เป็นอีกหนึ่งคู่ฟัดที่กำลังได้รับการกล่าวขานกันอย่างเข้มข้น ด้วยความที่เปิดตัวมาในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลียงได้ยาก สำหรับการนำ Toyota GR Corolla และคู่ปรับอย่าง Honda Civic Type R มาเปรียบเชิงกันแบบหมัดต่อหมัด แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่นี้ ถือว่ามีจุดเด่นและสไตล์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน โดย Honda Civic Type R เป็นรถสมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้า แต่สำหรับ Toyota GR Corolla มาพร้อมความหลากหลายและยืดหยุ่นที่มากกว่า โดยเป็นรถในรูปแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และสามารถปรับการกระจายกำลังขับเคลื่อนไปสู่ล้อคู่หลังได้มากถึง 70%
Toyota GR Corolla เปิดราคาเริ่มต้นที่ $35,900
นอกจากเลย์เอาท์การส่งกำลังที่ต่างกันแล้ว อีกจุดถึงที่ถูกนำมาเป็นประเด็นในการพิจารณาก็คือ ระดับราคาของ Toyota GR Corolla ที่ใ้ให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ $35,900 (ประมาณ 1.320 ล้านบาท) ในรุ่น Core Edition จนถึง $49,900 (ประมาณ 1.83 ล้านบสาท) สำหรับรุ่น Morizo Edition โดยในรุ่นเริ่มต้น หรือ Core Edition ถือว่าเป็นรุ่นเดียวของ Toyota GR Corolla ที่มาพร้อมแพคเกจชุดแต่ง Performance Pack ที่ราคา $1,180 หรือประมาณ 43,500 บาท (เหมือนกับที่ Honda Civic Type R เพิ่งประกาศราคาชุดแต่งไปเมื่อเร็วๆ นี้) เพื่อให้ผู้ครอบครองได้เลือกเติมของเพื่อที่จะอัพเกรดสมรรถนะ
Toyota GR Corolla Morizo Edition
สเปคมาตรฐานของ Toyota GR Corolla รุ่น Core Edition คือ
มาพร้อมพละกำลังในระดับ 300 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 372 นิวตัน-เมตร สิ่งที่จะได้เพิ่มเข้ามาใน Performance Pack เริ่มตั้งแต่ชุดเฟืองท้ายลิมิเต็ตสลิปแบบ Torsen ที่ล้อหน้าและหลัง, จานเบรกหน้าแบบเจาะรูและเซาะร่องขนาด 355 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 4 POT รวมถึงคาลิเปอร์หลัง 2 POT นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่ซื้อรุ่น Core Edition ยังสามารถเลือกเติม Technology Package ที่ราคา $770 (ประมาณ 28,500 บาท) อันประกอบไปด้วย Wireless Charge เครื่องเสียง JBL และระบบนำทาง นอกจากนี้หากยอมจ่ายเพิ่มอีก $500 (ประมาณ 18,500 บาท) ใน Weather Package จะได้ชุดเบาะ พร้อมพวงมาลัยแบบมีระบบอุ่นมือ โดย Toyota GR Corolla รุ่น Core Edition มาพร้อม 3 สี ให้เลือก คือ Ice Cap, Black และสี Supersonic Red (บวกเพิ่ม $425 หรืแประมาณ 15,600 บาท) ราคารวม Add On ทั้งหมดของ Toyota GR Corolla รุ่น Core Edition อยู่ที่ $2,875 หรือราวๆ 150,800 บาท (รวมราคารถ + ทุกแพคเกจ เท่ากับ $38,775 หรือประมาณ 1.426 ล้านบาท) โดยจะเริ่มจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นรุ่นแรก และคาดว่าจำนวนการจำหน่ายจะอยู่ที่ 5,000 คัน
สำหรับรุ่นต่อมา คือ Toyota GR Corolla รุ่น Circuit Edition เปิดราคามาที่ $42,900 (ประมาณ 1.578 ล้านบาท) ในองประกอบพื้นฐานนั้นคล้ายๆ กับรุ่น Core Edition ที่เพิ่มแพคเกจตกแต่งเข้าไปทั้งหมด โดยสิ่งที่จะได้เพิ่มขึ่นมาก็คือ ช่องระบายลมบนฝากระโปรงหน้า, แผ่นหลังคาที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์, สปอยเลอร์ท้าย, เบาะหนังสังเคราะห์ที่มีความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชุดหัวเกียร์หุ้มหนัง ซึ่งเมื่อรวมแล้ว ทั้งคู่มีส่วนต่างอยู่ราว $4,125 หรือประมาณ 1.52 แสนบาท โดย Toyota GR Corolla รุ่น Circuit Edition จะเริ่มลงโชว์รูมในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 จำนวนการจำน่ายคาดว่าอยู่ที่ 1,500 คัน
ที่สุดของความปรารถนาสำหรับสาวก Toyota GR Corolla คงหนีไม่พ้นรุ่น Morizo Edition ที่เป็นเสมือนเวอร์ชั่น “พร้อมแข่ง” ด้วยสมรรถนะและเครื่องเครียงแบบจัดเต็ม แม้จะมีระดับแรงม้าเท่ากับ 2 รุ่น ที่เกริ่นมาในตอนแรก Toyota GR Corolla Morizo Edition แต่กลับมีแรงบิดที่เพิ่มขึ้นเป็น 399 นิวตัน-เมตร พร้อมกับการลดน้ำหนักตัวรถให้เบาลง โดยการรื้อชุดเบาะหลัง พร้อมรัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ซึ่งเป็นยางสเป็คพร้อมแข่ง ทั้งหมดทั้งมวลสามารถลดน้ำหนักลงไปได้กว่า 48 กก. และมีจำกัดจำนวนการทำตลาดที่ 200 คัน เท่านั้น ในราคา $49,900 (ประมาณ 1.83 ล้านบสาท) โดย Toyota GR Corolla Morizo Edition พร้อมทำตลาดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 เช่นเดียวกับรุ่น Circuit Edition
Toyota GR Corolla ถูกวางระดับราคาเพิ่มจาก Toyota GR Yaris ($33,350 หรือ 1.226 ล้านบาท) ไปอีก $2,550 หรือราว 94,000 บาท น่าเสียดายที่คู่แข่งโดยตรงอย่าง Honda Civic Type R เจนเนอเรชั่นปัจจุบันนั้น ยังไม่มีการเผยราคาออกมา โดยคาดว่าจะอยู่ที่ราว $40,000 หรือ 1.47 ล้านบาท (อาจต้องคิดใหม่…เมื่อ Toyota GR Corolla เปิดราคาเริ่มต้นได้ต่ำกว่ามาก) ซึ่งหากเทียบกับราคาเดิมของ Honda Civic Type R รุ่นก่อนที่ $38,910 (ประมาณ 1.43 ล้านบาท) คงต้องยอมรับเลยว่า Toyota GR Corolla ถือว่าทำราคาออกมาได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ
