เป็นเวลาเกือบ 6 ทิศวรรษ ที่ขุมพลังในรูปแบบ 4 สูบ ถูกปลดประจำการไปจากสปอร์ตในตระกูล SL ของค่ายสามแฉก หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mercedes-AMG ณ ปัจจุบัน โดยหากพูดถึงสปอร์ตโร๊ดสเตอร์ในตระกูล SL รุ่นสุดท้าย ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ อาจต้องย้อนกลับไปถึงปี 1963 เลยทีเดียว ดังนั้นการกลับมาของ Mercedes-AMG SL43 เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่เป็นการคัมแบคของเครื่องยนต์ในรูปแบบ 4 สูบ Down Sizing กับสมรรถนะในระดับสูง จึงดูเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจไม่น้อย
Mercedes-AMG SL43 น้องเล็กของตระกูล SL ในรหัส R232
หลังจากที่เมื่อปลายปีก่อน ทางค่าย Mercedes-AMG ได้เปิดตัวรุ่นพี่อย่าง Mercedes-AMG SL55 4Matic และ SL63 4Matic+ ที่มาพร้อมขุมพลัง V8 Bi-Turbo พิกัด 4.0 ลิตร ไปเป็นที่เรียบร้อย มาในครั้งนี้เป็นทีของรุ่นปฐมบทของรถในสไตล์สปอร์ตโร๊ดสเตอร์ 2+2 ที่นั่ง ภายใต้รหัส R232 หรือในชื่ออย่างเป็นทางการว่า Mercedes-AMG SL43 โดยสิ่งหนึ่งไปในรถตระกูล 43 เวอร์ชั่นนี้ก็คือ จากเดิมที่เคยใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ V6 Bi-Turbo พิกัด 3.0 ลิตร แต่ในครั้งนี้…มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ครั้งสำคัญ ซึ่งมาในรูปแบบ 4 สูบ พ่วงด้วยชุดเทอร์โบไฟฟ้า E-Turbo ซึ่งช่วยลบข้อบกพร่องของรถที่ใช้รถบบอัดอากาศได้อย่างน่าสนใจ โดยในช่วงรอบต่ำ มอเตอร์ที่อยู่รอบแกนเทอร์โบ จะช่วยสร้างแรงหมุนของเทอร์โบเพื่อให้พร้อมสำหรับการทำลม ก่อนที่ไอเสียจะเข้ามารับช่วงต่อในย่านรอบสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการรอรอบของเทอรโบลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขุมพลัง 2.0 ลิตร E-Turbo พ่วงมอเตอร์ Mild Hybrid กำลัง 375 + 13 แรงม้า
สำหรับรายละเอียดของขุมพลัง 4 สูบ ที่ประจำการอยู่ใน Mercedes-AMG SL43 นั้น เป็นบล็อคเครื่องยนต์ที่มาในรหัส M139 พิกัด 2.0 ลิตร พ่วงด้วยชุดเทอร์โบไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของค่าย ที่มีการนำเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดจากการแข่งขัน Formula 1 มาใช้กับรถในระดับโปรดักชั่น โดยนอกจากชุดเทอร์โบในรูปแบบใหม่แล้ว ยังมีการนำระบบ Mild Hybrid หรือระบบช่วยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 48 โวลต์ เจนเนอเรชั่นที่ 2 เพื่อช่วยเรียกอัตราเร่งอีกด้วย โดยเครื่องยนต์เพียวๆ สามารถทำแรงม้าได้ที่ 375 ตัว ที่ 6,750 รอบ/นาที (กำลังต่ำกว่ารถในตระกูล 45 ที่เป็นรุ่นที่แรงที่สุดในตระกูลเครื่องยนต์ 4 สูบ ประมาณ 40 แรงม้า) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร แบบยาวๆ ตั้งแต่ 3,250 – 5,000 รอบ/นาที ซึ่งหากรวมมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปด้วย จะช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนได้อีก 13 แรงม้า ในช่วงสั้นๆ
Mercedes-AMG SL43 มาพร้อมระบบส่งกำลังในรูปแบบเกียร์อัตโนมัติ MCT 9 สปีด ปรับจูนโดย AMG ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนที่ 2 ล้อหลัง โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ถูกเคลมไว้ที่ 4.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 275 กม./ชม. ระบบช่วงล่างของ Mercedes-AMG SL43 มาในรูปแบบ AMG Ride Control พร้อมฟังค์ชั่นการขับขี่ AMG Dynamic Select ที่สามารถเลือกได้ถึง 5 โหมด และสามารถเพิ่มเป็น 6 โหมด ได้ด้วย AMG Dynamic Plus Package ซึ่งสิ่งที่เพิ่มขึ้นมานอกจากโหมดการขับขี่ก็คือ การปรับลดความสูงของตัวรถลงอีก 10 มม., ชุดแท่นเครื่องที่มีความกระชับมากขึ้น, เฟืองท้าย Limited Slip ที่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า รวมถึงคาลิเปอร์เบรกสีเหลือง
ปัจจัยที่เป็นตัวแยกความแตกต่างของรถในตระกูล SL ระหว่าง Mercedes-AMG SL43 กับรุ่นพี่ คือ ปลายท่อไอเสีย ที่มาใยนรูปแบบท่อคู่ทรงกลม 2 ฝั่ง (ของรุ่นพี่เป็นสี่เหลี่ยม) เช่นเดียวกับล้อที่ให้มา เป็นขนาด 19 นิ้ว (เลือกออพชั่นล้อ 20 นิ้ว เพิ่มได้ หรือเปลี่ยนเป็นล้อขนาด 21 นิ้ว จากรุ่นพี่ได้เช่นกัน) สิ่งที่น่าสนใจของ Mercedes-AMG SL43 ก็คือ การยังคงไว้ซึ่งตัวช่วยการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการช่วยเลี้ยวด้วยล้อคู่หลัง (ความเร็วต่ำกว่า 100 กม./ชม. เลี้ยวในทิศทางตรงข้าม, ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. เลี้ยวในทิศทางเดียวกัน)
นอกจากรุ่นพี่ทั้ง Mercedes-AMG SL55 4Matic และ SL63 4Matic+ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า รวมถึง Mercedes-AMG SL43 ทางค่ายยังมีแพลนที่จะออกรถในตระกูล SL เพิ่มเติม ไฮไลท์คงหนีไม่พ้นรุ่น SL63 E-Performance (แบบเดียวกับใน Mercedes-AMG GT 63 S E Performance) ซึ่งถือเป็นขุมพลังที่แรงที่สุดเท่าที่ Mercedes-AMG เคยนำมาใช้กับรถในระดับโปรดักชั่น
ขอขอบคุณคลิปจาก You Car
