#ขับซ่า ทดสอบ Neta X วัดอัตราเร่ง ระยะเบรก ฟีลลิ่งช่วงล่าง การกินไฟ คุ้มแค่ไหนในงบไม่ข้าม 8 แสนบาท ?

รถในรูปแบบ Crossover B-Segment ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดเมืองไทย ซึ่งแต่ละค่ายทั้งจากญี่ปุ่น รวมถึงจีน ต่างก็ส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และมีจุดเด่นเฉพาะตัว เพื่อดึงดูดใจลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป โดย Neta X ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกจับตามากเป็นอันดับต้นๆ ด้วยความที่เป็นรถที่วางราคาอยุ่ในระดับที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นเพียง 739,000 บาท สำหรับรุ่น Comfort และ 799,000 บาท สำหรับรุ่น Smart ที่เพิ่มความจุของแบตเตอรี่และระบบช่วยเหลือพร้อมความปลอดภัยขั้นสูงเข้ามา

Neta X ราคา 739,000 บาท สำหรับรุ่น 401 Comfort และ 799,000 บาท สำหรับรุ่น 480 Smart

นอกจากเรื่องของระดับราคาที่เข้าถึงง่าย มีความคุ้มค่าสูงแล้ว Neta X ยังเป็นรถในกลุ่ม Crossover B-Segment ที่มาพร้อมตัวถังขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่อย่างไรก็ตาม Neta X ยังเป็นรถที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยในเรื่องสมรรถนะว่า ระดับพละกำลัง 163 แรงม้า กับแรงบิด 210 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดูจะด้อยกว่ารถ EV ในกลุ่มเดียวกันอย่างชัดเจน เรามาลองไล่ดูกันทีละหัวข้อว่า ในระดับสมรรถนะดังกล่าว จะทำตัวเลขออกมาผ่านเครื่องมือ VBox Sport โดยการทดสอบของ #ทีมขับซ่า ว่าออกมาได้ดีขนาดไหน ?

163 แรงม้า ใน Neta X พอไหม ? วัดกันด้วยตัวเลขให้เห็น !

อัตราเร่ง Neta X

ขึ้นเขา ไต่เนิน…เอาอยู่ แม้ว่าเรื่องพละกำลังจะไม่ใช่จุดเด่น เมื่อเทียบกับรถในรูปแบบเดียวกันก็ตาม

เริ่มกันที่อัตราเร่ง…แม้ว่า Neta X จะไม่ใช่รถกำลังสูงที่ตอบสนองได้อย่างดุดัน แต่ก็ถือว่าเซ็ตติ้งออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวรุ่นหนึ่ง ซึ่งดูจะเหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้งานทั่วไป ไม่ได้ซีเรียสเรื่องสมรรถนะหรืออัตราเร่งในระดับสูงสุด อย่างไรก็ตาม…ด้วยตัวเลขอัตราเร่งที่ออกมานั้น ไม่ได้ถือว่าแย่ถ้าเทียบกับรถในกลุ่ม Crossover B-Segment ด้วยกัน (เป็นรองแค่กลุ่มรถไฟฟ้า เช่น BYD Atto 3 แต่ไม่แตกต่างกับรถในกลุ่มไฮบริดที่โดดเด่นในเรื่องอัตราเร่ง เช่น Nissan Kicks e-Power มากนัก) โดย Neta X สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.99 วินาที คาแร็กเตอร์ในการเร่งและไต่ความเร็วมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน คือ ตอบสนองได้อย่าง Linear นุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮาก ให้อารมณ์การขับขี่ที่สุขุม นุ่มลึก ได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว ในส่วนของการไต่ทางชันของ Neta X ที่หลายคนยังเป็นกังวลนั้น จากการทดลองโดย #ทีมขับซ่า ยังถือว่าการตอบสนองยังอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่เด่น แต่ไม่ถึงกับไม่ไหว เพียงอาจจะต้องเติมน้ำหนักในการกดคันเร่งมากกว่าการขับขี่ทั่วไปสักเล็กน้อย เพื่อให้ระดับพละกำลังสูงสุดถูกปลดปล่อยออกมา

แม้ช่วงล่างจะจูนมาได้เหมาะสมกับระดับสมรรถนะ แต่ประสิทธิภาพการเบรกในภาพรวม อาจต้องใช้ความระมัดระวังและเผื่อระยะที่ปลอดภัยสักเล็กน้อย

ระยะเบรก Neta X

จุดเด่นในการบังคับควบคุมของ อยู่ที่การเซ็ตช่วงล่างในสไตล์ที่พอเหมาะกับพละกำลัง ด้วยฟีลลิ่งการตอบสนองของช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลเป็นสำคัญ ซึ่งก็เพียงพอต่อระดับสมรรถนะของตัวรถ ส่งผลเรื่องความสบายเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ที่สามารถลดอาการสะท้าน สะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี และในทิศทางเดียวกัน การขับขี่ที่ความเร็วสูง แม้จะเป็นย่านความเร็วสูงสุดที่ตัวรถทำได้ Neta X ยังคงให้ความมั่นใจในแง่ของการทรงตัว ที่ไม่รู้สึกถึงอาการว่อกแว่กมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตัวถังที่มีขนาดใหญ่และตัวรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากถึง 1,815 กก. สำหรับรุ่น Smart แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องยอมรับเมื่อใช้ความเร็วมากๆ คือ เสียงที่เข้ามาในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเสียงจากพื้น ที่เข้ามาค่อนข้างมาก อีกทั้งจุดที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องของระยะเบรก ที่จากความเร็ว 100 กม./ชม. จนถึงจุดหยุดนิ่ง ใช้ระยะไปมากถึง 46.70 เมตร ซึ่งแตกต่างจากรถบ้านๆ ทั่วไป ที่ตัวเลขจะป้วนเปี้ยนอยู่ราว 40 เมตร ในจุดนี้อาจต้องใช้ความระมัดระวัง และเผื่อระยะกันสักเล้กน้อย โดยเฉพาะกับการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง

ต่อชาร์จสำหรับการใช้งานจริง ป้วนเปี้ยน 350 กม. ถือว่าอยุ่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับรถไซส์และราคานี้

อัตราสิ้นเปลือง Neta X

* วิ่งในเมืองความเร็วเฉลี่ย 28-32 กม./ชม.

** วิ่งนอกเมืองใช้ความเร็วอยู่ในช่วง 100 – 115 กม./ชม.

ด้านอัตราสิ้นเปลืองของ Neta X ตามสเป็คเคลมเอาไว้ที่ 480 กม. ตามมาตรฐาน NEDC สำหรับรุ่น Smart หากจองจินตนาการคร่าวๆ แปลงหน่วยเป็น WLTP จะอยู่ที่ราว 335 – 360 กม. ต่อชาร์จ ซึ่งจากการใช้งานจริง ชาร์จไฟเต็มก่อนเริ่มสตาร์ท ขับขี่ในคอนดิชั่นปกติตามสภาพการจราจร ความเร็วเดินทางประมาณ 100-110 กม. สลับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำในเมืองบางช่วง บนเส้นทางการทดสอบกว่า 312 กม. ตัวเลข % ของพลังงานที่เหลืออยู่บนหน้าจอแสดงที่ 27% พร้อมกับระยะทางที่แสดง 136 กม. ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว หากวิ่งจนไฟเหลืออยู่ในระดับเลขตัวเดียว เชื่อว่าระยะทางในระดับ 380 กม. ต่อชาร์จ ดูจะไม่ไกลเกินจริง โดยหากวัดอัตราสิ้นเปลืองสำหรับการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ จะพบว่า อัตราการใช้พลังงานในเมืองของ Neta X ในระดับความเร็วเฉลี่ย 28-32 กม./ชม. อยู่ที่ 16.3 kW/100 กม. แต่หากเดินทางไกล ใช้ความเร็วอยุ่ในช่วงระหว่าง 100-115 กม./ชม. อัตราการใช้พลังงานจะขยับขึ้นมาที่ 17.7 kW/100 กม. ซึ่งเป็นระดับมาตรฐานของรถในพิกัด Crossover B-Segment