Home » Mifa 9 รถตู้อเนกประสงค์พลัง EV ลุ้นเปิดตลาดรุ่นแรกในไทย ภายใต้เครื่องหมายการค้า MG

Mifa 9 รถตู้อเนกประสงค์พลัง EV ลุ้นเปิดตลาดรุ่นแรกในไทย ภายใต้เครื่องหมายการค้า MG

by Admin clubza.tv
Mifa 9 รถตู้อเนกประสงค์พลัง EV

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ เป็นที่มาของการเปิดตัวเซ็กเม้นท์ใหม่ๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถอเนกประสงค์ในสไตล์ครอสโอเวอร์, รถแฮทช์แบค, รถซีดานหรู รวมถึงรถที่มีสมรรถนะสูง ที่ค่อยๆ เพิ่มเข้ามาในระยะ 1-2 ปี หลังจากที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มตื่นตัว และมองหาทางเลือกใหม่ๆ ด้วยการเลือกใช้ รถ EV มากขึ้น แต่อย่างไรแล้ว ที่ผ่านมา…สำหรับตลาดในบ้านเรา ยังไม่มี รถ EV ในรูปแบบที่เรียกว่า Mini Van หรือรถตู้อเนกประสงค์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ามาเปิดตลาดในเซ็กเม้นท์นี้

Mifa 9 รถตู้อเนกประสงค์ขุมพลัง EV ในเครือ SAIC Motor

สำหรับคนที่ติดตามวงการ รถ EV มาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงพอเคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับรถตู้อเนกประสงค์ในชื่อ Mifa 9 ที่เปิดตัวในประเทศออสเตรเลีย (ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา) ไปเมื่อปลายปีก่อน ความน่าสนใจของรถตู้อเนกประสงค์พลังไฟฟ้า รุ่นนี้ก็คือ ความเป็นรถในเครือ SAIC Motor แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศจีน ที่ถูกส่งออกไปทำตลาดในหลายๆ ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทย ภายใต้ชื่อแบรนด์ MG (ในออสเตรเลีย ทำตลาดในชื่อแบรนด์ LDV เช่นเดียวกับ LDV eT60 หรือ MG Extender EV) โดยหากมีการทำตลาดพวงมาลัยขวาในฝั่งออสเตรเลียแล้ว ย่อมมีความเป็นไปได้สูงว่า อาจมีแพลนการทำตลาด MG Mifa 9 ที่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

เบาะนั่ง Captain Seat ในทุกรุ่นย่อย โดยในรุ่นท็อปมาพร้อมฟังค์ชั่นปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง + ดันหลัง 4 ทิศทาง ระบบนวด และปรับอุณหภูมิ

ประตูข้าง, ประตูท้าย เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า สำหรับรุ่นกลางและรุ่นท็อป

หากลองดูสเปค MG Mifa 9 ในเวอร์ชั่นออสเตรเลียแล้ว

ถือว่ามีจุดที่น่าสนใจหลากหลายประการ เริ่มตั้งแต่ในส่วนของภาพลักษณ์ ที่ได้รับการดีไซน์โดยเน้นความหรูหรา ทันสมัย สื่อถึงความเป็นรถตู้โดยสารระดับพรีเมี่ยม ตัวรถมาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง (ในทั้ง 3 รุ่นย่อย ที่ทำตลาดในออสเตรเลีย โดยจะมีเวอร์ชั่น 8 ที่นั่ง ตามออกมาในภายหลัง) พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมฝาท้ายไฟฟ้า มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,200 มม. ซึ่งถือว่ายาวกว่ารถในรูปแบบเดียวกันอย่างชัดเจน (Toyota Alphard อยู่ที่ 3,000 มม. และ Kia Canival อยู่ที่ 3,090 มม.) ส่งผลต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า กิมมิคเล็กๆ ที่สร้างประโยชน์ในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ 90 kWh รองรับการเดินทางสูงสุด 440 กม. และชาร์จได้เร็วสุดที่ 120 kW

MG Mifa 9 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่ล้อคู่หน้า ให้กำลัง 241 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Power, Normal หรือ Eco โดย MG Mifa 9 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 kWh รองรับการเดินทางต่อชาร์จสูงสุด 440 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และรองรับการชาร์จแบบปกติด้วยไฟกระแสสลับที่ 11 kW สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลา 8.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง รองรับอยู่ที่ 120 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาประมาณ 45 นาที

หรูหรา เรียบง่าย ใช้งานได้จริง

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ MG Mifa 9

คงหนีไม่พ้นความสะดวกสบายในการโดยสาร ด้วยลักษณะการออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถอเนกประสงค์ส่วนบุคคลขนานแท้ ด้วยชุดช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟออร์สันสตรัท และชุดช่วงล่างหลังแบบมัลติลิ้งค์ กับระบบเบรกในรูปแบบดิสค์เบรกทั้งหน้าและหลัง ล้ออัลลอยที่ให้มาสำหรับรุ่นเริ่มต้น คือ 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R18 แต่หากเป็นอีก 2 รุ่น ที่มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น จะมาพร้อมล้อ 19 นิ้ว กับยาง 235/55 R19

เน้นความสบายสำหรับผู้โดยสารเป็นหลัก ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Full Function

ห้องโดยสารของ MG Mifa 9 มาพร้อมทริมการตกแต่งภายใน 2 รูปแบบ

(ตามรุ่นย่อย ซึ่งรุ่นท็อปจะเรียกว่า Premium Leather Seat Trim) สิ่งที่น่าสนใจ คือ ในทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว จับคู่กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay ซึ่งในรุ่นท็อปนั้น จะมาพร้อมชุดเครื่องเสียงแบบ 12 ลำโพง เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมดันหลัง 4 ทิศทาง โดยมีฟังค์ชั่นนวด, ปรับอุณหภูมิ พร้อมเมมโมรี่ มาให้อย่างเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับเบาะตอนที่ 2 ระบบปรับอากาศมาในรูปแบบ Multizone Climate Control ที่พร้อมให้ความเย็นสบายอย่างทั่วถึงตลอดคัน

โต๊ะส่วนตัว สำหรับเปลี่ยนพาหนะเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่

พักแขนแบบสไลด์ พร้อมแผงคอนโทรลระบบนวดผ่อนคลาย

ที่ขาดไม่ได้สำหรับความเป็นรถตู้อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมก็คือ ระบบความปลอดภัย โดย MG Mifa 9 มาพร้อมฟังค์ชั่นความปลอดภัยขั้นสูงแบบครบครันในทุกรุ่นย่อย (อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันเล็กน้อย) ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, ระบบควบคุมตัวรถให้อยู่ภายในเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาจากทางด้านหลัง, กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา รวมถึงกระจกมองหลังที่แสดงภาพผ่านกล่องด้านหลังเพื่อลดการบดบังสายตา

ลุ้นขายไทย…ค่าตัวไม่ข้าม 2 ล้านบาท ?

สำหรับค่าตัวของ Mifa 9 ในประเทศออสเตรเลีย ถูกตั้งเอาไว้ที่ 106,000 – 131,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งหากเทียบเป็นเงินไทย คือ 2.5 – 3.1 ล้านบาท แต่ด้วยภาษีนำเข้ารถยนต์พพลังงานไฟฟ้า 0% จากประเทศจีน ของบ้านเรา บวกกับส่วนลดสนับสนุนการใช้รถ EV ของทางภาครัฐ ทำให้ค่าตัวของ MG Mifa 9 จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับออพชั่นและรุ่นย่อยที่นำเข้ามาทำตลาด) หากมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy