เยอรมนีถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศูนย์ทดสอบ รวมถึงสนามแข่งรถยนต์มากมาย ซึ่งนอกจากสนามระดับตำนานอย่าง Nurburgring ที่ค่ายรถแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มักนำตัวแรงออกมาทุบสถิติก่อนที่จะเปิดตัวเป็นว่าเล่นแล้ว หนึ่งในสนามที่ได้รับความนิยมสูงสุดลำดับต้นๆ ในประเทศศูนย์รวมอุตสาหกรรมยานยนต์ฝั่งตะวันออก คงหนีไม่พ้นสังเวียน Hockenheim Ring ที่สุดแสนจะท้าทาย
McMurtry Speirling ราชาคันใหม่แห่ง Hockenheim Ring
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Mercedes-AMG One ได้ชื่อว่าเป็น “ราชา” แห่งรถในรูปแบบโปรดักชั่นที่ทำลายสถิติเวลาต่อรอบในสนามแข่งชั้นนำมาแล้วหลายต่อหลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึงสังเวียนในบ้านเกิดทั้ง Nurburgring และ Hockenheim Ring โดยในสนามแห่งนี้ Mercedes-AMG One สามารถทำเวลาต่อรอบเอาไว้ที่ 1 นาที 38.5 วินาที เมื่อราว 2 ปีก่อน แต่ ณ ปัจจุบัน สถิติดังกล่าว ได้ถูกทำลายโดยอสุรกายรุ่นจิ๋วอย่าง McMurtry Speirling เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยรถคันนี้…ทำเวลาต่อรอบในสนาม Hockenheim Ring ไว้เพียง 1 นาที 24.4 วินาที ด้วยผลงานการขับของ Max Chilton ส่งผลให้เวลาต่อรอบของ McMurtry Speirling นับเป็นสถิติที่เหนือกว่า Mercedes-AMG One อยู่ถึง 14.1 วินาที ส่งให้ตัวแรงขุมพลัง EV คันนี้ เป็นรถล้อปิดที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดใน Hockenheim Ring ซึ่งก่อนหน้านี้ McMurtry Speirling เคยสร้างชื่อมาแล้วในงาน Goodwood Festival of Speed หลังจากที่ทำเวลาวิ่ง Hill Climb ในเทศกาลดังกล่าวเพียง 39 วินาที
นอกจากนี้…เมื่อเทียบไปแล้ว ยังสามารถทำเวลาได้เร็วกว่าสถิติของตัวแข่ง DTM (Deutsche Tourenwagen Masters หรือสเป็คเทียบเท่ารถที่ใช้ในการแข่งขัน GT500) ที่ทำเอาไว้ในรอบคัดเลือกการแข่งขันเมื่อปี 2020 ถึง 3.9 วินาที แน่นอนว่า…การนำรถที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวิ่งในลักษณะ Time Attack อย่าง McMurtry Speirling มาเปรียบเทียบกับรถในรูปแบบโปรดักชั่น อาจไม่ใช่การเปรียบเทียบที่สมน้ำสมเนื้อนัก แต่อย่างน้อย Mercedes-AMG One ก็ได้ชื่อว่าเป็นร่างจำแลงของตัวแข่ง Formula 1 ที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้บนถนน (ส่วนอีกคันเป็นตัวแข่งในรายการระดับแนวหน้าของโลก) ซึ่งในการวิ่งจับเวลาครั้งนี้ ใช้พลังงานรวมถึงระดับการทำงานของแอโร่ไดนามิคส์เพียง 75% เท่านั้น
McMurtry Speirling เป็นรถที่มีขนาดตัวถัง ความกว้าง x ความยาว x ความสูง อยู่ที่ 1,500 x 3,400 x 1,050 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,000 มม. ซึ่งใกล้เคียงกับ Mazda MX-5 แต่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 ตัน (เบากว่า MX-5 โฉม ND) และมีแรงม้าสูงถึง 1,000 ตัว (5 เท่า ของ MX-5) ส่งตรงสู่ระบบขับเคลื่อนที่ล้อคู่หลัง นอกจากนี้ McMurtry Speirling ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 60 kWh ที่สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 20 นาที และเมื่อไฟเต็มระบบ สามารถวิ่งทำความเร็วแบบเต็มคันเร่งต่อเนื่องในสนาม Silverstone Circuit ได้กว่า 10 รอบสนาม หรือราว 60 กม. โดย McMurtry Speirling มีราคาที่สูงถึง 895,000 ปอนด์ หรือราว 41.5 ล้านบาท โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน และจะเริ่มส่งมอบในปี 2025 เป็นต้นไป
