หลังจากทำตลาดมาจนเข้าปีที่ 15 ในที่สุด…สปอร์ตในตำนานจากแดนปลาดิบ Nissan GT-R (R35) ก็ถึงเวลาแห่งการล้างมือในอ่างทองคำ โดยทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเลิกการจำหน่าย Nissan GT-R (R35) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทำตลาดมาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ปี 2007 และถือเป็นสปอร์ตระดับแนวหน้าที่ครองใจคนทั่วโลก จนกลายมาเป็นที่มาของ GT-R เวอร์ชั่นพิเศษ มากมาย
สำหรับประเทศญี่ปุ่น ในปีที่ผ่านมา Nissan GT-R (R35) ทำตลาดในช่วงเวลาสั้นๆ ด้วย Nissan GT-R Nismo และ Nissan GT-R T-Spec (เป็นรุ่นที่ทำตลาดในบ้านเราด้วยราคา 12.2 ล้านบาท) ซึ่งเปืดตัวไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 แต่ล่าสุดในเว็บไซท์ Nissan ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า “ปิดรับจอง Nissan GT-R 2022” เนื่องจากสามารถทำยอดจองได้แบบเกินเป้าหมายที่วางไว้เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นการปิดตำนานของสปอร์ตเจ้าของฉายา “SuperCar Killer” ได้อย่างน่าประทับใจ การีนตีด้วยความนิยมกว่า 14 ปี ที่ไม่เคยแผ่ว แม้ว่าจะมีอายุอานามมากกว่า 1 ทศวรรรษ แต่ Nissan GT-R ยังคงเป็นรถที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในโลกโซเชียล
สำหรับ Nissan GT-R (R35) รุ่นล่าสุด
และเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นก็คือ GT-R Premium Edition T-spec และ GT-R Track Edition Engineered by Nismo T-spec ในรูปแบบ Limited Edition เพียง 100 คัน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถดึงดูดใจสาวก GT-R ได้ไม่ยาก โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การนำสีตัวถัง ที่เป็นสีระดับตำนานของรถในตระกูล GT-R กลับมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง Midnight Purple และสีเขียว Millennium Jade นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดสมรรถนะขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้สปอยเลอร์ท้ายที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดเบรกคาร์บอนเซรามิค พร้อมป้าย Badge ที่บ่งบอกถึงความเป็น “รุ่นพิเศษ” ในตระกูล GT-T T-Spec
ข่าวการยกเลิกการจำหน่าย Nissan GT-R (R35) ไม่ได้มีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในออสเตรเลียและยุโรปที่ประกาศยกเลิกการขายไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่่ผ่านมา หลังจากทำตลาดมาแล้วกว่า 13 ปี โดยเหตุผลที่ต้องเลิกขายเป็นเพราะเงื่อนไขด้านมลพิษ (ทางเสียง) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ทางค่าย Nissan ยังไม่ได้ออกมาแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับสปอร์ตตระกูล GT-R ว่าที่ตัวตายตัวแทนของ Nissan GT-R (R35) จำทำให้หลายๆ คนต่างจินตนาการกันไปว่า…นี่อาจเป็นจุดอวสานของรถในสายรหัส GT-R ก็เป็นได้ !!!