Tank 300 หนึ่งในรถอเนกประสงค์น้องใหม่ที่เตรียมทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รูปแบบของตัวรถโดยรวม หากมองเผินๆ จะให้ความรู้สึกในแบบฉบับความเป็น C-Segment SUV แต่หากพิจารณาในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ขนาดมิติตัวถัง ระยะฐานล้อ รวมถึงพื้นฐานโครงสร้างที่มาในรูปแบบ Body on Frame (ตัวถังวางบนแชสซีส์) ดูแล้วจะอออกไปทาง PPV เสียมากกว่า ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จึงนำข้อมูล รายละเอียดของ Tank 300 มาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพ พร้อมฟันธงราคาว่า เมื่อนำเข้ามาจำหน่ายในประเทLไทยแล้ว ระดับราคา-v’ Tank 300…ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ?
Tank 300
เทียบมิติตัวถัง Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย
สิ่งที่แตกต่างชัดเจน เมื่อนำ Tank 300 มาเปรียบเทียบกับรถ PPV ทั่วไป ที่ทำตลาดอยู่ในบ้านเรา ณ ปัจจุบัน คือ พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งทั้งหมดมาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง แต่สำหรับ Tank 300 มาในรูปแบบ 5 ที่นั่ง ระยะฐานล้อที่ 2,750 มม. อาจดูสั้น เมื่อเทียบกับคันอื่นๆ แต่หากวัดกันด้วยการไม่ต้องแบ่งพื้นที่สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นั่นจึงทำให้ตัวรถ ดูมีความแออัดภายในห้องโดยสารน้อยกว่า Toyota Fortuner ที่มีระยะฐานล้อเท่ากันพอดี สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ การเซ็ตระดับต่ำสุดจากพื้นที่ตัวเลขเกาะกลุ่มกับรุ่นอื่นๆ นั่นจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า Tank 300 เป็นรถที่พร้อมลุยได้จริง และจะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น เมื่อได้รู้ว่า…ตัวรถมีมุมเข้าหา และมุมจากที่มากถึง 33 และ 34 องศา ตามลำดับ
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย
รถทุกคันในกลุ่มนี้ ใช้เครื่องดีเซลอันเป็นเครื่องยนต์ที่ผู้ใช้ชาวไทยยุคใหม่คุ้นเคยทั้งหมด แต่สำหรับ Tank 300 ที่ยังผสานกลิ่นอาายความเป็น SUV แท้ๆ อยู่บ้าง มาพร้อมเครื่องยนต์ในรูปแบบเบ็นซิน เทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร (กำลังเครื่องยนต์ 245 แรงม้า 380 นิวตัน-เมตร) ทำงานเป็นหลักควบคู่กับชุดมอเตอร์ (106 แรงม้า 268 นิวตัน-เมตร) ที่คอยเสริมกำลังในการขับเคลื่อน กำลังรวมตามสเป็คระบุไว้ที่ 304 แรงม้า กับแรงบิด 640 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All-terrain control system ซึ่งจะกระจายกำลังขับเคลื่อนไปในแต่ละล้ออย่างเหมาะสม โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานระบบ Diff Lock ได้ทั้งที่ล้อคู่หน้า และล้อคู่หลัง หากเทียบความทันสมัยของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแล้ว คงต้องยอมรับว่า Tank 300 อยู่ในระดับต้นๆ เมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม จะมีที่ใกล้เคียงก็คือ Ford Everest และ Mitsubishi Pajero Sport ที่ออกแบบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4 II มาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบดั้งเดิม
ออพชั่น Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย
อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย
รถจากค่าย GWM นั้น ขึ้นชื่อเรื่องออพชั่นที่ให้มาแบบแน่นๆ ทั้งภายนอกและภายในอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Tank 300 จะจัดเต็มมาให้เช่นเดียวกัน โดยความแตกต่างที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ ก็คือ หลังคาซันรูฟ (แต่ยังคงเป็นรอง Ford Everest), ฝาท้ายที่เปิด – ปิด แบบตู้เย็นพร้อมโช้กอัพ, เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa พร้อมระบบปรับอุณหภูมิและนวด, หน้าจอแสดงผลการขับขี่และหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 12.3 นิ้ว ในเรื่องความหรูหรา ให้เยอะ Tank 300 คือ ยืนหนึ่งและใกล้เคียวกับ Ford Everest โมเดลปัจจุบัน
ระบบความปลอดภัย Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย
เช่นเดียวกับในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แบรนด์ Great Wall Motor เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ใน Tank 300 ถือว่ามีออพชั่นความปลอดภัยขั้นพื้นฐานและขั้สูงมาให้แบบครบๆ แต่ก็ใช่ว่าจะโดดเด่นเหนือคุ่แข่งคันอื่นๆ ที่แต่ละคุน ก็มีไอเท่มลับที่แตกต่างกันออกไป ในภาพรวม ค่ายที่มีความโดดเด่นในเรื่องนี้มากที่สุด ยังคงหนีไม่พ้น Ford Everest ที่เรียกได้ว่า ให้ของมาแบบสมราคา และเป็นรถ PPV ที่เรียกได้ว่า “คุ้มค่า” อย่างแท้จริง
เปรียบเทียบราคา Tank 300 กับรถ PPV ในประเทศไทย 
รุ่นที่ “ยืนหนึ่ง” ในเรื่องระดับราคาของรถในรูปแบบนี้ คงหนีไม่พ้น Toyota Fortuner ที่แม้จะไม่ได้มีความโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ในภาพรวม…ด้วยมาตรฐานของตัวรถ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เพราะเหตุอันใดจึงเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงเป็นลำดับต้นๆในตลาด PPV บ้านเรา เช่นเดียวกับ Isuzu Mu-X ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ที่เซ็ตราคา วางระดับออพชั่นได้อย่างเข้าถึงผู้ใช้ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นรถที่สามารถจับต้องได้ง่าย ทั้งในระดับเริ่มต้น รวมถึงในรุ่นท็อปที่จัดอุปกรณ์และคอสเมติกมาได้แบบไม่เป็นรองคันไหนๆ แต่หากจะวัดกันด้วยความคุ้มค่าในระดับสูงสุด สำหรับรถระดับนี้ มีเพียง Nissan Terra คันเดียว ที่วางราคาอยู่ในระดับ 1.5 ล้านบาท ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ของ GWM ในการวางระดับราคาให้กับ Tank 300 แต่หากมองในมุมของ #ทีมขับซ่า ด้วยดีไซน์ที่ดึงดูด บวกกับระดับราคาที่ให้มา ค่าตัวไม่เกิน 1.75 ล้านบาท อาจทำให้ Tank 300 สามารถเดินได้อย่างไม่มีสะดุด แต่หากอยากเดินไปเร็วๆ พร้อมผู้ใช้ชาวไทย ค่าตัวไม่ข้าม 1.7 ล้านบาท จะสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้ใช้ได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
