หลังจากที่เปิดตัวรถคอนเซ็ปท์มาร่วมๆ 2 ปี ในที่สุดค่าย MG ก็ได้ฤกษ์เผยโฉม MG Cyberster รถในสไตล์ EV Roadster คันแรกของค่าย ซึ่งถือเป็นการดึงอารมณ์แฟนๆ กลับสู่กลิ่นอายความเป็นออริจินัลของความเป็น MG ในยุคดั้งเดิมอีกครั้ง โดยภาพของ MG Cyberster ดังกล่าว เป็นภาพที่มาจาก กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ซึ่งมีการระบุรายละเอียดที่น่าสนใจไว้บางประการด้วย
โดยข้อมูลที่ทาง SAIC Motor ยื่นกับ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ก็คือ MG Cyberster จะเป็รถที่มาใน 2 รูปแบบ โดยรุ่นแรกใช้มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 231 กิโลวัตต์ (ประมาณ 310 แรงม้า) ทำความเร็วได้สูงสุด 193 กม./ชม. และรุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งจะกระจายกำลังการขับเคลื่อนไปยังล้อคู่หน้า 150 kW (201 แรงม้า) และหลังอยู่ที่ 250 kW (335 แรงม้า) ทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม.
MG Cyberster มาพร้อมมิติตัวถัง ความกว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 1,913 x 4,535 x 1,329 มม. โดยมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,690 มม. ล้อที่ให้มากับตัวรถ จมีออพชั่นให้เลือกทั้งขนาด 19 และ 20 นิ้ว เช่นเดียวกับชุดหลังคาผ้าใบ ที่จะมีให้เลือกทั้งสีดำและสีแดง แต่ว่าตัวรถ MG Cyberster จะมาในรูปแบบ EV Roadster ที่มีเพียง 2 ที่นั่ง แต่เมื่อเทียบขนาดโดยรวมแล้ว ถือว่ามีความยาวรวมมากกว่า Porsche 718 Boxster ถึง 156 มม. และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าถึง 215 มม. ส่วนน้ำหนักของ MG Cyberster อยู่ในนระหว่าง 1,850 – 1,985 กก. ซึ่งมากกว่า Mazda MX-5 ถึง 700 กก. และมากกว่า MG ZS EV อยู่ถึง 280-415 กก. เลยทีเดียว ซึ่งยังไม่มีข้อมูบที่แน่ชัดว่า MG Cyberster มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุเท่าใด รวมถึงมีระยะการเดินทางต่อชาร์จที่เท่าไหร่บ้าง
ในส่วนของภายในห้องโดยสาร แม้ว่าจะไม่มีภาพที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อเทียบกับภาพที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า MG Cyberster นั้น เป็นรถที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ ด้วยการวางตำแหน่งของชุดหน้าจอทั้ง 3 จอ ให้หันมาเป็นจุดศูนย์รวมของการควบคุม โดยชุดพวงมาลัย มาในรูปแบบครึ่งวงกลม ให้ความรู้สึกคล้ายกับการควบคุมเครื่องบิน รวมถึงวางตำแหน่งของชุดคอนโซลกลางให้กันเข้าหาตัวผู้ขับขี่ เพื่อให้ง่ายและมีอิสระในการควบคุม สั่งการตัวรถ MG Cyberster อีกด้วย
MG Cyberster อาจไม่ใช่รถที่มีแพลนเปิดตัวภายในงาน Shanghai Auto Show 2023 แต่สิ่งที่คาดว่าทางค่ายจะทำแน่ๆ คือ การเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังภายในปี 2024 เนื่องจากเป็นปีที่แบรนด์ MG เตรียมฉลองการครบรอบ 100 ปี โดยจะวางตำแหน่งเพื่อเป็นคู่แข่งกับรถ Sport EV ในระดับพรีเมี่ยม