เป็นข่าวมาเกือบปี หลีงจากที่มีการเผยโฉมว่าที่เจนเนอเรชั่นใหม่ของ “สาวทันสมัย” แห่งค่าย Nissan ในชื่อ Nissan Z Proto ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวกระตุกต่อมความอยาก โดยมีข่าวคราวอย่างเป็นทางการจากทางค่ายว่ากำหนดวันเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็คือ ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมแง้มรายละเอียดเบาๆ ให้กับคนที่สนใจได้กำเงินรอเอาไว้แน่นๆ
Nissan Fairlady Z เวอร์ชั่นลุง vs หลาน งานนี้…อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คัน
Nissan Z Proto
สำหรับว่าที่ Nissan Z 2022 จะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 7 ของสปอร์ตในตระกูล Fairlady Z ของค่าย Nissan หลังขาดช่วงในการส่งไม้ต่อจาก Nissan 370Z ไปร่วม 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดมาเพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงของเพื่อนร่วมชาติอย่าง Toyota Supra (ซึ่งจากที่เคยเป็นคู่แข่งกับ Skyline GR-R แต่พอแยกตระกูลมาเป็น GT-R เดี่ยวๆ ฝั่ง Supra กลับโดยทิ้งหายแบบไม่เห็นฝุ่น) โดยคาดว่า Nissan Z 2022 จะมาพร้อมขุใมพลังแบบเบ็นซิน V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบในรหัส VR30DDTT ที่หยิบยืมมาจากเพื่อนร่วมชายคาอย่าง Infiniti Q60 โดยคาดว่าจะให้กำลังขับเคลื่อนแตะๆ 400 แรงม้า และมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีระบบส่งกำลังมาให้เลือกทั้งแบบ Manual และ Automatic เพื่อส่งถ่ายแรงขับเคลื่อนไปที่ล้อคู่หลัง
ขุมพลัง VR30DDTT แบบ V6 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ในยุคนี้…แตะๆ 400 ม้า ต้องมาแล้ว
ไฟท้ายแบบนี้ ชวนให้นึกถึง Nissan 300ZX จริงๆ
อย่างที่ได้เห็นไปใน Nissan Z Proto (รวมถึงรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Fairlady Z ซึ่งถือว่ามีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ…เห็นแล้วรู้เลย) คือ ดีไซน์การออกแบบจะมาในสไตล์ Fastback ท้ายลาด ในด้านหน้ามาพร้อมกระจังขนาดใหญ่ ไฟท้ายออกแนวย้อนยุคเล็กๆ ชวนให้นึกถึงรุ่นพี่ผู้ขึ้นหิ้งเป็นระดับตำนานอย่าง Nissan 300ZX ซึ่งในเวอร์ชั่นขายจริง ไม่น่าจะมีรายละเอียดที่ผิดเพี้ยนไปจากตัวโปรโตไทป์มากนัก เช่นเดียวกับในส่วนของภายใน ซึ่งใน Nissan Z Proto มาพร้อมหน้าจอขนาด 8 นิ้ว รวมถึงในส่วนของเกจ์วัดแบบ 3 ช่อง อันเป็นเอกลักษณ์ วางขนาบข้างชุดหน้าปัดแบบดิจิตัล วางอยู่หลังพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน โดยในส่วนของเบาะนั่ง คาดว่าจะมีออพชั่นของวัสดุต่างๆ ให้เลือกตามต้องการ
ตรงปกแค่ไหน…17 สิงหาคมนี้ รู้กัน !!!
Nissan Z 2022 จะเปิดตัวในวันที่ 17 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยในส่วนของราคา มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะเริ่มต้นที่ราวๆ 34,995 เหรียญสหรัฐฯ แต่หากใครที่ต้องการออฟชั่นเสริม เช่น ชุดเบรก Brembo, การตกแต่งภายใน รวมถึงการอัพเกรดสมรรถนะในระบบรองรับ อาจต้องจ่ายเพิ่มอีกราว 5,000 เหรียญฯ ซึ่งแน่นอนว่า…ในทันทีที่เปิดตัว ขับซ่า จะนำข้อมูลมารายงานให้ทราบกันอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Motor 1
