หากใครยังพอจำกันได้…ย้อนเมื่อ 6 เดือนก่อน ทางค่าย Mercedes-AMG ได้เผยโฉมรถต้นแบบในชื่อ PureSpeed ในการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง Monaco Grand Prix 2024 หลังจากนั้น…ในช่วงเวลาราวครึ่งปีที่ผานมา ก็มีภาพการทดสอบของสปอร์ตโร๊ดสเตอร์ผู้นี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดทางค่ายก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Mercedes-AMG PureSpeed เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในการแข่งขัน Abu Dhabi Grand Prix โดยพร้อมทำตลาดในจำนวนจำกัดเพียง 250 คันทั่วโลก ซึ่งนี่จะเป็นสปอร์ตรุ่นแรกในตระกูล Mythos Series ที่ได้ชื่อว่าเป็นเวอร์ชั่นโคตร Rare ของ Mercedes-AMG อีกด้วย
กลิ่นอายของการออกแบบ Mercedes-AMG PureSpeed มาในธีมเฉลิมฉลองครบรอบกว่า 100 ปี ของ Mercedes Motorsport โดยเป็นการจับเอาสปอร์ตโร๊ดสเตอร์รุ่นใหญ่อย่าง Mercedes-AMG SL63 มาปรับดีไซน์ โดยถอดเอากระจกบังลมหน้า พร้อมชุดหลังคาออกไป เพื่อให้ผู้ครอบครองได้สัมผัสอรรถรสการขับขี่แบบ “ลมปะทะหน้า” ตามชื่อความเป็น PureSpeed ซึ่งก็แน่นอนว่า สปอร์ตผู้นี้ ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญที่พบมาตั้งแต่ตอนยังเป็นคอนเซ็ปท์คาร์ นั่นก็คือ การคาดกลางห้องโดยสารด้วย Halo ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula 1
นอกจากการแข่งห้องโดยสารออกเป็น 2 ส่วน ซ้าย-ขวา ด้วย Halo แล้ว Mercedes-AMG PureSpeed ยังคงผสานแนวทางการออกแบบทางด้านท้าย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสปอร์ตระดับไอคอนิคอย่าง Mercedes-Benz 300SLR อีกด้วย โดยลวดลายสีดำ-แดง และหมายเลข 10 ที่คาดอยู่บนตัวรถ สื่อถึง Mercedes-Benz Targa Florio รถรุ่นแรกของค่ายดาวสามแฉก ที่ชนะการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในปี 1924 อย่างไรก็ตาม…สีดำ – แดง ดังกล่าว เป็นสีในโทนออริจินัลของผู้สร้างตัวแข่งในตำนานฝั่งอิตาเลียน ซึ่งหากยังไม่ใช่สีที่ถูกใจ Mercedes-AMG PureSpeed ยังจะมีสีตัวถัง Matte Silver ที่สะท้อนกลิ่นอายความเป็นเยอรมันสไตล์ได้อย่างชัดเจนมากกว่า มาเป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วยเช่นกัน
Mercedes-AMG PureSpeed
ถือเป็นหนึ่งในรถที่ใส่เอกลักษ์ของรถในกลุ่มมอเตอร์สปอร์ตของ Mercedes-AMG ไว้มากที่สุด โดยนอกจากจะใช้กลิ่นอายจากสปอร์ตรถดับไอคอนิคในยุคอดีตแล้ว ดีไซน์ในด้านหน้า…ยังได้รับกลิ่นอายมาจากไฮเปอรืคาร์ของแบรนด์อย่าง Mercedes-AMG One ซึ่งเป็นรถระดับโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดใน Nurburgring ณ เวลานี้ พร้อมกับเติมชิ้นส่วนต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มแอโร่ไดนามิคส์ของ Mercedes-AMG PureSpeed ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานมากขึ้น เช่น สปอยเลอร์ท้ายแบบยกและขยายโดยอัตโนมัติ, ระบบแอคทีฟแอโร่ไดนามิคส์ Active Ride Control, ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิค, ล้ออัลลอย Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมแอโร่โคเวอร์ รวมถึงระบบช่วยเลี้ยวด้วยล้อคู่หลัง ในส่วนของชิ้น Halo ทำจากโลหะที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมเสริมความแข็งแรงให้กับตัวถังด้วยเซ็ตโรลบาร์ทางด้านท้าย ด้านเครื่องยนต์…ยังคงเป็นรูปแบบเดียวกับ Mercedes-AMG SL63 คือ ใช้บล็อค V8 Bi-Turbo พิกัด 4.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 577 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ AMG Speed Shift 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Matic+ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม.
สำหรับเครื่องเคียงที่มาพร้อมกับ Mercedes-AMG PureSpeed คือ หมวกกันน้อคดีไซน์ลู่ลม ที่มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อด้วยอินเตอร์คอม เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถ สามารถสื่อสารกันได้ในขณะขับขี่ ซึ่งระบบการเชื่อมต่อดังกล่าว ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบสั่งการและระบบความบันเทิงภายในรถได้อีกด้วย นอกจากนี้ Mercedes-AMG PureSpeed ยังมาพร้อมเอกลักษณ์บนคอนโซลด้วยนาฬิกาจาก IWC Schaffhausen และที่ขาดไม่ได้ คือ เซ็ตหลังคาเพื่อใช้คลุมภายในห้องโดยสาร โดยมีข้อแม้อย่างเดียวคือ สามารถใช้งานได้เฉพาะในเวลาที่รถจอดนิ่งเท่านั้น !