ย้อนกลับไป 2 ปี ให้หลัง ตัวแรงของค่าย Mercedes-AMG อย่าง Mercedes-AMG GT Black Series ได้สร้างสถิติ Best Record เวลาต่อรอบที่ดีที่สุดของรถในระดับโปรดักชั่น ณ สนาม Nürburgring Nordschleife ด้วยสถิติเวลา 6:48.047 นาที ก่อนที่ในอีก 6 เดือนให้หลัง เป็นทางค่าย Porsche ที่นำ Porsche 911 GT2 RS Manthey Performance มาวาดลวดลายขั้นสุด จนทวงบัลลังก์ King of the ring กลับมาได้สำเร็จด้วยเวลา 6:43.30 นาที ซึ่งสร้างความคับแค้นให้กับค่าย Mercedes-AMG GT Black Series เป็นอย่างมาก จนถึงขนาดต้องมีการค่อนขอดกันในโลกโซเชียล เป็นที่มาของการปะทะคารมจากสาวกของทั้ง 2 ฝั่ง
Mercedes-AMG ONE ไฮเปอร์คาร์ระดับ 1,000 แรงม้า แห่ง Affalterbach
ในช่วงเดือนพฤษจิกายน 2022 ค่าย Mercedes-AMG กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในระดับรถโปรดักชั่นอีกครั้ง ด้วยการส่งอาวุธหนักอย่าง Mercedes-AMG ONE มาวาดลวดลายในระยะทาง 20.8 กม. ของสนามแข่งที่ได้ชื่อว่าโหด หิน และอันตรายที่สุดในโลก โดยที่ผ่านมา Mercedes-AMG ONE ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นรถในระดับโปรดักชั่นที่มีสมรรถนะเหนือกว่า Mercedes-AMG GT Black Series อยู่หลายขุม ซึ่งหากจะขนานนามไฮเปอร์คาร์ผู้นี้ว่า “เป็นรถแข่ง Formula 1 ในเวอร์ชั่นที่พร้อมวิ่งบนถนน” ก็คงจะไม่ใช่ความจริงที่เกินเลย
Maro Engel นักขับ DTM และแอมบาสเดอร์ของ Mercedes-AMG กับสถิติเวลา 6:35.183 นาที
สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ แม้ว่าสภาพสนามจะไม่อำนวยนัก แต่ Mercedes-AMG ONE ที่ขับโดย Maro Engel นักขับ DTM และแอมบาสเดอร์ของ Mercedes-AMG ก็สามารถเซ็ตระดับเวลาไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยตอกตัวเลขเอาไว้ที่ 6:35.183 นาที หลังจากวิ่งผ่านเส้นชัยในระยะ 20.832 กม. ซึ่งหากเทียบแล้ว ถือว่าเร็วกว่ารถที่เป็นเจ้าของสถิติเดิมกว่า 8 วินาที เลยทีเดียว ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่ช่วยให้ Mercedes-AMG ONE สามารถทำเวลาได้เร็วก็คือ ขุมพลังในรูปแบบไฮบริดระดับกว่า 1,000 แรงม้า ที่ได้รับการต่อยอดเทคโนโลยีมาจากรถที่ใช้ในการแข่งขัน Formula 1 ทำงานร่วมกับระบบแอโร่ไดนามิคส์ขั้สุดที่ช่วยกดตัวรถให้เกาะกับผิวแทร็กได้ดีมากขึ้น
สำหรับการบันทึกสถิติเวลาในสนาม Nürburgring ของ Mercedes-AMG ONE เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยแม้ว่าการวิ่งจะเริ่มในเวลา 17.14 น. (เพียง 1 นาที ก่อนที่ทางสนามจะปิด และไม่อนุญาตให้รถเข้าไปวิ่งทดสอบ) ในสภาพที่มีแดดออก แต่สภาพสนามโดยรวมนั้นยังคงมีความชื้นอยู่มาก เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูหนาว และด้วยความยาวของสนาม Nürburgring ที่มีช่วงทางตรงยาวกว่าสนามทดสอบของทาง Mercedes-AMG มาก ทำให้ Maro Engel ต้องวางแผนการใช้ DRS ในช่วงที่เหมาะสม เพื่อบริหารพลังงานในการสร้างความเร็วสะสมให้กับตัวรถอย่างมีประโยชน์สูงสุด รวมถึงต้องใช้ระบบการคืนพลังงานจากการเบรกหรือชลอความเร็วในระดับที่เข้มข้น
สำหรับการขับเพื่อทำเวลาในครั้งนี้ Maro Engel เลือกขับในโหมด Race Plus ซึ่งขุมพลัง V6 เทอร์โบ พิกัด 1.6 ลิตร พร้อมมอเตอร์ช่วยขับเคลื่อนทั้ง 4 ตัว จะมีการปล่อยกำลังอย่างเต็มที่ในระดับ 1,063 แรงม้า เช่นเดียวกับระบบแอโร่ไดนามิคส์ที่จะทำงานแบบแปรผันตามสภาพการขับขี่ โดยตัวรถจะมีการลดความสูงลงเล็กน้อย เพื่อให้สามารถผ่านโค้งได้ด้วยความเร็วสูง โดย Mercedes-AMG ONE สามารถทำความเร็วสูงสุดในช่วงทางตรงได้ถึง 338 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่ใกล้เคียงกับที่ไฮเปอร์คาร์ที่วิ่งในช่วงทางตรง Döttinger Höhe ของสนาม Nürburgring ได้เร็วที่สุดเคยทำไว้ที่ 350 กม./ชม.
