Home » ฟันธง SUV B-Segment ชั่วโมงนี้…จิ้มคันไหน โดนใจที่สุด ? เน้นคุุ้มค่า เน้นสมรรถนะ เน้นออพชั่นเยอะ หรือไม่เน้นอะไรเลย !

ฟันธง SUV B-Segment ชั่วโมงนี้…จิ้มคันไหน โดนใจที่สุด ? เน้นคุุ้มค่า เน้นสมรรถนะ เน้นออพชั่นเยอะ หรือไม่เน้นอะไรเลย !

by Admin clubza.tv

เป็นหนึ่งในคสาสรถยนต์ในประเทศไทย ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ดุเดือดที่สุด สำหรับรถในกลุ่ม SUV B-Segment โดยเฉพาะในช่วงโมงนี้ ที่แบรนด์ชั้นนำต่างทะยอยเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ตลาดเดิมอย่าง Honda HR-V e:HEV ที่มาพร้อมเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมีการปรับในส่วนของรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องขุมกำลังที่รองรับความเป็นรถยุคใหม่ที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมียน้องใหม่จากจ่าย Great Wall Motor อย่าง Haval Jolion Hybrid SUV ที่งานนี้มาแบบออพชั่นแน่นๆ พร้อมกับค่าตัวที่เปิดมาแบบ “อ้ปากค้า” รุ่นท็อปไม่ข้าม 1 ล้านบาท เราลองมาไล่ดูกันดีกว่าว่า หากจะต้องเลือกซื้อรถสักคันในกลุ่ม SUV B-Segment ควรจะเลือกคันไหน ที่มีคุณสมบัติที่ถูกใจเรามากที่สุด  ?

Haval Jolion Hybrid SUV น้องใหม่ กับค่าตัวที่ชนะใจคนทั้งประเทศ

ชัดเจนแบบไร้ข้อโต้แย้ง หากพูดถึงเรื่องมิติตัวถัง ซึ่งส่งผลต่อความสบายภายในห้องโดยสาร เป็นทาง Haval Jolion Hybrid SUV ที่เล่นใหญ่แบบไม่ไว้หน้าเพื่อน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นที่ตามมาเป็นออันดับ 2 ถึง 45 มม. และยาวกว่ารถที่มีระยะฐานล้อสั้นที่สุดในคลาสถึง 115 มม. โดย Honda HR-V e:HEV ที่เพิ่งเปิดตัวมาทีหลัง มาในระยะฐานล้อที่เทียบเท่ากับ HR-V เจนเนอเรชั่นก่อน นั่นจึงทำให้ระยะฐานล้อที่ได้มา ยังห่างกับน้องใหม่ค่าย GWM อยู่ถึง 90 มม. ดังนั้น…หากวัดกันด้วยหัวข้อความใหญ่ และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ดูจะเป็นทางฝั่ง Haval Jolion Hybrid SUV และ Mazda CX-30 ที่ได้เปรียบเพื่อนร่วมคลาสอยู่เล็กๆ

เบอร์ 1 เรื่องสมรรถนะ คันนี้…ไม่ผิดหวัง

 

อย่าให้แรงม้ามาหลอกเราได้ คำคมจากหนังฮ่องกงยุค 90 ยังคงเป็นข้อเตือนใจที่นำมาใช้ได้ในทุกยุคสมัย ซึ่งหากดูจากตัวเลขในตาราง แม้ว่า Haval Jolion Hybrid SUV จะมีตัวเลขแรงม้าและแรงบิดที่เหนือกว่าทุกๆ รุ่นในคลาส แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อนำมาวิ่งทดสอบ กลับไม่ได้มีสมรรถนะที่เหนือกว่า Honda HR-V e:HEV เท่าใดนัก โดยถือว่าตีคู่กันมาอย่างสูสี ก่อนที่ฝ่ายหลังจะเอาชนะไปได้เล็กน้อยในย่านความเร็วปลาย โดยรถที่มีสมรรถนะที่โดดเด่นจริงๆ สำหรับคอมแพคครอสโอเวอร์ SUV B-Segment กลับเป็นของ Nissan Kicks e-Power ที่ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้อยู่ภายใน 9.x วินาที ทุกครั้งที่ทดสอบ ตามมาด้วย Mazda CX-30 ที่ยังคงความ Old School ด้วยระบบพาวเวอร์เทรนแบบเครื่องยนต์สันดาปล้วนๆ ไม่ได้มีมอเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนค่ายอื่นๆ (เช่นเดียวกับ MG ZS) โดยสิ่งที่แตกต่างกันมาก ระหว่าง Nissan Kicks e-Power และ Mazda CX-30 คงหนีไม่พ้นเรื่องอัตราสิ้นเปลือง สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป ซึ่งฝ่ายแรกที่ขับเคลื่อนโดยใช้ Base On แบบ Series Hybrid การขับขี่เดินทางทั่วๆ ไป อัตราสิ้นเปลืองป้วนเปี้ยนอยู่ที่ราว 21-23 กม./ลิตร เช่นเดียวกับ 2 น้องใหม่ และ Toyota Corolla Cross ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเช่นกัน

เทียบอัตราเร่งระหว่าง HR-V และ Jolion รวมถึงรถที่ขับเคลื่อนด้วย Power Train ในรูปแบบเดียวกัน

Honda City e:HEV ประหยัดได้เท่าไหน ฝั่ง HR-V ก็ทำได้ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ว่ากันด้วยเรื่องออพชั่น ความเชื่อที่หลายๆ คนรูสึก คงคิดว่าน่าจะเป็นทางฝั่ง Haval Jolion Hybrid SUV ที่ดูจะได้เปรยบค่ายอื่นๆ แบบชัดเจน แต่หากเทียบกันจริงๆ แล้ว จะพบว่าในรายละเอียดหลายๆ ด้าน ยังอาจจะเป็นรองคู่แข่งที่วางระดับของตัวเองเพื่อให้เป็นหัวแถวของคลาส โดยเฉพาะในด้านราคา ทั้ง Toyota Corolla Cross และ Mazda CX-30 ซึ่งก็ไม่แปลกที่รถในระดับราคานี้ ควรจะต้อง “ยัดของ” เข้ามาเพื่อดึงดูกดกลุ่มลูกค้า แต่หากวัดกันบนพื้นฐานความคุ้มค่าที่แท้จริง สปอตไลท์ในหัวข้อนี้ กลับพุ่งเป้าไปที่ MG ZS ที่แม้จะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องขุมพลัง หรือระบบความปลอดภัยยุคใหม่ แต่กลับให้ออพชั่นที่พร้อมรองรับการใช้งานมาแบบไม่มีกั๊ก ในระดับราคาที่ไม่ข้าม 8 แสนบาท

หรูหรา ให้เยอะ แลกมาด้วยค่าตัวในระดับสูงที่สุดในคลาส

วัดกันที่หัวข้อความปลอดภัยในกลุ่มรถ SUV B-Segment หลายรุ่นที่เกิดมาในยุค 2021 ล้วนต้องมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น หากไม่นับ 2 แบรนด์ในระดับราคาสูงสุด ทั้ง Toyota Corolla Cross และ Mazda CX-30 ที่ควรจะต้องให้มาแบบครบๆ ค่ายที่ดูจะให้เยอะ และให้ของที่ค่ายอื่นๆ ไม่มี เช่น ระบบช่วยถอยจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบ คงต้องยกให้กับ Haval Jolion Hybrid SUV ส่วนของทางฝั่ง Honda HR-V e:HEV แม้จะมีระบบ Honda Sensing มาให้ แต่รายละเอียดที่ควรมีอื่นๆ ยังหายไปพอสมควร เช่น Blind Spot Monitor รวมถึงกล้องรอบคัน 360 องศา ซึ่งต่างกับทางฝั่ง Nissan Kicks e-Power ที่ดูจะไม่มีหรือเน้นอะไร นอกจากเรื่องของสมรรถนะ แต่กลับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ซ่อนระบบความปลอดภัยไว้ไม่น้อย เช่น ชุดกล้องมองรอบทิศทางที่มาพร้อมระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว รวมถึงยังเป็นรุ่นเดียวในรถคลาสนี้ ที่มาพร้อมกระจกมองหลังอัจฉริยะ ซึ่งจะใช้การแสดงผลจากชุดกล้อง แทนการสะท้อนด้วยกระจกแบบที่เราคุ้นเคย รวมถึงยังมีระบบ One Pedal ที่ช่วยให้การควบคุมความเร็วและการหยุดรถทำได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย

ที่สุดของความคุ้มค่า คงต้องยกให้ MG ZS

สุดท้าย…แม้ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ ปัจจัยหนึ่งที่ผู้ใช้มักนำมาประกอบการตัดสินใจในการแลือกซื้อก็คือ “ระดับราคา” โดยในรถคลาส SUV B-Segment ชัดเจนว่า รถที่มีระดับราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุดอย่าง MG ZS ดูจะมีกลุ่มลูกค้าของตัวเองอย่างชัดเจน เพราะมีส่วนต่างราคาจากรุ่นที่แพงที่สุดในคลาสถึง 4 แสนบาท ดูแล้วน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่เน้นเรื่องของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนมากนัก แต่หากเน้นการใช้งานที่ฟังค์ชั่นครบ วางออพชั่นได้อย่างน่าสนใจ โดยที่เพิ่มเงินจากรถซีดานในระดับ B Segment ไม่มาก เช่นเดียวกับในฝั่ง Haval Jolion Hybrid SUV ที่เป็นเสมือนทางเลือกใหม่ของคนที่กล้าเปิดใจ ให้มาก จ่ายน้อย เทคโนโลยีจัดเต็มเบอร์ต้นๆ ของคลาส ในราคาที่ไม่ข้ามล้าน ส่วนทางฝั่ง Honda HR-V e:HEV การกลับมาในครั้งนี้ ถือว่างานดีมาตรฐาน ความน่าชื่นชม คือ การมาพร้อมระบบขับเคลื่อน e:HEV และระบบความปลอดภัย Honda Sensing ในทุกรุ่นย่อย พร้อมทั้งใจถึงพอที่จะเปิดราคาแบบ “มีช่องว่าง” ระหว่างตัวท็อปคู่แข่ง แต่ที่น่าเสียดายคือ ออพชั่นความปลอดภัยบางอย่าง ยังไม่ได้ใส่มาให้ ทำให้ขาดความน่าสนใจไปพอสมควร ด้านพระเอกในเงามืดอย่าง Nissan Kicks e-Power แม้จะเป็นรถที่ออกแบบและเซ็ตระบบขับเคลื่อน รวมถึงช่วงล่างมาได้น่าสนใจที่สุดในคลาส แต่ด้วยการสื่อสารกับผู้บริโภคที่ยังขาดความเข้าใจ ทำให้ไม่สามารถทำยอดขายได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น แต่หากใครที่เข้าใน จะสามารถสัมผัสได้เลยว่า Nissan Kicks e-Power นั้น มีความไม่ธรรมดาที่น่าสัมผัสซ่อนอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ระดับราคาลดลงมาเหลือเพียง 9 แสนบาท +- ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าไม่น้อย

ความชั่วไม่มี ความดีไม่เด่นชัด สำหรับ Toyota Corolla Cross

แม้ว่าหลายอย่างจะดูขาดๆ ไป แต่ความน่าใช้ยังคงอยู่กับ Honda HR-V e:HEV เสมอ

ในท้านยที่สุด การจะเลือกซื้อรถสักคัญ สิ่งที่ไม่ควรพลาด คือ การได้ทดลองขับ ทดลองใช้ฟังค์ชั่นต่างๆ เพื่อให้ทราบในรายละเอียดว่าตัวเรานั้น เหมาะกับสิ่งที่มีมาให้มากน้อยเพียงใด บางคันมีเยอะแต่ไม่สามารถใช้งานได้จริงทั้งหมด ในทางตรงข้าม บางคันให้น้อยแต่กลับใช้ได้แบบครบๆ ซึ่งหลังจากการที่ได้ทดลอง ก็น่าจะพอได้คำตอบและเห็นภาพคร่าวๆ บ้าง…แน่นอนว่า ของแบบนี้ ไม่มีใครสามารถตอบหรือบอกแทน ได้ดีเท่าตัวคุณแน่นอนครับ

 

 

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy