การแข่งขัน MotoGP กำลังจะกลับมาระเบิดความมันส์ในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานถึง 3 ปี จากการระบาดของ Covid-19 ทำให้การแข่งขันในฤดูกาล 2019-2021 นั้นถูกยกเลิกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในปี 2022 การแข่งขัน MotoGP ในสังเวียน Thai GP ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พร้อมกลับมาเรียกเสียงเชียร์ให้กระหึ่มอีกครั้ง
1.ประเทศไทย เป็น 1 ใน 7 ประเทศ ของทวีปเอเซีย ที่ได้สิทธิ์จัดการแข่งขัน MotoGP
แม้ว่าการแข่งขัน MotoGP จะจัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี (นับตั้งแต่เปลี่ยนจากรายการ GP 500 ในปี 2002) แต่ที่ผ่านมานั้น มีเพียง 7 ประเทศ ในทวีปเอเซีย ที่ได้สิทธิ์ในการจัดแข่งขัน MotoGP ซึ่งประกอบไปด้วย ไทย, อินโดนิเซีย (ประเทศล่าสุด), ตุรกี, ญี่ปุ่น, จีน, มาเลเซีย และการ์ต้า โดย สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสังเวียนการแข่งขันในลำดับที่ 12 ของเอเซีย ต่อจากสนาม Motegi , Sepang, Lusail, Suzuka , Shah Alam, Shanghai, Istanbul Park, Fisco/Fuji, Sentul , Johor และ Mandalika
2.MotoGP 2023 เพิ่มอีก 1 สนาม ในเอเซีย กับรายการ Indian GP
ส่วนใน MotoGP ฤดูกาล 2023 จะมีการเพิ่มประเทศในเอเซียอีก 1 สนาม (เป็นสนามแข่งแห่งที่ 13 ในเอเซีย) นั่นก็คือ รายการ Indian GP ที่ประเทศอินเดีย โดยจะแข่งขันเป็นสนามที่ 14 ในระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2023
3.เป็นการกลับมาแข่งในโฮมเรซอย่างยิ่งใหญ่และได้ลุ้นของ สมเกียรติ จันทรา
ก้อง สมเกียรติ จันทรา ถือเป็นนักแข่งชาวไทยที่เคยสร้างผลงานไว้อย่างน่าประทับใจในการแข่งขันระดับโลก ซึ่งในการแข่งขัน MotoGP 2018 เขาได้สิทธิ์แข่งขันในรุ่น Moto 3 แบบไวด์การ์ด และสามารถเก็บผลการแข่งขันได้ดีเกินคาด โดยจบการแข่งขันในอันดับที่ 9 ท่ามกลางนักบิดระดับเวิลด์คลาสมากมาย ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับการผลักดันเข้าสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เพื่อลงทำการแข่งขันในรุ่น Moto 2 ตั้งแต่ฤดูกาล 2019 เป็นต้นมา
4.มาร์ค มาร์เกซ เป็นคนเดียวในโลก ที่เคยชนะการแข่งขัน MotoGP ที่สนามช้างฯ
การกลับมาของการแข่งขัน MotoGP 2022 ในรายการ Thai GP ถือเป็นการแข่งขันครั้งที่ 3 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในการแข่งขัน 2 ครั้งที่ผ่านมา มีแค่ มาร์ค มาร์เกซ เพียงคนเดียว ที่เคยชนะในการแข่งขันในรุ่นใหญ่ หรือ รุ่น MotoGP ทั้งในฤดูกาล 2018 ที่ออกสตาร์ทในตำแห่ง Pole Position และสามารถเอาชนะ อังเดร โดวิซิโอโซ่ ก่อนที่ในปี 2019 จะมาย้ำชัยในโค้งสุดท้ายต่อ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และสามารถคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 8 ในสนามแห่งนี้ ทำให้ในการแข่งขัน MotoGP 2022 ในรายการ Thai GP เราจะได้ลุ้นกันอีกครั้งว่า มาร์ค มาร์เกซ จะสามารถคว้าทริปเปิ้ลแชม์ในประเทศไทยได้หรือไม่ ?
5.Yamaha เป็นทีมที่ได้โพเดียมรุ่นใหญ่ใน Thai GP มากที่สุด
แม้ว่า มาร์ค มาร์เกซ จะเป็นคนเดียวที่เคยชนะการแข่งขัน MotoGP ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แต่แบรนด์ที่เคยได้โพเดียมมากที่สุดในสนามแห่งนี้ กลับเป็นของค่าย Yamaha ในจำนวน 3 โพเดียม โดยผู้ที่สามารถขึ้นโพเดียมได้ทั้ง 2 ปี ติดต่อกันก็คือ มาร์เวอริค วินาเลส (อันดับที่ 3 ในปี 2018 และ 2019 ส่วน ณ ปัจจุบัน วินาเลส เป็นนักบิดในสังกัด Aprillia) ส่วน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ได้อันดับที่ 2 ในปี 2019 ส่วนอีกหนึ่งโพเดียมที่เหลือในอันดับที่ 2 ของฤดูกาล 2018 เป็นของ อังเดร โดวิซิโอโซ่ ในสังกัด Ducati
6. กวาร์ตาราโร ลุ้นคว้าแชมป์โลกต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2
ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เป็นแชมป์โลกคนล่าสุด และยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสมในการแข่งขัน MotoGP 2022 โดย ณ ปัจจุบัน มีคะแนนสะสมรวมอยู่ที่ 219 คะแนน ทิ้งห่าง ฟรานเซสโก้ บัญญาญ่า ถึง 18 คะแนน แม้ว่าโอกาสในการคว้าแชมป์โลกของทั้งคู่จะยังคงเปิดกว้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กวาร์ตาราโร ดูจะเป็นคนที่มีภาษีดีที่สุดในเวลานี้
7.ร่วม Meet & Greet กับนักแข่งระดับเวิลด์คลาสได้อย่างเต็มอิ่ม
นอกจากการแข่งขันสุดมันส์แล้ว แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่มาร่วมชมการแขงขัน MotoGP 2022 รายการ Thai GP ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยังมีโอกาสได้กระทบไหล่นักแข่งชั้นนำอย่างใกล้ชิดติดขอบเวที โดยบรรดานักแข่งตั้งแต่รุ่น MotoGP, Moto 2 รวมถึง Moto 3 ตั้งแต่เวลา 17.30 – 19.00 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2022 ณ OR Pavilion อีกด้วย
8.ชัตเติ้นแต๋น เพื่อนคู่ใจคนเดินทาง
9.โปรแกรมการแข่งขัน Thai GP 2022
10.โปรแกรมการถ่ายทอดสด
นอกจากการรับชมแบบติดขอบสนามแล้ว MotoGP 2022 รายการ Thai GP ยังพร้อมให้รับชมผ่านช่องทาง Free TV ของ PPTV ช่อง 36, เว็บไซท์ของ PPTV HD ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถรับชมการแข่งขันในวันที่ 2 ตุลาคม นี้ เริ่มที่รุ่น Moto 3 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป