เชื่อว่า ณ เวลานี้ หลายๆ คนคงพอจะทราบรายละเอียดของ HotHatch รุ่นล่าสดของโลกอย่าง Toyota GR Corolla กันไปพอสมควรแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า อันที่จริงแล้ว Toyota GR Corolla ที่ออกมานั้น ไมม่ได้มีการเปิดตัวเพียงแค่รุ่นเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะนอกจากในรุ่นมาตรฐาน งานนี้ทาง Toyota ยังแอบทำรุ่นที่เรียกว่า Toyota GR Corolla Circuit Edition ออกมา ซึ่งหากมองให้ลึกในรายละเอียดของรถรุ่นนี้ จะพบความแตกต่างกับรุ่นมาตรฐานอยู่หลายองประกอบเลยทีเดียว
เริ่มตั้งแต่ในส่วนของภายนอกที่ Toyota GR Corolla Circuit Edition (ตัวรถที่เทา) มาพร้อมช่องระบายลมบริเวณฝากระโปรงหน้า, แผ่นหลังคาแบบคาร์บอน, หางหลังขนาดใหญ่ รวมถึงชุดดิฟเฟอเรนเชียลแบบ Torsen ที่ติดเพิ่มมาเป็น 2 ชุด ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ เป็นของที่ไม่มีใน Toyota GR Corolla Circuit Edition รุ่นมาตรฐาน แต่ก็ใช้ว่าในรุ่นพิเศษ จะมีอุปกรณ์รวมถึงออพชั่นที่เหนือกว่าไปเสียทั้งหมด โดยสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงไปก็คือ หน้าปัดเรือนไมล์ จากในรุ่นมาตรฐานที่เป็นชุดหน้าจอสี TFT แต่สำหรับ Toyota GR Corolla Circuit Edition มาพร้อมเรือนไมล์แบบอนาล็อก ที่มาตรวัดแสดงความเร็วสูงสุดไว้ที่ 160 ไมล์/ชม. หรือ 258 กม./ชม. ขนาบข้างกับมาตรวัดรอบที่แสดง Redline ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่วนที่ด้านขวาของเรือนไมล์ เป็นหน้าจอเล็กๆ เพื่อบ่งบอกค่าที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ จากที่ในรุ่นมาตรฐานมาในขนาด 8 นิ้ว แบบสัมผัส ในรุ่น Circuit Edition มาพร้อมหน้าจอแบบดั้งเดิม
สาเหตุที่ Toyota GR Corolla Circuit Edition เซ็ตอุปกรณ์ออพชั่นมาในรูปแบบนี้ อธิบายเหตุผลได้ไม่ยาก เพราะชื่อของ Circuit Edition บ่งบอกความหมายในตัวเองอยู่แล้ว นั่นจึงแสดงถึงความ “ไม่เน้น” ในเรื่องของสีสันและอุปกรณ์ความบันเทิง เพื่อที่ตัวรถจะถูกพัมนาให้สามารถเป็นรถที่ใช้ลงทำการแข่งขันในอนาคต ซึ่งอุปกรณ์ความบันเทิง รวมถึงบรรดาคอสเมติกต่างๆ เช่น เรือนไมล์แบบจอสี คงไม่ใช่ของจำเป็นอีกต่อไป เพราะเชื่อว่าเมื่อผ่านมือของทีมแข่งแล้ว รถเหล่านี้จะถูกติดตั้งชุดหน้าจอที่สามารถแสดงค่าการทำงานต่างๆ ที่มีความละเอียดมากขึ้นเข้าไปนั่นเอง
ส่วนใน Toyota GR Corolla รุ่นมาตรฐาน (คันสีแดง) ที่เรียกว่า Core Model นั้น จะยังมาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเม้นท์ นำโดยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เช่นเดียวกับรุ่นที่ทำตลาดอยู่ ณ ปัจจุบัน จุดที่หลายคนให้ความสนใจของ Toyota GR Corolla รุ่นนี้ก็คือ แม้จะไม่ใช่รถที่มาในรูปแบบไฮบริด หรือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (รวมถึงทาง Toyota คงไม่มีแพลนที่จะทำ Corolla EV ในเร็วๆ นี้) แต่กลับมาพร้อมปุ่ม EV Mode โดยคำตอบทีทางทีมก็คือ นี่ยังเป็นแค่รถที่ทำมาโชว์เท่านั้น องประกอบทุกอย่างยังไม่อยู่ในขั้น Final ดังนั้นอุปกรณ์บางอย่างที่แตกต่างออกไป รอชมตัวจริงตอนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ…จะดีกว่า
Toyota GR Corolla ทั้ง 2 รูปแบบ
มาพร้อมขุมพลังบล็อค G16E-GTS แบบ 3 สูบ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ที่สร้างขึ้นโดยแผนก Gazoo Racing ของ Toyota เช่นเดียวกับที่ประจำการอยู่ใน Toyota GR Yaris โดยมีการอัพพละกำลังให้มากขึ้นเป็น 300 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 370 นิวตัน-เมตร จับคู่กับชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ GR-Four ที่สามารถปรับระดับการกระจายกำลังสู่ล้อหน้า – หลัง ได้ถึง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Normal (60 : 40), Sport (30 : 70) และ Track (50 : 50) ซึ่งอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ของ Toyota GR Corolla อยู่ที่ 5.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม./ชม.
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก CarScoop