ปฏิเสธไม่ได้ว่า…ในยุคปัจจุบัน หรือตั้งแต่ช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา มนุษย์ที่มีอิทธิพลต่อวงการมอเตอร์สปอร์ตของแบรนด์ Mercedes-AMG คงหนีไม่พ้น Sir Lewis Hamilton นักขับชาวสหราชอาณาจักร ที่พาค่ายดาวสามแฉกครองความยิ่งใหญ่ในวงการ Formula 1 มากว่า 1 ทศวรรษ โดยตั้งแต่เทิร์นโปรกับทีมในปี 2007 Sir Lewis Hamilton สามารถคว้าโพเดียมให้กับทีมได้ถึง 202 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้น เป็นการยืนบนโพเดี้ยมสูงสุด 105 ครั้ง และแน่นอนว่า…เขาสามารถคส้าแชมป์โลก Formula 1 ให้กับ Mercedes-AMG ได้ถึง 7 สมัย จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักแข่งที่ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญที่สุดในวงการ F1
Sir Class ผลงานการปั้นของสำนักแต่ง HOF สู่ความเป็น G Wagon ที่แรงที่สุดในโลก
เพื่อเป็นการสดุดีความยิ่งใหญ่ของ Sir Lewis Hamilton สำนักแต่งจากเยอรมนีในชื่อ HOF นำโดย Philipp Schiemer อดีต CEO ของ Mercedes-AMG นำแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของนักแข่งผู้ยิ่งใหญ่ มาสรรค์สร้างผลงานแบบคัสตอม Mercedes-AMG G-Class ในแบบฉบับที่เรียกว่า Sir Class ซึ่งอัดแน่นไปด้วยกิมมิคมากมายเพื่อยกระดับสู่ความเป็นรถรุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัด อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็น G Wagon ที่แรง เร็ว และทรงคุณค่าที่สุดในโลก
แน่นอนว่า Sir Class เป็นการอัพเกีดพื้นฐานมาจาก Mercedes-AMG G63 ที่มาพร้อมขุมพลัง 4.0 ลิตร V8 Bi-Turbo แต่ได้รับการอัพเกรดแบบยกทั้งระบบ ไล่มาตั้งแต่ในส่วนของลูกสูบอลูมินัมฟอร์จ, ก้านสูบ ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับระบบดักอากาศด้วยอลูมินัมแอร์บ็อกซ์ และอัพเกรดชุดเทอร์โบใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการทำลมที่สูงมากขึ้น ตามด้วยการอัพเกรดโปรแกรมในกล่อง ECU ใหม่ เพื่อให้รองรับกับระดับความแรงและชิ้นส่วนที่ใส่เข้าไป จนเป็นที่มาของพละกำลังในระดับ 1,063 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 1,300 นิวตัน-เมตร ซึ่งช่วยลากตัวถังของ Mercedes-AMG Sir Class ให้ทะยานจากจุดหยุดนิ่ง ถึงความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 299 กม./ชม.
เซ็ตพวงมาลัยดีไซน์ครึ่งวงกลมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Mercedes-AMG W13 E Performance
Mercedes-AMG Sir Class มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ถูกตกแต่งแบบคัสตอม ซึ่งแน่นอนว่า วัสดุหลักที่ใช้เป็นส่วนประกอบ เช่น ฝากระโปรงหน้า คงหนีไม่พ้นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยทำให้ตัวรถทรงกล่องมีน้ำหนักเบาลง ในส่วนของสีสันเงินไล่เฉดดำและลวดลาย ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง Formula 1 ของทีม Mercedes-AMG Petronas จับคู่กับเซ็ตล้อคาร์บอนขนาด 23 นิ้ว ก่อนจะเปลี่ยนเซ็ตโช้กอัพใหม่ ส่งผลให้ความสูงโดยรวมของตัวรถ ต่ำลงมาอีกราว 30 มม. เพื่อลดแรงด้านและเพิ่มความกระชับในการวิ่งที่ความเร็วสูง ก่อนจะตบท้ายด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชุดเบรกของ Mercedes-AMG Sir Class ด้วยจานเบรกที่ทำจากคาร์บอนเซรามิค
การออกแบบภายในที่เลือกคัสตอมได้ตามต้องการ โดยธีมสีหลักยังคงเป็นสีดำสลับสีเขียวอมฟ้า
ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-AMG Sir Class มาพร้อมการตกแต่งด้วยสีดำ สลับสีเขียวอมฟ้า (Teal) อันเป็นสีประจำแบรนด์ Petronas ด้านเบาะนั่งมาในรูปแบบ Bucket Seat เน้นความกระชับในการขับขี่ หุ้มด้วยหนังแท้และ Alcantara พร้อมปักตัวเลข 1063 เพื่อบ่งบอกระดับความร้อนแรงของ Mercedes-AMG Sir Class ในส่วนของพวงมาลัยที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์สลับอัลคันทารา มาในทรงครึ่งวงกลม ลักษณะคล้ายกับพวงมาลัยของรถแข่ง Mercedes-AMG W13 E Performance ของ Sir Lewis Hamilton นอกนั้นการตกแต่งภายในห้องโดยสาร จะเน้นไปที่งานคัสตอมด้วยสีเขียวอมฟ้า ทั้งในส่วนของแผงแดชบอร์ดและแผงประตู พร้อมสร้างบรรยากาศยามค่ำคืนด้วย Starry Sky Ceiling ซึ่งทำในลักษณะเดียวกับ Starlight Headliner อันเป็นเอกลัษณ์ของแบรนด์ Rolls-Royce
Mercedes-AMG Sir Class เปิดตัวในการแข่งขัน Abu Dhabi Grand Prix ที่ผ่านมา ซึ่งนี่ถือเป็นเรซการแข่งขันสุดท้ายของ Sir Lewis Hamilton กับ Mercedes-AMG Petronas (ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับอดีตคู่ปรับสำคัญอย่าง Ferrari ในฤดูกาลหน้า) โดยทาง HOF จะสร้าง Mercedes-AMG Sir Class ทำตลาดในจำนวนเพียง 11 คัน เท่านั้น โดยแต่ละคันจะมีค่าตัวเริ่มต้นที่ $690,000 หรือราว 23.4 ล้านบาทไทย แบบยังไม่รวมภาษีนำเข้า 300% ซึ่งหากรวมแล้ว…อาจทำให้ราคาของ G Sir Class คันนี้ ทะลุ 75 ล้านบาท ก็เป็นได้
