Mercedes-EQS500 4Matic และ BMW i7 xDrive60 M Sport ถือว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถ EV รุ่นใหญ่ จากแบรนด์ชั้นนำทั้ง 2 แบรนด์ในฝั่งยุโรป แม้ในดีกรีความเป็นซีดานรุ่นใหญ่ของทั้งคู่ (ที่ควรจะมาในแนวทางเดียว หรือใกล้เคียงกัน) แต่ความเป็นจริงแล้ว รถ EV รุ่นใหญ่ ทั้ง Mercedes-EQS500 4Matic และ BMW i7 xDrive60 M Sport กลับให้อารมณ์ในการขับขี่และการโดยสารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
Mercedes-EQS 500 4Matic AMG Premium
BMW i7 xDrive60 M Sport
ด้วยความเป็นรถในคลาสเดียวกันที่มีคาแร็กเตอร์ต่างกันอย่างสุดขั้ว ระหว่าง Mercedes-EQS500 4Matic และ BMW i7 xDrive60 M Sport นั้น พอจะอธิบายให้เห็นภาพได้ดังนี้ ฝ่ายแรกเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อให้ถูกใจคนขับ (หรือคนนั่ง…จากที่เคยนั่งคันอื่นๆ มาแล้ว แต่บังเอิญว่าว ในบางอารมณ์ก็อยากจะสนุกกับการขับขี่บ้าง โดยยังคงต้องการรถที่ดูมีภาพลักษณ์ภูมิฐาน และยังคงความความคล่องตัว กระฉับกระเฉง หากจะเปียบเทียบแนวทางกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่ Mercedes-Benz เคยทำตลาดอยู่แล้ว ฟีลไปในทิศทางใกล้เคียงกับรถในตระกูล CLS) จากที่ #ทีมขับซ่า พยายามทำใจยอมรับมาหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องเรียนตามตรงว่า การนั่งในพื้นที่เบาะหลัง (ที่แม้จะมีพื้นที่ Leg Room มหาศาล และมีจอแยกเฉพาะสำหรับผู้โดยสารแต่ละที่นั่ง ซึ่งสามารถเลือกใช้ฟังค์ชั่นความบันเทิงได้อย่างอิสระ) แต่ตำแหน่งองศาการจัดวางเบาะนั่ง ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่สบายอย่างที่จินตนาการ เป็นที่มาของข้อมูลที่เรากล้าพูดว่า ทำไม Mercedes-EQS500 4Matic จึงเป็นรถที่เหมาะกับการ “ขับเอง” มากกว่า “การเป็นผู้โดยสารในเบาะตอนหลัง”
จุดเด่นอยู่ที่การใช้หน้าจอ Hyperscreen 3 จอ บนคอนโซลหน้า พร้อมเบาะนั่งที่ให้ความรู้สึกโอบกระชับ
เป็นการพลิกโฉมอินเตอร์เฟสภายในของ BMW ได้อย่างน่าประทับใจ ล้ำสมัย แพรวพราวไร้ที่ติ
ส่วนทางฝั่ง EV รุ่นใหญ่แห่งแคว้นบาวาเรีย BMW i7 xDrive60 M Sport ในภาพรวมถึงเป็นรถที่ใส่ลูกเล่นมาอย่างน่าสนใจ ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ที่เน้นความแพรวพราวทั้งภายนอกและภายใน สมรรถนะ ฟีลลิ่งการขับขี่ สำหรับการขับด้วยตัวเองนั้น ถือว่าทำได้แบบค่อนข้างน่าประทับใจ (หากไม่นับเรื่องขนาดรถที่ดูอุ้ยอ้าย ตามสไตล์ความเป็นซีดานรุ่นใหญ่…สำหรับคนไม่ชิน จะให้ขับแล้วชอบ ก็คงจะยากหน่อย) แต่สิ่งที่ทำให้ประทับในได้มากกว่าหลายขุม คือ ความรู้สึกในการนั่งด้านหลัง ซึ่ง BMW i7 xDrive60 M Sport จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นะบาเนวดไฟฟ้าที่แยกมาให้ทั้ง 4 ตำแหน่ง หน้าจอ Theater Screen ที่ทำงานร่วมกับชุดเครื่องเสียง B&W รองรับความบันเทิงในรูปแบบ Immersive Sound โดยฟังค์ชั่นและการจวบคุมต่างๆ สามารถทำได้โดยง่ายที่บริเวณมือจับประตูอันเป็นที่อยู่จองเซ็ตหน้าจอระบบสัมผัส โดยรวมคือ เป็นรถที่ลองนั่งแล้วแอบหลงใหลได้ในเวลาไม่นานเลยจริงๆ
พื้นที่โดยสารตอนหลัง กับเบาะนั่งที่ลองอย่างไรก็ยังไม่รู้สึก “ลงตัว”
หน้าจอ Theater Screen มิติใหม่แห่งความบันเทิง พร้อมสะบบเสียงระดับไดมอนด์จาก B&W
เอาล่ะ…หลังจากที่พูดถึงภาพรวมของความแตกต่างกันแบบแบบหอมปากหอมคอ งานี้ตามหัวข้อ…ใครจะดี หรือไม่ดีกว่าอย่างไร #ทีมขับซ่า เราไม่ขอฟังธงเรื่องนั้น แต่เราจะมาโฟัสในเรื่องอัตราเร่งและพละกำลังที่เร้าใจของ Mercedes-EQS500 4Matic vs. BMW i7 xDrive60 M Sport คันไหนจะทำได้ดีกว่ากัน แน่นอนว่า ทั้งคู่ขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive ด้วยมอเตอร์คู่ ซึ่งตัวเลขที่ฝั่งค่ายดาวสามแฉกเคลมเอาไว้ คือ 449 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 828 นิวตัน-เมตร ส่วนทางฝั่งคู่กับใบพัดฟ้าขาว เคลมตัวเลขแรงม้าไว้ที่ 544 แรงม้า กับแรงบิด 745 นิวตัน-เมตร ภาพรวมของตัวเลข คือ ไม่ได้ต่างกันมาก ทางฝั่ง Mercedes-EQS500 4Matic ได้เปรียบเรื่องแรงบิดที่ดีกว่า BMW i7 xDrive60 M Sport แต่ฝั่ง ก็มีแรงม้ามากกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อความเร็วสูงสุดที่ทำได้เหนือกว่าหากเทียบตามทฤษฎี
เทียบอัตราเร่ง Mercedes-EQS500 4Matic vs. BMW i7 xDrive60 M Sport
| Mercedes-EQS500 4Matic | อัตราเร่ง | BMW i7 xDrive60 M Sport |
| 1.51 | 0-40 กม./ชม. | 1.79 (+ 0.28) |
| 2.26 | 0-60 กม./ชม. | 2.73 |
| 3.23 | 0-80 กม./ชม. | 3.69 |
| 4.50 | 0-100 กม./ชม. | 4.91 (+ 0.41) |
| 6.07 | 0-120 กม./ชม. | 6.47 |
| 8.00 | 0-140 กม./ชม. | 8.38 |
| 10.29 | 0-160 กม./ชม. | 10.51 (+ 0.22) |
| 12.98 | 0-180 กม./ชม. | 13.33 |
| 16.17 | 0-200 กม./ชม. | 16.34 (+ 0.17) |
| 0.96 | 60-80 กม./ชม. | 0.97 |
| 2.85 | 80-120 กม./ชม. | 2.79 |
| 1.59 | 100-120 กม./ชม. | 1.54 |
| 12.82 วิ. @ 179.3 กม./ชม. | ควอเตอร์ไมล์ | 13.05 วิ. @ 180.1 กม./ชม. |
| 211.4 กม./ชม. | ความเร็วสูงสุด | 226.0 กม./ชม. |
Mercedes-EQS 500 4Matic AMG Premium ราคา 7,200,000 บาท
BMW i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท
หากลองเปรียบเทียบจากตารางในด้านบน จะเห็นได้ว่า ที่เซ็ตรูปแบบการขับขี่โดยเน้นความกระชับ กระฉับกระเฉง และมีแรงบิดที่มากกว่า Mercedes-EQS500 4Matic สามารถชิงความได้เปรียบ ออกตัวได้ดีกว่าจากจุดหยุดนิ่ง (ช่องว่างช่วงออกตัวถึง 40 กม./ชม. อยู่ที่ 0.28 วินาที) พร้อมกับใช้ความได้เปรียบในเรื่องแรงบิด ค่อยๆ ทำความเร็วยืดห่างออกไปเล็กน้อยในช่วง 100 กม./ชม. (ส่วนต่าง 0.41 วินาที) แต่หลังจากตั้งลำได้ ก็เริ่มลดช่องว่างลงมา BMW i7 xDrive60 M Sport ด้วยระดับพละกำลังที่มากกว่า โดยที่ความเร็ว 160 และ 200 กม./ชม. ตามลำดับ ระยะห่างถูกร่นลงมาเหลือเพียง 0.22 และ 0.17 วินาที เท่านั้น หากวัดกันด้วยเวลาการวิ่งควอเตอร์ไมล์ หรือระยะ 0-402 ม. เป็นทางฝั่ง Mercedes-EQS500 4Matic ที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ผ่านเส้นไปด้วยเวลา 12.82 วิ. ที่ความเร็วปลายเส้น 179.3 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 211.4 กม./ชม. ส่วนทางฝั่ง BMW i7 xDrive60 M Sport แม้อัตราเร่งในระยะควอเตอร์ไมล์จะเป็นรอง แต่ด้วยแรงม้าที่สูงกว่า ส่งให้ความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ในระดับถึง 226.0 กม./ชม.
