Home รถใหม่ Tank 300 Diesel ประกอบไทย พร้อมลุยโหดกว่าเดิม เทียบสเปคพร้อมราคาที่เปิดแล้วในออสเตรเลีย

Tank 300 Diesel ประกอบไทย พร้อมลุยโหดกว่าเดิม เทียบสเปคพร้อมราคาที่เปิดแล้วในออสเตรเลีย

by Admin clubza.tv

Tank 300 ขุมพลังดีเซล เป็นรถที่ถูกพูดถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อย นี่อาจเป็นการแก้เกมของค่าย GWM ที่ก่อนหน้านี้ เคยหมายมั่งปั้นมือว่าจะปังกับรถอเนกประสงค์จอมลุยอย่าง GWM Tank 300 HEV แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งความมั่นใจในการวางระดับราคา รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองของขุมพลังในรูปแบบเบ็นซินไฮบริด ที่อยู่ในระดับดุเดือดจนเกินจะเข้าใจ แม้ว่าจะมีเรื่องของสมรรถนะและโหมดการขับขี่ที่เป็นจุดเด่นมาให้ประกอบการตัดสินใจ แต่อย่างไรแล้ว…นั่นอาจยังไม่พอที่จะสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้ใช้ชาวไทย

GWM Tank 300 Diesel เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยในออสเตรเลีย ส่วนบ้านเรา…รอลุ้นปลายเดือนมีนาคมนี้

อาจจะด้วยเหตุผลเหล่านั้นเอง ทำให้ GWM วางแพลนที่จะแก้เกมด้วยการทำตลาดในรูปแบบที่ผู้ใช้ชาวไทยเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายอย่าง GWM Tank 300 Diesel ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่ มีระบบที่ไม่ซับซ้อน สามารถดูแลรักษาได้แบบไม่รู้สึกกังวลจนเกินไปนัก ซึ่งก่อนที่จะเปิดตัวที่ประเทศไทยในช่วงไม่กี่อึดใจนี้ ทางค่าย GWM เริ่มทำตลาดรถอเนกประสงค์รุ่นนี้ในประเทสออสเตรเลีย ที่มีลักษะ รวมถึงความต้องการในการใช้งานที่ไม่ค่อยแตกต่างจากบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อย โดย GWM Tank 300 Diesel ที่เปิดตัวไปแบบสดๆ ร้อนๆ ในดินแดนออสซี่นั้น นับว่ามีจุดต่างกับสเป็คขุมพลังเบ้นวินไฮบริดที่ทำตลาดอยู่ในบ้านเราพอสมควร งานนี้ #ทีมขับซ่า จะพาไปไล่ดูทีละจุดว่า เมื่อปรับมาเป็นขุมพลังดีเซลแล้ว GWM Tank 300 คันนี้ จะมีจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นมาในจุดไหนบ้าง

ขุมพลังดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า พร้อมแรงบิด 480 นิวตัน-เมตร

เซ็ตเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด จับคู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Part Time

จุดแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของ GWM Tank 300 Diesel

แน่นอนว่าคงหนีไม่พนขุมพลัง จากเดิมที่มาในรูปแบบเบ็นซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ พ่วงด้วยระบบไฮบริด ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ถูกปรับมาเป็บเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พิกัด 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 480 นิวตัน-เมตร แม้จะเป็นระดับสมรรถนะที่ไม่ได้โดดเด่น เมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม PPV ที่ทำตลาดในบ้านเรา ณ ปัจจุบัน แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ โดยแน่นอนว่า ขุมพลังบล็อคนี้ ยังคงมาพร้อมระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ที่พัฒนาภายในโรงงานของ GMW เอง จับคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part Time ซึ่งสามารถเลือกใช้งานทั้งในรูปแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ ในโหมดต่างๆ ได้ตามต้องการ

ด้วยการปรับรูปแบบของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ GWM Tank 300 Diesel มีประสิทธิภาพในการลากจูงที่สูงมากขึ้น โดยจากเดิมในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด รองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 2.5 ตัน แต่สำหรับในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร สามารถลากน้ำหนักเพิ่มได้อีก 500 กก. รวม 3.0 ตัน นอกจากนี้…ผลจากการปรับรูปแบบของเครื่องยนต์ ส่งให้ GWM Tank 300 Diesel สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้เพิ่มมากขึ้น จากเดิม 346 กก. เพิ่มขึ้นเป็น 600 กก. ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนด้านการขับขี่ มีการปรับเซ็ตช่วงล่างที่จากเดิมนั้น GWM Tank 300 HEV  เมื่อเหยียบเบรกอย่างรุนแรง จะรู้สึกถึงอาการหน้ายุบ – ท้ายยก ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคบคุมรถโดยตรง มาในครั้งนี้มีการปรับจูนช่วงล่าง รวมถึงระบบการกระจายน้ำหนักเบรกหน้า – หลัง ให้มีความสมดุลย์มากขึ้น

GWM Tank 300 Diesel ทำตลาดในประเทศออสเตรเลียด้วย 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Lux และรุ่น Ultra (เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์เบ็นซิน และรุ่นไฮบริด) โดยออพชั่นที่เด่นๆ ที่มองเห็นจากภายนอก ในรุ่น Lux ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น ประกอบไปด้วย ไฟหน้าแบบ LED, หลังคาซันรูฟ รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนภายในมากับเบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์พร้อมฟังค์ชั่นปรับไฟฟ้า, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ และหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมือถือด้วยฟังค์ชั่น Smartphone Mirroring ทำงานร่วมกับลำโพงรอบคัน 9 ตำแหน่ง ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา, Adaptive Cruise Control และเฟืองท้าย Diff Lock นอกจากนี้…หากเทียบกับรุ่น Lux เครื่องยนต์เบ็นซินเดิม GWM Tank 300 Diesel ยังมีออพชั่นที่เพิ่มขึ้นมาดังนี้ ระบบช่วยเตือนสภาพการจราจรทางด้านหน้า พร้อมช่วยเบรก, เมมโมรี่สำหรับเบาะนั่งและกระจกมองข้าง, ฟังค์ชั่นเชื่อมต่อ Apple Carplay แบบไร้สาย, หน้าจอทางด้านหลัง, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้า 6 และหลัง 6 ตำแหน่ง

สำหรับ GWM Tank 300 Diesel ในรุ่น Ultra เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยการปรับขนาดของล้ออัลลอยเป็น 18 นิ้ว, เปลี่ยนวัสดุหุ้มหนังเป็น Nappa โดยเบาะคู่หน้ามาพร้อมฟังค์ชั่นระบายความร้อน ปรับอุณหภูมิ และฟังค์ชั่นนวดสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากนี้…ระบบเครื่องเสียงยังได้รับการอัพเกรดให้เป็น Premium Sound พร้อมปรับแต่งภายในห้องโดยสารด้วยแอมเบียนไลท์ 64 สี, เพิ่มกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ รวมถึงมีไวร์เลสชาร์จมาให้

สำหรับระดับราคาของ GWM Tank 300 Diesel ที่ทำตลาดในประเทศออสเตรเลีย เริ่มต้นที่ 47,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือหากคำนวณเป็นเงินไทย คือ ประมาณ 1.01 ล้านบาท สำหรับรุ่น Lux (และ 51,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1.10 ล้านบาท สำหรับรุ่น Ultra) ซึ่งเป็นระดับราคาเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์เบ็นซิน (สำหรับรุ่นไฮบริด เริ่มต้นที่ 55,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.81 ล้านบาท และ 60,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.28 ล้านบาท สำหรับรุ่นท็อป) โดยแม้ว่ารุ่นดีเซลและรุ่นเบ็นซินในประเทศออสเตรเลีย จะวางราคาในระดับเดียวกัน แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ถือว่าเยอะกว่ามาก นั่นทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง GWM Tank 300 Diesel ในระดับราคาที่มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ส่วนรุ่นที่จะทำตลาดในประเทศไทย คงต้องรอลุ้นออพชั่น รวมถึงระดับราคา ที่เชื่อว่ามีแนวโน้มจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในเร็วๆ นี้


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม