ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะได้เห็นการรวมตัวของเหล่าตำนาน JDM ตัวซิ่งในยุค 90 ที่พร้อมใจมาประลองความเร็วให้เราได้ประจักษ์ ซึ่งภาพและรุ่นของตัวซิ่งชั้นนำเหล่านี้ ดูจะเป็นรถที่คุ้นมือสำหรับคอเกมเมอร์ในช่วงยุคทองของ Gran Turismo ไม่ว่าจะเป็น Nissan Skyline GT-R, Toyota Supra, Honda NSX, Mazda RX-7, Mitsubishi Evolution 6.5 Tommi Makinen Edition, Nissan Silvia S15 รวมถึง Toyota Chaser ซีดานขับเคลื่อนล้อหลังที่พกพาความแรงขากขุมพลัง 1JZ-GTE งานนี้เว็บไซท์จอมเทสต์ชั้นนำ อย่าง Car Wow นำตำนาน JDM ยุค 90 ทั้ง 7 รุ่น มาประลองความเร็วให้เราได้ดูกันชัดๆ งานนี้ ใครจะอยู่ ใครจะไป…ได้รู้กันแน่นอน
ใครจะอยู่ ใครจะไป ในการประลองความเร็วของ Sport JDM ยุค 90
สิ่งที่น่าสนใจของการประลองความเร็วของ 7 ตำนาน JDM ยุค 90 เหล่านี้ก็คือ รถแต่ละคันนั้น ยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์สเต็ปเดิมๆ จากโรงงาน ไม่ได้ผ่านการโมดิฟายมาก่อน ซึ่งทำให้การประลองความเร็วในครั้งนี้ ดูน่าตื่นตาตื่นใจและใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น หากจัดลำดับความ “สุด” ของรถแต่ละคันที่นำมาประลองความเร็วในครั้งนี้ ในระดับ Tier 1 จะประกอบไปด้วย
Nissan Skyline GT-R (BNR-34)
ผู้มาพร้อมขุมพลัง RB26DETT แบบ 6 สูบ แถวเรียง พิกัด 2,568 ซีซี. ทวินเทอร์โบ ให้กำลัง 280 แรงม้า พร้อมแรงบิด 392 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นรถที่องประกอบดีและ Perfect ที่สุดในบรรดาสปอร์ตยุค 90 ติดที่เรื่องน้ำหนักที่มากกว่าเพื่อน เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนควบ และขนาดตัวรถที่เข้าข่ายความเป็นรุ่นใหญ่แบบเต็มตัว
Toyota Supra (JZA80)
- กับขุมพลังที่ฮอตที่สุดในยุคมิลเลนเนียม ในรหัส 2JZ-GTE พ่วงด้วยเทอร์โบคู่แบบซีเควนเชียล ให้กำลังขับเคลื่อน 280 แรงม้า กับแรงบิด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง หากเปรียบเทียบเรื่องของพละกำลังแล้ว นี่เป็นรถที่ได้เปรียบมากที่สุด แต่จนแล้วจนรอด…จุดอ่อนยังคงอยู่ที่น้ำหนักตัวเช่นเดียวกับ Nissan Skyline GT-R
Honda NSX (NA2)
- เจ้าของฉายา Ferrai ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งเดียวในบรรดาตัวเด็ดทั้ง 7 รุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ NA และเป็นรุ่นเดียวที่เป็นเครื่องยนต์แบบวางกลางลำ แม้ว่าจะไร้ซึ่งระบบอัดอากาศ แต่ด้วยความจุของเครื่องยนต์ V6 พิกัด 3.2 ลิตร ทำให้ Honda NSX มีกำลังแตะเพดานม้าญี่ปุ่นที่ 280 ตัว (ในยุคนั้น รถที่เป็น JDM Spec จำกัดแรงม้าสูงสุดไว้ที่ 280 แรงม้า และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 180 กม./ชม.) ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ทำให้ Honda NSX เป็นรถญี่ปุ่นเพียงรุ่นเดียว ณ เวลานั้น ที่ถูกขนานนามว่าเป็น Super Car และเป็นรถที่ถูกกล่าวขานและชื่นชมมาจนถึงทุกวันนี้
Mazda RX-7 (FD-3S)
- ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากพูดถึงสปอร์ตระดับ Top Tier ที่เป็น JDM Spec ยุค 90 ย่อมต้องมีชื่อของอสุรกาย Rotary Rocket ผู้นี้อยู่ในโผอย่างแน่นอน จุดเด่นของสปอร์ตจากค่าย Mazda คงหนีไม่พ้นขุมพลังสูงหมุนรหัส 13B-REW ที่แม้จะมีความจุเพียง 1.3 ลิตร แต่ด้วยความถี่ในการจุดระเบิดที่ 3 ครั้ง ต่อการหมุน 1 รอบ (เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ปกติจะจุดระเบิด 1 ครั้ง ต่อการหมุน 2 รอบ) หากเทียบกับระดับ Top Tier ด้วยกัน ต้องยอมรับว่า Mazda RX-7 เป็นรถที่มีอัตราส่วนแรงม้า : น้ำหนัก ดีที่สุดในคลาส แต่จุดอ่อนอยู่ที่เรื่องแรงบิด ด้วยลักษณะการหมุนของเครื่องยนต์ Rotary
นอกจาก 4 จตุรเทพ แห่ง JDM Car ในยุค 90 แล้ว งานนี้ยังมีผู้ท้าชิงที่เป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ เริ่มตั้งแต่
Mitsubishi Evolution 6.5 Tommi Makinen Edition (CP9A)
- เป็นรถที่ถือกำเนิดมาเพื่อตอกย่ำความเป็นผู้นำในวงการแรลลี่โลก สิ่งที่เหนือกว่า Evolution VI รุ่นปกติ คือ การปรับเซ็ตองประกอบพิเศษ เช่น โช้กอัพ, อัตราทดพวงมาลัย, เพิ่มค้ำตัวถัง เช่นเดียวกับในส่วนของห้องโดยสารที่มาพร้อมพวงมาลัย MOMO และเบาะ Recaro ปักโลโก้ Tommi Makinen หน้าที่การขับเคลื่อนเป็นของเครื่องยนต์บล็อค 4G-63 พิกัด 2.0 ลิตร เทอร์โบ สร้างกำลังไว้ที่ 280 แรงม้า แรงบิด 373 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time
Nissan Silvia S15 (RPS-15)
- สปอร์ตขับหลังรุ่นปิดตำนาน ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ควรค่ากับการสะสมในยุคปัจจุบัน ด้วยดีไซน์ที่ไม่ตกยุคและเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังที่ขับสนุกและมีระดับพละกำลังที่เหมาะสม จากขุมพลังในพิกัด 2.0 ลิตร เทอรโบ ในรหัส SR20DET เจนเนอเรชั่นที่ 3 (นักวิ่งยุค 90 นิยมเรียกกันแบบติดปากว่า “ฝาดำหลังหัก”) ที่ได้รับการบ่มเพาะจนมีพละกำลังสูงในระดับ 250 แรงม้า (กำลังมากกว่าฝสาดำหลังหักที่ประจำการใน Silvia S14 อยู่ 30 แรงม้า จับคู่กับชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งถือว่าเป็นสเป็นที่ว้าวมาก สำหรับสปอร์ตพิกัด Middle Class ในยุค 90
Toyota Chaser (JZX100)
- อาจเป็นรถที่หาดูในบ้านเราได้ยากสักหน่อย แต่หากเป็นในญี่ปุ่นแล้ว นี่ถือเป็นตัวซิ่งที่เหล่าพ่อบ้านต่างถวิลหา และเชื่อว่าสำหรับคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เกมแข่งรถในยุค Play Station 1-2 น่าจะเคยเลือก Toyota Chaser มาเป็นตัวแข่งคู่ใจอย่างแน่นอน จุดเด่นของซีดานผู้นี้นอกจากความเป็นซีดานลุค Sleeper คือ การมาพร้อมขุมพลังรหัสร้อน 1JZ-GTE VVTi ซึ่งสำหรับใครที่เป็นสายซิ่งยุค 90 ตัวจริง ย่อมรู้จักมักคุ้นกับความเร้าใจของเครื่องยนต์บล้อคนี้เป็นอย่างดี
สำหรับการวิ่งทดสอบของทาง Car Wow ในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ นั่นก็คือ การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ถึงระยะ 402 เมตร หรือระยะควอเตอร์ไมล์, การออกตัวจากความเร็ว 60 กม./ชม. ที่เกียร์ 3 แล้วเดินคันเร่งเต็มๆ จนถึงระยะ 1/2 ไมล์ หรือราวๆ 800 เมตร รวมถึงการทดสอบระยะเบรก ซี่งบอกได้เลยว่า รถทั้ง 7 รุ่น ล้วนมีจุดเด่นและคาแร็กเตอร์ในการตอบสนองที่แตกต่างกันไป ส่วนใครจะเป็นที่สุดในรูปแบบไหน…ติดตามได้ในคลิปด้านล่าง
ขอขอบคุณคลิปจาก Car Wow
