หากคุณกำลังมองหาความท้าทายที่ไม่จำเจ กับรถสมรรถนะสูงแบบถูกกฎหมายที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน สิ่งหนึ่งที่หลายคนให้ความไว้วางใจเป็นอันดับแรก คงหนีไม่พ้นชื่อเสียงของแบรนด์ ที่เป็นเครื่องการันตีคุรภาพขั้นพื้นฐาน แต่หากแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฏตัวที่ไหนมาก่อน เราอาจต้องมองลึกไปถึงเบื้องหลัง ซึ่งก็คงไม่ต่างจากซูเปอร์คาร์แบรนด์ที่มีชื่อว่า Nichols Cars ซึ่งคงเป็นแบรนด์ที่ไม่คุ้นหู แต่หากบอกว่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการผลิตชิ้นส่วนให้กับตัวแข่งแชมป์โลก Formula 1 ในตำนานของยอดนักขับอย่าง Ayrton Senna หลายคนคงร้องอ๋อ และรู้สึกใจชื้นขึ้นมาในทันที
Nichols Cars N1A สปอร์ตน้ำหนักเพียง 900 กก. แต่มีกำลังให้ใช้ถึง 650 แรงม้า
Steve Nichols ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของแบรนด์ Nichols Cars ได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้ปลุกกระแสการนำชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาใช้ในวงการ Formula 1 โดยเขาเป็นหัวหน้าทีมออกแบบ Mclaren MP4/4 ตัวแข่งของ Ayrton Senna ที่ใช้ลุยศึกรถสูตรหนึ่งในปี 1988 และสามารถคว้าแชมป์โลกได้ตั้งแต่ปีแรก จาก 3 ปี ที่รถคันนี้ถูกใช้ใในการแข่งขัน หลังจากนั้น Nichols ยังคงวนเวียนอยู่ในเวทีการแข่งขันระดับสูงสุด โดยทำงานเบื้องหลังให้กับทีมชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ferrari, Jaguar, Jordan รวมถึง Sauber จนเป็นบุคคลที่ได้การยอมรับในวงการการแข่งขันระดับสูงสาุดมาอย่างต่อเนื่อง
Steve Nichols ผู้บุกเบิกชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์สู่วงการ Formula 1
สำหรับแนวคิดการออกแบบ Nichols Cars N1A รวมถึงชื่อที่ใช้ ล้วนแล้วแต่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง McLaren M1A (รถแข่งล้อปิดของค่าย) ที่ใช้สู้ศึก Group 7 ในเวทียุโรป ระหว่างปี 1963 – 1968 ซึ่งรวมไปถึงการแข่งขันในรายการ United States Road Racing Championships ในช่วงกลางยุค 60 ก่อนที่จะพัฒนาสู่ตัวแข่งรุ่นใหม่ในรหัส M1B และ M1C สำหรับการแข่งขันในรายการ Can-Am competition ในเวลาต่อมา
Nichols Cars N1A ได้รับการออกแบบเส้นทางตัวถังที่ดูพลิ้วไหว ไม่แตกต่างจาก M1A มากนัก (นอกจากความกว้าวและความยาวที่เพิ่มขึ้น) โดยชิ้นส่วนตัวถัง ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ตั้งแต่หัวจรดท้าย ส่งให้ตัวรถมีความแข็งแรงสูง ในขณะเดียวกันยังมีน้ำหนักเบา ซึ่งหากเปรียบเทียบไปแล้ว Nichols Cars N1A เป็นรถในสไตล์ Lightweight Supercar ที่มีน้ำหนักเพียง 900 กก. ซึ่งเบากว่า Mazda MX-5 ที่หลายคนคุ้นเคยอยู่พอสมควร (ประมาณ 90 กก. เมื่อเทียบกับโฉม ND) ตัวรถมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ที่ล้อคู่หน้า และ 20 นิ้ว สำหรับล้อคู่หลัง หุ้มด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ด้สนชุดช่วงล่างมาในรูปแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ รวมถึงชุดเบรก ABS
แม้จะเป็นรถที่มีขนาดเล็ก แต่หัวใจของ Nichols Cars N1A ถือว่าไม่ธรรมดา โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 พิกัด 7.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบประกอบมือโดย Langford Performance Engineering (LPE) ภายใต้การพัฒนาของ Cosworth DFV ส่งกำลังในระดับ 650 แรงม้า (อัตราส่วรแรงม้า : น้ำหนักอยู่ที่ราว 700 แรงม้า : 1 ตัน) สู่ล้อคู่หลัง ผ่านชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งเพิ่มความคลาสสิคด้วยชุดคันเกียร์ที่มาในรูปแบบ Open Gate สไตล์สปอร์ตดั้งเดิม
Nichols วางแผนว่าจะผลิต Nichols Cars N1A ในจำนวนจำกัดเพียงไม่เกิน 100 คัน (15 คัน สำหรับฉลองความสำเร็จของ McLaren MP4/4 ใน 15 ครั้ง ของการชนะในเวที Formula 1) สำหรับสแตนดาร์ดของรถที่ผลิต จะใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 7.0 ลิตร แต่หากลุกค้าที่ต้องการปรับสเป็ค สามารถเลือกใช้เครื่องยนต์ Chevy LT1 กำลัง 460 แรงม้า หรือ 520 แรงม้า เป็นทางเลือกได้เช่นกัน
