ้นในระดับ 540 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ขยับขึ้นไปอีกเกือบเท่าตัว จาก 481 นิวตัน-เมตร เป็น 970 นิวตัน-เมตร โดยระบบส่งกำลังยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ที่เดิมๆ ออกแบบมาเหลือๆ ให้สามารถรองรับกำลังมหาศาลได้แบบไม่ถอดใจไปก่อน พร้อมสร้างจุดเชื่อมต่อชุดเพลาใหม่ ซึ่งแว่วมาว่า ในเร็วๆ นี้ ทางสำนัก FatBoy Fab Works มีแพลนจะขยับชุดส่งกำลัง เพื่อให้ทนต่อแรงบิดที่สูงขึ้นได้อีกระดับ
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก FatBoy Fab Works
