ความซุกซนทางสติปัญญาของ “ปล้อน” ทำให้เขาใช้เวลาที่เหลือจากการเข้าครัว ขัดหม้อ มารื้อค้น สืบไล่ความเป็นมาของรถตระกูล SUV ด้านวิวัฒนาการในแง่ดีไซน์ ฟังค์ชั่นการใช้งาน เทคโนโลยีที่วงการใส่ให้มันมาตลอดเวลาประมาณร้อยปีที่มีพวกมันเกิดขึ้นบนโลก นำมาถ่ายทอดให้พวกเราทราบ
อย่าง SUV นี่ ปล้อนพบว่าผู้ผลิตเขาได้ผสมผสานฟังค์ชั่นรถซีดาน ใช้งานครอบครัว เข้าไปกับรถกระบะที่เดิมเคยเน้นใช้งานบรรทุก ทนทาน ใต้ท้องสูงลุยไปตามสภาพทางทุรกันดารพอได้ มีการผนวกเข้ากับรถจำพวกจี๊ปที่ขับสี่ลุยโหดขึ้นไปมากกว่านั้น ยำออกมอย่างสวยงามทันสมัย ใช้งานเอนกประสงค์ เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับเพราะรถจำพวกนี้มันสูง สามารถมองไปข้างหน้าได้ไกลกว่ารถซีดาน กะระยะ เปลี่ยนเลน หลบหลีกเหตุการณ์ สถานะการณ์ได้ดีกว่า
ยุคแห่งการดีไซน์ รูปลักษณ์ คุณลักษณ์ SUV
1920-1950 “กล่องสองใบ” SUV รุ่นแรกยุค 1920 ติดแนวรถม้าชัดเจน คือเอากล่องสองใบมาต่อเรียงกัน ใบเล็กอยู่ด้านหน้าเป็นห้องเครื่อง อีกใบใหญ่กว่าหน่อยเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้เป็นห้องโดยสารและบรรทุกสัมภาระ ดูหนังตลกโบราณชาลี แชปปลิ้นทีไรปล้อนจะเห็นรถพวกนี้ …
1950-1960 “กล่องสามใบ” ปรับมาเป็นทรงสามกล่องยุค 1950 จากด้านหน้าขนาดกล่องจะใหญ่ขึ้นตามลำดับ เป็นห้องเครื่อง ห้องโดยสาร ห้องเก็บสัมภาระ
1960-1990 “ทัวริ่ง สเตชั่นแวกอน” เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง เอาใจผู้ใช้มากกว่าข้าวของ ตัวรถเตี้ยลง กว้างขึ้น ยาวขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย เครื่องยนต์ทันสมัยมากขึ้น มีการแชร์เครื่องยนต์นำมาจากรถซีดาน ส่วนช่วงล่างนั้นมักจะแชร์มาจากรถกระบะเช่นกัน ปรับลดความแข็งกระด้างลง รูปทรงแช่อยู่แบบนี้ค่อนข้างนาน ตลาดใหญ่ของ SUV ช่วงนั้นอยู่แถวอเมริกาเหนือ รถอเมริกันครองตลาดอยู่ พวก CHEVROLET K5 Blazer, DODGE Ramcharger, FORD Bronco พวกขับสี่ก็มีกับเขาเหมือนกันคือ AMC Eagle และมีรถญี่ปุ่นอย่าง SUBARU Station Wagon ตัวขับสี่เข้าไปเจาะตลาดเป็นรายแรกๆ
1990-2010 “กลับมากล่องสองใบ unibody” แนวดีไซน์ย้อนกลับไปเป็บแบบสองกล่อง เช่น JEEP Cherokee XJ, FORD Explorer รูปลักษณ์นี้ทอดยาวมาประมาณปี 2010 เน้นไลฟ์สไตล์ ความสวยงามภายนอกและอินโฟเทนเม้นท์ ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์สื่อสาร/บันเทิง เน้นความนิ่มนวลในการเดินทาง ปรับโครงสร้างช่วงล่างมาใช้กึ่งอิสระ/อิสระมากขึ้น แฟลทฟอร์มมีทั้งแปลงจากรถกระบะที่เป็น Body-On-Frame มาเป็นแบบรถเก๋งทั่วไป (Unibody) ที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว อย่าง JEEP Grand Cherokee ค่ายญี่ปุ่นที่ต้องการเล่นตลาดส่วนนี้ถ้าไม่มีแพลทฟอร์มรถกระบะมาให้แชร์ก็มักจะหาทางออกโดยแชร์กับรถเก๋งที่ตัวเองมีอยู่ผลิตออกมา ยกตัวอย่าง HONDA CR-V ที่แชร์กับ HONDA Civic หรือแม้จะมีแพลทฟอร์มกระบะอยู่แล้วแต่ต้องการผลิต SUV ที่เน้นชาวเมือง แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ อย่าง TOYOTA RAV4 ก็ยังนำแพลทฟอร์มจาก TOYOTA Corolla มาแชร์ นี่คือการลงมาเล่นตลาดมินิแวน/Sub SUV ประมาณยุค 1990 และถือเป็นรากฐานของรถลุยน้อย นั่งสบาย โฉบฉาย ขนาดกระทัดรัด กลายเป็นเซกเม้นท์ใหม่ Crossover วิ่งลุยงานเด็กๆพอได้ …
2010-2020 “Hatch-Design” ค่ายรถหรู/รถสปอร์ตต่างก็ลงมาเล่นตลาดนี้ เกิดตลาดใหม่ Luxury SUV “Hatch Design” มีค่ายรถหรูอย่าง PORSCHE Cayenne, Macan เข้ามาเล่น ฉีกแนวจากออกแบบโดยคงไว้ซึ่งความสปอร์ตที่หรูเฉี่ยว แรง เร็ว แต่พอจะลุยได้ แนวดีไซน์จึงออกมาเป็นแฮทช์แบ็คผสม SUV เห็นชัดเจนในมุมมองด้านท้ายรถ ยกตัวอย่าง BMW X2
การที่ PORSCHE ประสบความสำเร็จในตลาด Luxury SUV เท่ากับเป็นการ “เรียกแขก” ให้มาลงกินส่วนแบ่งตลาดส่วนนี้ เรียงมาเลยทั้งROLLS-ROYCE, BENTLEY, FERRARI , LAMBORGHINI, ASTON MARTIN DBX, AUDI e-Tron, ALFA ROMEO Stelvio , BRABUS GLK Class, JAGUAR E-Pace/F-Pace/ I-Pace และ LEXUS GX
สำหรับ e-SUV และรถตระกูลนี้ที่ “เข้าตา” ปล้อนจะนำมาลงต่อในคราวหน้านะคร๊าบ ดูรูป “ไอ้หน้าแหลมแวน” รถในฝันของปล้อนไปก่อนนะคร๊าบ…….